‘วรภัค’ลากรุงไทยลูบคมตลาดทุน

น่าจะแน่นอนแล้วครับว่า “วรภัค ธันยาวงษ์” กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KTB จะไม่ขอต่อในตำแหน่งอีก 1 วาระ


ธนะชัย  ณ นคร 

 

น่าจะแน่นอนแล้วครับว่า “วรภัค ธันยาวงษ์” กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KTB จะไม่ขอต่อในตำแหน่งอีก 1 วาระ

ล่าสุด มีข่าวว่า เจ้าตัวนั้นได้แจ้งต่อ “สมชัย สัจจพงษ์” ในฐานะประธานกรรมการ KTB แล้ว

ขณะที่คุณวรภัค เองก็ เคยกล่าวก่อนหน้านี้ว่า ตนเองเมื่อได้ทำในสิ่งที่วางนโยบายไว้แล้ว ก็ (อาจ) ไม่ขอทำงานต่อ

เข้าใจว่า กระบวนการสรรหาคนที่จะมาแทนคุณวรภัค นั้น น่าจะเริ่มได้ในราวๆ เดือนสิงหาคมนี้ และน่าจะไปทราบผลในเดือนตุลาคม 59

ก่อนที่คนเดิมจะหมดวาระลงในคนเดือนพฤศจิกายน 2559

การสรรหาบอสใหญ่ คนใหม่ของ KTB ในครั้งใหม่นับว่าน่าสนใจ

นั่นเพราะ ปฏิเสธไม่ได้ว่า คนที่จะมานั่งบริหารธนาคารพาณิชย์แห่งนี้ ทางกระทรวงการคลังจะต้องกดปุ่มไฟเขียวให้ด้วย แม้ว่าตามขั้นตอนนั้น จะมีกรรมการสรรหา

ความน่าสนใจอีกประการคือ รัฐมนตรีคลังคนปัจจุบันนั้นคือ “อภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์”

คุณอภิศักดิ์ เป็นอดีตกรรมการผู้จัดการใหญ่ KTB มาถึง 2 วาระ หรือ 8 ปี และตลอด 8 ปี ของการทำงาน เขาก็สามารถบริหารงานได้ลงตัวในทุกๆ ด้าน

ทำงานกับฝ่ายการเมืองก็ได้

และก็ทำงานในฐานะแบงเกอร์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

จึงไม่แน่ใจว่า คุณสมบัติของคนที่จะมาทำงานต่อจากคุณวรภัค นอกจากจะเป็นแบงเกอร์ที่ดีแล้ว จะต้องมีสไตล์ในรูปแบบเดียวกับขุนคลังคนปัจจุบัน เมื่อครั้งยังทำงานอยู่กับ KTB หรือไม่

ในการสรรหาบุคคลในตำแหน่งนี้นั้น แม้ว่าในขั้นตอนจะเปิดให้มีการสมัครกันเข้ามา

แต่ตามข้อเท็จจริงแล้ว มักจะมีการเล็งไว้แล้วว่า “เป็นใคร” หลังจากนั้น ก็จะให้มาสมัคร เพื่อมาแสดงวิสัยทัศน์ ในกระบวนการคัดเลือก

เพราะอย่างน้อยก็ต้องมั่นใจว่า คนนั่งทำงานตรงนี้ ต้องทำงานภายใต้นโยบายของรัฐบาลได้

จะว่าไปแล้วในช่วงที่คุณวรภัค  นั่งในตำแหน่งนี้ ก็มีผลงานที่ดี

เริ่มจากเข้ารับตำแหน่งในช่วงเดือนพฤศจิกายน ปี 2555

ในปีนั้นกรุงไทยมีกำไรสุทธิ  23,527 ล้านบาท

ถัดมาในปี 2556 กำไรสุทธิเพิ่มขึ้นเป็น 33,929 ล้านบาท และปี 2557 กำไรก็อยู่ที่ 33,131 ล้านบาท หรือทรงตัวจากปีก่อนหน้าเล็กน้อย

ที่น่าสนใจคือ ในปี 2558 กำไรของกรุงไทย ปรับลงมาที่ 28,493 ล้านบาท

ปัจจัยที่ทำให้กำไรปรับลดลง มาจากการที่กรุงไทยต้องตั้งสำรองหนี้ฯ กรณี บมจ.สหวิริยาสตีล อินดัสตรี หรือ SSI ทั้งในส่วนกิจการในไทย และที่อังกฤษ อย่างมาก

นี่ไม่ใช่ความผิดพลาดของคุณวรภัค เพราะหนี้ก้อนนี้ถูกปล่อยออกไปก่อนหน้านี้แล้ว

หรือก่อนที่เขาจะเข้ามารับตำแหน่ง

ส่วนแนวโน้มกำไรสุทธิในปี 2559 คุณวรภัคก็ให้สัมภาษณ์ก่อนหน้านี้เป็นเชิงว่าจะออกมาดีครับ

คุณวรภัค บอกว่า กำไรก่อนหักสำรองหนี้ จะเติบโตสูงกว่าช่วงปี 2558 และน่าจะขึ้นมาเป็นอันดับ 3 ของธนาคารที่มีอัตรากำไรสูงสุด

 ฟังไปแล้วก็มีโอกาสเป็นไปได้

เพราะอย่างน้อยก็สร้างผลงานทิ้งทวน ก่อนอำลาตำแหน่งสวยๆ หน่อย

ส่วนราคาหุ้นของกรุงไทยในช่วงที่ผ่านมา เคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ 16.50–17.50 บาท มาหลายเดือน

และดูเหมือนจะไม่ได้เคลื่อนไหว หรือมีการเปลี่ยนแปลงแบบมีนัยสำคัญ เมื่อจะต้องมีการเปลี่ยนแปลงบอสใหญ่ในระดับฝ่ายบริหาร เหมือนกับหุ้น TMB

กรรมการผู้จัดการใหญ่ KTB คนใหม่จะเป็นใคร

อีกไม่น่าเกิน 3 เดือน ก็จะทราบชื่อแล้วล่ะ

 

Back to top button