ชู 19 หุ้นร้อน เน้นเล่นรอบ-ขายทำกำไรSET ผันผวนขาขึ้น ลุ้นทะลุ 1,450 จุด
นักวิเคราะห์มองดัชนีหุ้นไทย ผันผวนขาขึ้นเพื่อทะลุ 1,450 จุด จากผลของการซื้อกลับจาก Short-covering ของกองทุนในประเทศที่ยังไม่ได้ซื้อกลับอีก 7-8 พันล้านบาท อย่างไรก็ตาม ดัชนีเริ่มมีอัพไซด์จำกัด จึงแนะนำขายและรอซื้อกลับเมื่อดัชนีอ่อนตัวที่ระดับ 1,420-1,430 จุด การลงทุนเน้นกลุ่มที่ได้รับปัจจัยบวกจากราคาน้ำมันที่ฟื้นตัว และปัจจัยในประเทศอย่างการเร่งลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน
ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์รายงาน เช้านี้ ณ เวลา 9.06 น. ค่าเงินบาทอยู่ที่ 35.18 บาทต่อเหรียญ ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชีย ปรับตัวเพิ่มขึ้น โดยได้รับแรงหนุนจากการทะยานขึ้นของตลาดหุ้นนิวยอร์ก เนื่องจากราคาน้ำมันดิบดีดตัวขึ้นกว่า 4% ขณะเดียวกันก็มีกระแสคาดการณ์ว่า ธนาคารกลางชั้นนำของโลกจะออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพื่อรับมือกับผลกระทบจากปัจจัย Brexit
นักวิเคราะห์มองดัชนีหุ้นไทย ผันผวนขาขึ้นเพื่อทะลุ 1,450 จุด จากผลของการซื้อกลับจาก Short-covering ของกองทุนในประเทศที่ยังไม่ได้ซื้อกลับอีก 7-8 พันล้านบาท อย่างไรก็ตาม ดัชนีเริ่มมีอัพไซด์จำกัด จึงแนะนำขายและรอซื้อกลับเมื่อดัชนีอ่อนตัวที่ระดับ 1,420-1,430 จุด หากดัชนีปรับขึ้นแรงแนะนำ ขายทำกำไรเล่นรอบ การลงทุนเน้นกลุ่มที่ได้รับปัจจัยบวกจากราคาน้ำมันที่ฟื้นตัว และปัจจัยในประเทศอย่างการเร่งลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน
หุ้นเด่นเลือก PTT-PTTEP-PTTGC-CK-SEAFCO-STEC-UNIQ-CPN-ROBINS-CPALL-BJC-JASIF-DIF-THANI-KTC-KKP-SGP-IRPC และ TOP
บล.ธนชาต ระบุในบทวิเคราะห์ (30 มิ.ย.) Sentiment “บวก” จาก 1) Dow Jones +1.64% เมื่อคืนนี้ หลัง Fed และ BOJ พร้อมอัดฉีดสภาพคล่องในตลาด 2) ราคาน้ำมันดิบ Brent +4.2% หลัง US$ อ่อนค่าลง และปริมาณการผลิตน้ำมันในสหรัฐฯ ยังลดลงต่อเนื่อง ขณะที่ Bond Yield 10 ปีสหรัฐฯ แม้จะเด้งมาที่ 1.5% แต่ยังถือว่าต่ำมากอยู่ดี หนุน SET ปรับสูงขึ้นทดสอบ 1,450 จุดอีกครั้งวันนี้ ขณะที่มีเป้าหมายถัดไปที่ 1,474 จุด ตามกรอบ Uptrend Channel
ด้านราคาน้ำมันฟื้นตัวหนุนกลุ่มพลังงานอย่าง PTT, PTTEP และ PTTGC และ Infrastructure Plays ที่ได้รับผลดีจากการเร่งลงทุนโครงสร้างพื้นฐานอย่าง CK, SEAFCO, STEC และ UNIQ จะแกร่งกว่าตลาด
1) การบริโภค ลงทุนในประเทศ : “ซื้อ” CK (80% ของ Market Cap มาจากบริษัทลูกแล้ว) CPN, ROBINS และ SEAFCO “เก็งกำไร” CPALL และ BJC
2) ได้ประโยชน์จากดอกเบี้ยต่ำนาน : “ซื้อ” JASIF, DIF, THANI, KTC และ KKP (Trade Code ให้ต้าน 46.00 บาท ราคาต่ำ Book Value ปันผล 6.6-7.4%)
3) น้ำมันฟื้นตัว กำไรไตรมาส 2/59 เติบโตดี : “ซื้อ” SGP (ต้าน 17.50 บาท)
บล.แอพเพิล เวลธ์ ระบุในบทวิเคราะห์ (30 มิ.ย.) แนะนำกลยุทธ์การลงทุน ประเมินจากดัชนีความผันผวนตลาดยุโรป Vstoxx ที่เริ่มปรับตัวลดลงสู่ระดับ 28.4 และดัชนี VIX ที่ลดลงสู่ระดับ 16.6 สะท้อนความผันผวนตลาดทุนทั่วโลกในระยะสั้นน่าจะเริ่มลดลง ส่งผลบวกต่อการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงอีกครั้ง สำหรับดัชนี SET ยังประเมินแนวต้านที่ระดับ 1,450-1,460 จุด ( Forward P/E 15. 7 ) ส่งผลให้ Upside จำกัด จึงแนะนำขายและรอซื้อกลับเมื่อดัชนีอ่อนตัวที่ระดับ 1,420-1,430 จุด
บล.กรุงศรี ระบุในบทวิเคราะห์ (30 มิ.ย.) SET น่าจะผันผวนในทิศทางขึ้นต่อเพื่อทะลุ 1,450 จุด จากผลของการซื้อกลับจาก Short-covering ของกองทุนในประเทศที่ยังไม่ได้ซื้อกลับอีก 7-8 พันล้านบาท และต่างชาติที่กลับมา Net long TFEX SET50 กว่า 1.1 หมื่นล้านบาทวานนี้ แต่อาจมีแรงขายทำกำไรในช่วงท้ายตลาดเนื่องจากตลาดยังไม่มีปัจจัยบวกหนุนนำในระยะกลางและยาว
ส่วนการปรับขึ้นของตลาดสหรัฐและยุโรปนั้นเป็นเพราะนักลงทุนคลายความกังวลต่อผลกระทบของ Brexit และยังคาดหวังว่าธนาคารกลางหลายประเทศจะออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มอีก ประกอบกับราคาน้ำมันดิบที่ปรับขึ้นจะหนุนให้ราคาหุ้นกลุ่มพลังงานปรับตัวสูงขึ้นนำตลาดในวันนี้ ส่วนกลุ่มแบงก์เมื่อวานปรับขึ้นแรงวันนี้ต้องระวังแรงขายทำกำไรเนื่องจากแนวโน้มกำไรในระยะกลางยังถูกกดดันจากดอกเบี้ยที่อยู่ในระดับต่ำและค่าธรรมเนียมที่ปรับลดลง กลุ่มสื่อสาร และ Domestic Play น่าจะแผ่วลงหลังปรับขึ้นแรงต่อเนื่อง
กลยุทธ์การลงทุนวันนี้ : Selective BUY/หาก SET ปรับขึ้นแรงแนะนำ ขายทำกำไรเล่นรอบ
หุ้นเก็งกำไรระยะสั้น : IRPC และ TOP (ได้ประโยชน์จากราคาน้ำมันที่ปรับขึ้นและคาดไตรมาส 2/59 กำไรดีต่อเนื่อง)