เรื่องนี้ต้องขยาย?โมนิก้าและทีมงาน

*ในช่วงต้นสัปดาห์ “โมนิก้า” เคยคิดว่า ดัชนีน่าจะย่ำฐานก่อนขึ้นไปยืนปักหลักสร้างฐานที่มั่นคงเหนือ 1,450 จุด  เพราะเป็นกระบวนการที่ทำให้ฐานใหม่มั่นคงขึ้นกว่าเดิม พอเอาเข้าจริงๆ ดัชนีกลับทะยานขึ้นอย่างรวดเร็ว จึงกลายเป็นอีกหนึ่งเหตุการณ์ที่ทำให้เดี๊ยนต้องลงมาคลุกวงในมากขึ้นกว่าเดิม เพื่อทำให้ภาพการลงทุนมีความชัดเจนขึ้นกว่าเดิมไงล่ะค่ะ

*เนื่องจากข้อมูลล่าสุดมีการพูดไปถึงขั้นที่ว่า ดัชนีจะวิ่งขึ้นไปถึง 1,500 จุดภายในสิ้นปี 59 แต่บางแห่งก็โหนกระแสด้วยการชิงพูดตัดหน้าคนอื่นว่า สิ้นเดือนนี้ได้เห็นแน่ๆ แถมบางแห่งให้เป้าดัชนีไปถึง 1,550 จุดก็มีไม่ใช่น้อยเหมือนกัน “โมนิก้า” ถึงต้องลุกขึ้นมาพูดถึงสิ่งที่เกิดขึ้นจริงในแต่ละวันนั้น มันช่างตรงกันข้ามกับที่ศาสดาเหล่านี้พูดไว้เหลือเกินเจ้าค่ะ

*ในเมื่อศาสดาหัวทองหัวดำทำการปรับเป้าดัชนีเพิ่มขึ้น แต่ทำไมยอดขายสุทธิยังกระจุกตัวอยู่ที่นักลงทุนสถาบันเหมือนเดิมแบบนี้ “โมนิก้า” ถึงมองเรื่องนี้เป็นเพียงมันนี่เกมรอบใหม่เท่านั้นเอง และการที่ดัชนีวิ่งขึ้นมาปิดที่ 1,456.72 จุด บวกไป 4.13 จุด ด้วยมูลค่า 6.59 หมื่นล้านบาท มันเป็นเพียงการกระตุ้นให้นักเล่นรู้สึกฮึกเหิมขึ้นในทันที จึงต้องดูกันว่า วันนี้จะไปต่อไหวหรือเปล่า?

*ส่วนที่ออกนอกลู่นอกทางไปเยอะ “โมนิก้า” ขอย้อนกลับมาเม้าท์ถึงอดีตโบรกเกอร์สัญชาติเกาหลี ซึ่งต่อมามีดอกเตอร์หนุ่มไฟแรงเฟร่อ..ออ เข้ามารับเซ้งกิจการต่ออีกทอดหนึ่ง เพราะตัวเองทนชีวิตที่เป็นลูกจ้างต่อไปไม่ไหว เลยมีความฝันอยากจะเป็น “เถ้าแก่” เสียเอง! พร้อมกับสร้างจินตนาการอย่าง “เว่อร์วัง อลังการ” แบบสุดโต่งว่า เคยปลุกปั้น บลจ. แห่งนี้สำเร็จตามเป้าหมายมาแล้ว การเข้ามาทำธุรกิจ บล. คงไม่ยากอะไรกระมั้ง!

*พอเอาเข้าจริง ก็บ่มิไก๊! เพราะของที่ไปรับเซ้งเข้ามานั้น กลายเป็นของที่มีปัญหาเรื้อรังมานาน แต่ตัวเองกลับไม่รู้เรื่องเลยสักนิด พร้อมกับออกมาตีโพยตีพายใส่ ก.ล.ต. อย่างต่อเนื่องแบบนี้ “โมนิก้า” ขอบอกให้ฟังนิดหนึ่งว่า คนในวงการโบรกเกอร์เขาหัวเราะร่วน จนฟันแทบจะร่วงหมดปากกันเลยทีเดียว โดยเฉพาะการเอาบริษัทที่กำลังจะเข้ามาตลาดหุ้นมาเป็นตัวประกัน เพื่อต่อรองกับผู้คุมกฎตลาดหุ้นกันแบบโจ่งแจ้ง มันหน่อมแน้มเกินไปหรือเปล่าน้องชาย!

