ARROW ทุ่มงบ 37 ลบ. ตั้งโรงงานท่อร้อยสายไฟแห่งที่ 2 คาดแล้วเสร็จปลายปีนี้

ARROW ทุ่มงบ 37 ลบ. ตั้งโรงงานท่อร้อยสายไฟใต้ดินแห่งที่ 2 หวังเพิ่มกำลังการผลิต เริ่มก่อสร้างภายในเดือนนี้ คาดแล้วเสร็จปลายปี


นายธานินทร์ ตันประวัติ กรรมการผู้จัดการ บริษัท แอร์โรว์ซินดิเคท จำกัด (มหาชน) หรือ ARROW เปิดเผยว่า บริษัทได้ลงทุนประมาณ 37 ล้านบาท เพื่อก่อสร้างโรงงานผลิตท่อร้อยสายไฟฟ้าใต้ดิน ชนิดท่อ RTRC (Reinforced Thermosetting Resin Conduit) แห่งที่ 2 บนพื้นที่ 7 ไร่ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเพิ่มกำลังการผลิตและรองรับความต้องการของตลาดท่อร้อยสายไฟใต้ดินที่มีแนวโน้มขยายตัวอยู่ในทิศทางที่ดี ตามโครงการเปลี่ยนสายไฟฟ้าอากาศเป็นระบบสายไฟฟ้าใต้ดินจากภาครัฐ เพื่อรองรับการเป็นมหานครแห่งอาเซียน ซึ่งจะเริ่มดำเนินการก่อสร้างได้ภายในเดือน ก.ค.นี้ และกำหนดแล้วเสร็จปลายปีนี้

โดยหลังจากที่โรงงานผลิตท่อ RTRC แห่งที่ 1 บนพื้นที่ 3,500 ตารางเมตร ได้เดินเครื่องผลิตเชิงพาณิชย์ไปแล้วช่วงต้นปีที่ผ่านมา และในเดือน ก.ค.นี้จะดำเนินการก่อสร้างเพิ่มเติม ซึ่งทั้ง 2 โรงงานจะช่วยเสริมกำลังการผลิตในส่วนงานท่อร้อยสายไฟได้ประมาณ 20% เนื่องจากเครื่องจักรมีประสิทธิภาพในการผลิตค่อนข้างสูง ทำให้สามารถรองรับความต้องการงานจากภาครัฐและรองรับคำสั่งซื้อจากลูกค้าได้อย่างเต็มที่

“ถือเป็นกำลังสำคัญในการผลักดันผลประกอบการของ ARROW ให้ขยายตัวมากยิ่งขึ้นในอนาคต รวมถึงช่วยเสริมศักยภาพด้านการแข่งขันด้วย ที่สำคัญจะทำให้รายได้ของบริษัทเพิ่มขึ้นประมาณ 200 ล้านบาทต่อปี”นายธานินทร์ กล่าว

อย่างไรก็ตาม สำหรับแผนการดำเนินธุรกิจในครึ่งปีหลัง บริษัทยังคงเน้นขยายธุรกิจงานท่อร้อยสายไฟ ท่อกันน้ำ และท่อร้อยสายไฟใต้ดินตามความต้องที่เพิ่มสูงขึ้น และยังคงเน้นเจาะตลาดกลุ่มลูกค้าเดิมเป็นหลัก รวมถึงการลดต้นทุนในการผลิต เพื่อรักษาอัตรากำไรขั้นต้นให้เฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 25-30% โดยเชื่อว่าแนวโน้มธุรกิจของบริษัทในครึ่งปีหลังจะยังคงขยายตัวได้อย่างต่อเนื่อง ซึ่งบริษัทจะพยายามรักษาอัตราการเติบโตของผลการดำเนินงานให้แข็งแกร่งมากกว่าที่เป็นอยู่ และผลักดันรายได้ให้เติบโตตามเป้าที่ตั้งไว้คือไม่ต่ำกว่า 1,400 ล้านบาท โดยขณะนี้มีงานอยู่ในมือ (Backlog) ประมาณ 240 ล้านบาท และยังเตรียมหางานใหม่ๆ เพิ่มอย่างต่อเนื่อง

“ในช่วงที่เหลือของปีนี้ บริษัทฯจะยังคงทำผลงานให้ขยายตัวได้อย่างต่อเนื่อง โดยมีเป้าหมายมุ่งเน้นลดต้นทุนในการผลิต และหางานใหม่ๆ ทั้งจากภาครัฐและเอกชนเข้ามาเติม เพื่อต่อยอดงานในมือให้เพิ่มสูงขึ้น ซึ่งน่าจะทำให้รายได้ปีนี้เติบโตได้ตามเป้าที่วางไว้ได้ “นายธานินทร์ กล่าว

Back to top button