ดาวโจนส์ปิดพุ่ง 269 จุด รับคาดการณ์แบงก์ชาติทั่วโลกร่วมรับมือ Brexit
ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (28 มิ.ย.) โดยได้แรงหนุนจากกระแสคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางทั่วโลกอาจเตรียมมาตรการเพื่อรองรับผลกระทบหลังจากอังกฤษตัดสินใจแยกตัวออกจากสหภาพยุโรป (Brexit) นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับปัจจัยบวกจากการที่นักลงทุนเข้าช้อนซื้อเก็งกำไรหลังจากตลาดร่วงลงอย่างหนักติดต่อกัน 2 วันทำการก่อนหน้านี้ รวมทั้งตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ไตรมาสแรกของสหรัฐที่ขยายตัวได้ดีเกินคาด
สำนักข่าวอินโฟเควสท์รายงานว่า ดัชนีเฉลี่ยอุตสหกรรมดาวโจนส์ปิด (28 มิ.ย.) ที่ 17,409.72 จุด พุ่งขึ้น 269.48 จุด หรือ +1.57%, ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,691.87 จุด เพิ่มขึ้น 97.43 จุด หรือ +2.12% และดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,691.87 จุด เพิ่มขึ้น 97.43 จุด หรือ +2.12%
นักลงทุนเข้าช้อนซื้อเก็งกำไรหลังจากตลาดหุ้นนิวยอร์กร่วงลงอย่างหนักในช่วง 2 วันทำการก่อนหน้านี้ อันเนื่องมาจากความวิตกกังวลที่ว่า ผลกระทบของ Brexit อาจส่งผลให้เศรษฐกิจของประเทศต่างๆในยุโรปและทั่วโลกอ่อนแอลง
หุ้นที่ถูกทุบขายอย่างหนักเมื่อ 2 วันก่อนนั้น ได้รับแรงซื้ออย่างคึกคัก โดยเฉพาะหุ้นกลุ่มธนาคาร โดยหุ้นเจพีมอร์แกน เชส แอนด์ โค หุ้นเวลส์ ฟาร์โก ต่างก็ปรับตัวขึ้นกว่า 2.4% ขณะที่หุ้นซิตี้กรุ๊ป พุ่งขึ้น 5.1% หุ้นกลุ่มพลังงานดีดตัวขึ้นตามราคาน้ำมัน โดยหุ้นเอ็กซอน โมบิล ปรับขึ้น 2.3% หุ้นมาราธอน ปิโตรเลียม พุ่งขึ้น 8.4% และหุ้นมาราธอน ออยล์ ทะยานขึ้น 8.2% หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีปรับตัวขึ้นเช่นกัน โดยหุ้นเฟซบุ๊กพุ่งขึ้น 3.4% หุ้นซีเกท เทคโนโลยี และหุ้นไมครอน เทคโนโลยี ต่างก็ปรับตัวขึ้นอย่างน้อย 6.2%
ตลาดได้รับปัจจัยบวกหลังจากกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยตัวเลขประมาณการครั้งสุดท้ายสำหรับจีดีพีประจำไตรมาสแรก โดยระบุว่า จีดีพีขยายตัว 1.1% เมื่อเทียบรายไตรมาส สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ที่ระดับ 1%
นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงหนุนจากกระแสคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางหลายแห่งทั่วโลกอาจเตรียมมาตรการเพื่อรองรับผลกระทบ Brexit โดยล่าสุดนายมาริโอ ดรากี ประธานธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) ได้กล่าวในการประชุมประจำปีของอีซีบีซึ่งจัดขึ้นที่เมืองซินทรา ประเทศโปรตุเกสเมื่อวานนี้ว่า “การกระตุ้นเศรษฐกิจโลกให้ฟื้นตัวขึ้นจากภาวะอ่อนแอนั้น ถือเป็นหน้าที่ร่วมกันของธนาคารกลางทั่วโลก”
ขณะที่รัฐบาลญี่ปุ่นและธนาคารกลางญี่ปุ่นจะจัดการประชุมในวันนี้ เพื่อหารือถึงความเคลื่อนไหวของตลาด หลังจากที่อังกฤษลงประชามติถอนตัวจากสหภาพยุโรปเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
นักลงทุนจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในวันนี้ รวมถึงการใช้จ่าย-รายได้ส่วนบุคคลเดือนพ.ค. และยอดทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขาย (pending home sales) เดือนพ.ค.