*งานนี้เลยทำให้พวกสอดรู้สอดเห็น ช่วยกันขยายแผลโบรกเกอร์ตัว K.. กันอย่างเมามัน หลังดอกเตอร์หนุ่มทำตัวเปรี้ยวจี๊ดจัดจ้านเกินหน้าเกินตาไปหน่อย “โมนิก้า” ในฐานะคนรับสารจากทุกฝ่ายถึงรู้สึกเห็นใจการทำงานของ ก.ล.ต. มากเหลือเกิน เพราะประเด็นดังกล่าวทำให้ผู้คนในวงการตลาดหุ้นหันมาสนใจจุดจบของเรื่องนี้ว่าจะลงเอยแบบไหน? ซึ่งจะกลายเป็นบรรทัดฐานที่ผู้คนจะเอาไปใช้เทียบเคียงในอนาคตนะจะบอกให้

*เม้าท์ถึงเรื่องร้อนขึ้นมาทั้งที “โมนิก้า” ขอแนะนำให้แฟนคลับหันมามองหุ้น WEH หลังผู้คนที่เกี่ยวข้องโดยตรง และไม่เกี่ยวข้องโดยตรง ต่างป้องปากเม้าท์ถึงท่าทีของ ดร.เค กันอย่างแซ่บเว่อร์! จนผู้คนที่เกี่ยวข้องร้อยท่อต่อสายตรงเข้ามายังออฟฟิศไม่ขาดสายว่า หุ้นตัวนี้มีโอกาสเข้าตลาดหุ้นจริงไหม?  เพราะเรื่องที่เกิดขึ้นกับหุ้นฉาวตัวนี้ มันเป็นเหตุการณ์ไม่ปกติตั้งแต่เริ่มต้นพะยะค่ะ

*ตรงนี้เป็นประเด็นที่ “โมนิก้า” ต้องเข้าไปร่วมแจมสักเล็กน้อย เพราะมันเกี่ยวข้องกับผลประโยชน์ของนักลงทุนรายย่อยล้วนๆ หลังจากมีการซุบซิบนินทาว่า กลุ่มคนบางส่วนเริ่มไม่แฮปปี้ เพราะดูเหมือนดีลเมกเกอร์จะหักคอคนอื่นเอาดื้อๆ เดี๊ยนถึงอยากให้สังคมคอยจับจ้องเรื่องนี้อย่างกระชั้นชิด  หลังละครฉากนี้กำลังเข้มข้นมากขึ้นเรื่อยๆ บวกกับ “ตัวอิจฉา” กับ “ตัวนางเอก” เริ่มแยกภาพกันอย่างชัดเจนแบบนี้ บอกได้คำเดียวว่า สนุกแน่เจ้าค่ะ

*เหมือนกับปมที่เกิดขึ้นกับ TTA มันเป็นปมซ่อนเงื่อนที่นักเล่นต้องดูจังหวะให้ดี และอย่างที่รู้กันเป็นอย่างดีก็คือ “เสี่ยกึ้ง” ทำอะไรให้บริษัทนี้ดีขึ้นบ้าง เพราะตั้งแต่ดันบริษัทลูก PMTA เข้าตลาดหุ้นอย่างเป็นทางการเมื่อเดือน พ.ค. 58 “โมนิก้า” ก็ไม่เคยได้ยินข่าวสองแม่ลูกคู่นี้อีกเลย จึงรู้สึกสับสนเป็นอย่างมากที่เห็นหุ้นแม่วิ่งขึ้นมาปิดที่ 10 บาท บวกไป 0.80 บาท หรือขึ้นไป 8.70% ด้วยมูลค่า 930 ล้านบาท คุณเป็นเหมือนกันไหมค่ะ

*เช่นเดียวกับในรายของ MCOT ของมันเห็นกันเต็มลูกตาว่า การขึ้นมาปิดที่ 11.80 บาท บวกไป 2.70 บาท หรือขึ้นไป 30% ด้วยมูลค่า 250 ล้านบาท มันเป็นเรื่องที่พลิกล็อกพอสมควรเลยทีเดียว เพราะข้อมูลที่ผ่านมาไม่มีอะไรซัพพอร์ตสักอย่าง แถมเรตติ้งก็ตกลงเรื่อยๆ ผลขาดทุนก็งอกอย่างกับดอกเห็ด บวกกับองค์กรก็เป็นแดนสนธยา จึงต้องดูกันต่อไปว่า หุ้นจะวิ่งยาวแค่ไหนเจ้าค่ะ

*ผิดกับในรายของ CHO เพราะไฟต์นี้เป็นการรีแม็ทกับคู่ชกเดิม โดยครั้งแรกที่โคจรมาเจอกัน ก็เอาชนะแบบเบ็ดเสร็จเด็ดขาด ครั้งนี้จึงไม่น่าจะมีอะไรแตกต่างไปจากครั้งก่อน แถมได้ยินข่าวจากพรายกระซิบว่า “เสี่ยจิง” ฟิตซ้อมมาเป็นอย่างดี หุ้นเลยขานรับข่าวประมูลรถเมล์ NGV บวกกับโรงซ่อมรถเมล์มูลค่า 4 พันล้านบาท ด้วยการวิ่งขึ้นมาปิดที่ 2.64 บาท บวกไป 0.30 บาท หรือขึ้นไป 12.80% ด้วยมูลค่า 183 ล้านบาท