คัดแล้ว! หุ้นเด่นหุ้นเด็ด Q3

มุมมองดีๆ จากนักวิเคราะห์ต่อสถานการณ์โดยรวมของตลาดหุ้นไทยในช่วงไตรมาส 3/59 ว่าจะอยู่ในโมเม้นที่สดใสกว่าช่วงที่ผ่านมา ด้วยดัชนีมีโอกาสไต่ระดับขึ้นไปทดสอบเป้าหมายดัชนีปีนี้ที่ 1,500 จุด ซึ่งเป็นระดับที่เป้าหมายตามโมเดล Earning yield gap โดยประเมินภาวการณ์การลงทุนจะเริ่มผ่อนคลายหลังประเด็นอังกฤษถอนตัวจากสหภาพยุโรป (Brexit) มีความชัดเจนมากขึ้น


–เส้นทางนักลงทุน–

 

มุมมองดีๆ จากนักวิเคราะห์ต่อสถานการณ์โดยรวมของตลาดหุ้นไทยในช่วงไตรมาส 3/59 ว่าจะอยู่ในโมเม้นที่สดใสกว่าช่วงที่ผ่านมา ด้วยดัชนีมีโอกาสไต่ระดับขึ้นไปทดสอบเป้าหมายดัชนีปีนี้ที่ 1,500 จุด ซึ่งเป็นระดับที่เป้าหมายตามโมเดล Earning yield gap โดยประเมินภาวการณ์การลงทุนจะเริ่มผ่อนคลายหลังประเด็นอังกฤษถอนตัวจากสหภาพยุโรป (Brexit) มีความชัดเจนมากขึ้น

ประกอบกับ ตลาดหุ้นไทยในช่วงไตรมาส 3/59 จะมีปัจจัยสนับสนุนหลักจากปรากฏการณ์ที่นักลงทุนพยายามมองหาสินทรัพย์ที่ให้ผลตอบแทนในระดับสูงเมื่อเปรียบเทียบกับอัตราดอกเบี้ยเงินฝากหรือผลตอบแทนพันธบัตร ซึ่งทำให้นักลงทุนยอมที่จะแบกรับความเสี่ยงมากขึ้นโดยปริยาย รวมถึงทั้งปัจจัยสภาพคล่องในระบบการเงินโลกก็ยังคงอยู่ในระดับสูงท่ามกลางการผ่อนคลายนโยบายการเงินของธนาคารกลางต่างๆ และการชะลอการขึ้นดอกเบี้ยของ (เฟด)

ผลลัพธ์ตามมา หากเป็นไปตามนักวิเคราะห์กล่าว ตลาดหุ้นในช่วงไตรมาส 3 ก็จะมีเงินทุนหมุนเวียนจำนวนมาก แล้วส่งผลให้ตลาดหุ้นมีความคึกคักมากขึ้น

ส่วนปัจจัยเสี่ยงที่นักลงทุนก็ต้องติดตามอย่างใกล้ชิด อย่างเรื่องประเด่นการลงประชามติร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ในประเทศซึ่งมีกำหนดในเดือนสิงหาคมนี้ และภาวะอัตราผลตอบแทนพันธบัตรเพิ่มสูงขึ้นอย่างฉับพลัน (Bond Shock) ที่อาจเกิดขึ้นหากแรงกดดันเงินเฟ้อเพิ่มขึ้นตามราคาพลังงาน รวมไปถึงการส่งสัญญาณการขึ้นดอกเบี้ย (เฟด)

จากในช่วงดังกล่าวยังมีเรื่องที่ต้องติดตาม และเป็นเรื่องที่ล้วนสำคัญ อาจทำให้สถานการณ์ที่คิดว่าจะไปในทางบวกอาจจะพลิกมาอยู่ในทางลบก็ว่าได้

ดังนั้น มีข้อมูลจากนักวิเคราะห์ บล.ทรีนีตี้ แนะนำกลยุทธ์การลงทุนและหุ้นที่น่าสนใจสำหรับการลงทุนในช่วงไตรมาส 3/59 มีดังนี้ หุ้นในกลุ่มพลังงานที่มีอัตราส่วนราคาต่อมูลค่าทางบัญชี (P/BV) ต่ำ ได้แก่ BANPU, BCP ส่วนหุ้นกลุ่มธนาคารที่มีอัตราส่วนราคาต่อมูลค่าทางบัญชี (P/BV) ต่ำ และที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัว ได้แก่ BBL,TCAP,SCB,LHBANK

ด้านหุ้นกลุ่มโรงไฟฟ้าที่มีฐานรายได้มั่นคง และกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ ที่มีเงินปันผลแน่นอน ได้แก่ GPSC, CKP, SIRI, APขณะที่หุ้นที่ได้ประโยชน์จากงานก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐาน ได้แก่ BEM, SEAFCOสำหรับหุ้นที่ได้ประโยชน์จากการฟื้นตัวของรายได้เกษตรกร ได้แก่ GLOBAL, SINGER, JMART, TKนอกจากนี้ หุ้นที่ได้ประโยชน์จากปรากฏการณ์ความผันผวนบรรยากาศลานีญา (La Nina) ได้แก่ EASTW, TVO และหุ้นที่อยู่ในหมวดอุตสาหกรรม (Sector) ที่ปรับตัว Laggard ตลาด ได้แก่ KCE, MONO

หุ้นทั้งหมดของแต่ละกลุ่มอุตสาหกรรม ถือเป็นการคัดสรรด้วยนักวิเคราะห์อย่างถี่ถ้วนแล้วว่าเป็นหุ้นเด่นหุ้นเด็ดสุดของกลุ่มแล้ว

Back to top button