ทำหุ้น(อีกครั้ง)โมนิก้าและทีมงาน

*หากดูจากข้อมูลที่ปรากฏให้เห็นตลอดทั้งวันที่ผ่านมาจะเห็นคำว่า window dressing ลอยไปลอยมาตลอดทั้งวัน ซึ่งเป็นคำอธิบายง่ายๆ ที่พบเห็นได้เป็นประจำในยามที่ตลาดหุ้นไทยพุ่งแรงช่วงสิ้นไตรมาส “โมนิก้า” จึงขอไหลตามน้ำไปกับกระแสข่าวดังกล่าว เพราะมันเป็นเรื่องที่ผู้คนในตลาดหุ้นให้ความสนใจมากเป็นพิเศษ จึงขอเกาะติดประเด็นดังกล่าวด้วยคนนะจ๊ะ

*ฉะนั้นอย่าแปลกใจที่เห็นกองทุนตัวแสบเข้ามาไล่เก็บหุ้นเป็นจำนวนเงิน 5.64 พันล้านบาท ขณะที่ปอบผีฟ้าก็กระโจนเข้าใส่ไปตามไปด้วยอีก 748 ล้านบาท ดัชนีถึงขยับขึ้นมาปิดที่ 1,442.66 จุด บวกไป 5.24 จุด ด้วยมูลค่า 6.20 หมื่นล้านบาท “โมนิก้า” ถือเป็นมุกเดิมที่เห็นได้เป็นประจำทุกไตรมาส และในจังหวะดังกล่าวก็เปิดช่องให้แมงเม่าเทขายหุ้นทำกำไรไปกว่า 6 พันล้านบาทเจ้าค่ะ

*งานนี้เลยขออธิบายการกระชากขึ้นของหุ้นในเที่ยวนี้ มันเป็นเรื่องของการทำหุ้นอย่างถูกกฎหมาย และอย่าลืมว่า การขึ้นของหุ้นเที่ยวนี้เป็นเหตุผลทางด้านเทคนิคล้วนๆ ไม่ใช่ปัจจัยพื้นฐานมีการเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญ และเมื่อนำประเด็นดังกล่าวมาผูกรวมกับการไม่สามารถฝ่าแนวต้าน 1,450 จุด จึงกลายเป็นตัวเร้าให้แมงเม่าเดินหน้าขายหุ้นต่อไปนะจะบอกให้

*คนที่คิดจะเล่นหุ้นในเที่ยวนี้ จึงต้องเลือกรายตัวอย่างระมัดระวัง เพราะหุ้นหลายตัวที่เห็นขึ้นแรงในเที่ยวนี้ เอาเข้าจริงก็ขยับออกจากฐานเดิมกันทั้งนั้น แถมกำลังขึ้นไปทดสอบยอดเดิมแบบนี้ “โมนิก้า” ถึงยกมือสนับสนุนให้แมงเม่าดาหน้าขายหุ้นต่อไปเรื่อยๆ เพราะโอกาสที่หุ้นจะแรลลี่ยาวๆ ยังไม่เปิดกว้างสักเท่าไหร่! วันนี้ถึงต้องรีบคิดอ่านว่า จะเอาอย่างไรดีนะคะ

*เหมือนกับในรายของ BANPU โชว์แพลทฟอร์มเป็นภูเขา 3 ลูกอย่างชัดเจน โดยตั้งต้นกันที่ 12 บาท ต่อจากนั้นไปจบลงบริเวณ 14.80 บาท ขณะที่วานนี้หุ้นวิ่งขึ้นไปทำจุดสูงสุดของวันที่ระดับ 15.30 บาท ก่อนจะลงเอยด้วยการปิดที่ระดับ 14.70 บาท บวกไป 0.10 บาท ด้วยมูลค่า 3.28 พันล้านบาท “โมนิก้า” อยากถามแฟนคลับสักหน่อยว่า รอบนี้จะซ้ำรอยกับรอบที่แล้วไหมเอ่ย?

*ส่วนที่ผิดแผกแหวกแนว “โมนิก้า” ขอโฟกัสไปที่หุ้น CK เพื่อให้แฟนคลับได้เห็นอิทธิฤทธิ์ของพวกกองทุนตัวแสบ ในช่วงที่ต้องการให้หุ้นขึ้น ก็ดันราคากันอย่างสุดโต่งเหมือนกัน วานนี้ถึงเห็นหุ้นขึ้นมาปิดที่ 29.25 บาท บวกไป 1.25 บาท หรือขึ้นไป 4.50% ด้วยมูลค่า 2.29 พันล้านบาท แถมเป็นการขึ้นมาทดสอบแนวต้าน 30 บาทอีกครั้ง มันเป็นจังหวะที่น่าคิดเหมือนกันว่า วอลุ่มแน่นขนาดนี้..มีลุ้นไปไกลกว่านี้ไหม? เพราะในรอบ 2 ปีที่ผ่านมา หุ้นยังไม่สามารถฝ่าภูผาหินตรงนี้ไปได้น่ะสิ

