ดาวโจนส์ปิดลบ หุ้นพลังงานร่วงนำหลังราคาน้ำมันดิ่ง
ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (7 ก.ค.) หลังจากราคาน้ำมันดิบ WTI ร่วงลงเกือบ 5% ซึ่งได้ฉุดหุ้นกลุ่มพลังงานปรับตัวลงด้วย อย่างไรก็ตาม ดัชนีดาวโจนส์ขยับลงเพียงเล็กน้อย เนื่องจากนักลงทุนยังคงมีมุมมองในด้านบวกต่อเศรษฐกิจสหรัฐ หลังจากออโตเมติก ดาต้า โพรเซสซิ่ง อิงค์ (ADP) เปิดเผยว่า ภาคเอกชนของสหรัฐมีการจ้างงานเพิ่มขึ้นมากกว่าที่คาดการณ์ไว้ในเดือนมิ.ย.
สำนักข่าวอินโฟเควสท์รายงานว่า ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิด (7 ก.ค.) ที่ 17,895.88 จุด ลดลง 22.74 จุด หรือ -0.13%, ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,876.81 จุด เพิ่มขึ้น 17.65 จุด หรือ +0.36% และดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,097.90 จุด ลดลง 1.83 จุด หรือ -0.09%
ดัชนีดาวโจนส์ปิดอ่อนแรงลงหลังจากราคาน้ำมันดิบ WTI ร่วงลงเกือบ 5% เมื่อคืนนี้ ซึ่งส่งผลให้หุ้นกลุ่มพลังงานปรับตัวลงด้วย โดยหุ้นเชฟรอน ร่วงลง 1.5% และหุ้นเอ็กซอน โมบิล ปรับตัวลง 1.2% ทั้งนี้ ปัจจัยที่ส่งผลให้ราคาน้ำมันดิบ WTI ร่วงลงอย่างหนักนั้น มาจากรายงานของสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) ที่ระบุว่า สต็อกน้ำมันดิบสหรัฐลดลง 2.2 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งน้อยกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ว่าจะลดลงราว 2.5 ล้านบาร์เรล
อย่างไรก็ตาม ดาวโจนส์ขยับลงเพียงเล็กน้อย เนื่องจากข้อมูลแรงงานที่แข็งแกร่งช่วยให้นักลงทุนเชื่อมั่นว่าเศรษฐกิจสหรัฐจะสามารถรับมือกับวิกฤต Brexit ได้ โดยเมื่อช่วงค่ำวานนี้ตามเวลาไทย ADP เปิดเผยว่า การจ้างงานของภาคเอกชนสหรัฐประจำเดือนมิ.ย. เพิ่มขึ้น 172,000 ตำแหน่ง มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ว่าจะเพิ่มขึ้นราว 150,000-160,000 ตำแหน่ง
ทั้งนี้ ผลสำรวจของ ADP รวบรวมเฉพาะการจ้างงานในภาคเอกชน ขณะที่ข้อมูลการจ้างงานของสำนักงานสถิติแรงงานของรัฐบาลสหรัฐ ซึ่งจะเปิดเผยในวันนี้ จะครอบคลุมการจ้างงานภาครัฐด้วย ด้านกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยเมื่อคืนนี้เช่นกันว่า จำนวนชาวอเมริกันที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกลดลง 16,000 ราย สู่ระดับ 254,000 รายในสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 2 ก.ค. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ช่วงกลางเดือนเม.ย. หรือในรอบเกือบสามเดือน
หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีดีดตัวขึ้น ซึ่งช่วยหนุนดัชนี NASDAQ ปิดในแดนบวก โดยหุ้นอินเทล คอร์ป และหุ้นแอปเปิล อิงค์ ปรับตัวขึ้นแข็งแกร่ง, หุ้นเป๊ปซี่โคพุ่ง 1.5% หลังบริษัทรายงานผลประกอบการไตรมาสสองดีกว่าคาดการณ์
นักลงทุนจับตาตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรเดือนมิ.ย.ของสหรัฐในวันนี้อย่างใกล้ชิด โดยข้อมูลดังกล่าวจะบ่งชี้แนวโน้มการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งแรกในปีนี้ ก่อนที่เฟดจะประชุมกำหนดนโยบายการเงินในวันที่ 26-27 ก.ค. ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่า ตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนมิ.ย.จะเพิ่มขึ้นราว 170,000-180,000 ตำแหน่ง หลังจากเพิ่มขึ้นเพียง 38,000 ตำแหน่งในเดือนพ.ค. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนก.ย. 2553