*เหมือนกับตัวของลูก CKP พอตั้งหลักปักฐาน 3 บาทไม่ได้ แรงเทขายก็ถล่มออกมาเรื่อยๆ จนสุดท้ายหุ้นลงมายืนอยู่ที่ 2.94 บาท ลบไป 0.22 บาท หรือลงไป 7% ด้วยมูลค่า 600 ล้านบาท มันก็ชี้ชัดว่า หุ้นกำลังหมดรอบ โอกาสที่หุ้นจะม้วนตัวลงไปอยู่ที่เส้นแนวรับ 10 วันบริเวณ 2.78 บาทเป็นไปได้สูง “โมนิก้า” จึงขอแนะนำให้ถอยออกมาดูลาดเลาเสียก่อน เพราะนาทีนี้ไม่มีอะไรแน่นอนเลยน่ะสิ

*กรณีดังกล่าวเทียบเคียงได้จากหุ้นยอดนิยมอย่าง CPF หลังจากไม่สามารถวิ่งฝ่าแนวต้าน 30 บาทขึ้นไปได้ ก็ม้วนตัวลงมาพักตัวระยะหนึ่ง ต่อจากนั้นก็ถีบตัวขึ้นไปใหม่ ก่อนจะลงเอยที่ระดับ 28.75 บาท บวกไป 1 บาท หรือขึ้นไป 3.60% ด้วยมูลค่า 1.22 พันล้านบาท พร้อมกับแสดงความต้องการอย่างชัดเจนว่า ขอทดสอบด่านดังกล่าวอีกรอบนั้น “โมนิก้า” ฟันธงได้เลยว่า ยาก..กกก! เพราะสัญญาณเทคนิคบางตัวยังไม่กลับทิศเจ้าค่ะ

*สำหรับในรายของ BIG ยังคงเป็นหุ้นที่มีขาประจำเข้ามาเล่นไม่ขาดสาย วานนี้ถึงเห็นหุ้นวิ่งขึ้นมาปิดที่ 4.06 บาท บวกไป 0.34 บาท หรือขึ้นไป 9% ด้วยมูลค่า 366 ล้านบาท ซึ่งเป็นการยืนปิดเหนือเส้นแนวต้าน 10 วันที่บริเวณ 3.92 บาท “โมนิก้า” มองจากมุมไหน ด้านไหน ก็เป็นเพียงแค่การรีบาวด์ธรรมดา เพราะสัญญาณเทคนิคตัวอื่นๆ ไม่ซัพพอร์ตอย่างที่ควรจะเป็นน่ะสิ

*ส่วนที่ “มาสวย มาดี มาถูกจังหวะ” ต้องยกให้กับ CHO หลังกระชากขึ้นมาปิดที่ 2.32 บาท บวกไป 0.32 บาท หรือขึ้นไป 16% ด้วยมูลค่า 232 ล้านบาท “โมนิก้า” ถือเป็นข้อมูลที่น่าสนใจมากๆ เพราะมันเห็นกันมาแล้วว่า เคยเอาชนะคู่ต่อสู้ที่แย่งชิงรถเมล์ NGV แบบขาดลอย แม้จะมีไฟลต์ล้างตาเกิดขึ้นอีกครั้ง แต่แต้มต่อก็ยังอยู่ที่ “เสี่ยจิง” เหมือนเดิมทุกประการ หุ้นเลยต้องไปต่อโดยไม่มีข้อโต้แย้งใช่อะป่าว..ลองไปคิดกันดูนะคะ

*ผิดกับในรายของ ILINK เดินหน้าเข้าประมูลโครงการใหญ่ๆ ตลอดเวลา จนเดือนหน้ามีลุ้นชิงโครงการมูลค่า 2,000 ล้านบาท ถัดไปในเดือนสิงหาคม ก็จะชิงเค้กงานประมูลอีก 5,000 ล้านบาท ขณะที่เดือนนี้ตุนงานเข้ากระเป๋าแล้วเหนาะๆ 1,000 ล้านบาท “โมนิก้า” ถึงไม่แปลกใจที่วานนี้หุ้นขยับขึ้นมาปิดที่ 19.20 บาท บวกไป 0.40 บาท ด้วยมูลค่า 82 ล้านบาท เพราะคนที่รู้ว่า ของเขาดีอย่างไร..ก็ต้องเก็บหุ้นต่อไปก็เท่านั้นเอง