น้ำมันดิบปิดลบ นักลงทุนวิตกภาวะน้ำมันล้นตลาด
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (2 ส.ค.) โดยสัญญาน้ำมันดิ่งลงหลุดจากระดับ 40 ดอลลาร์/บาร์เรลเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนเม.ย.ปีนี้ เนื่องจากนักลงทุนยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะน้ำมันล้นตลาด ขณะเดียวกันนักลงทุนจับตาดูรายงานสต็อกน้ำมันดิบประจำสัปดาห์ของสหรัฐในวันนี้อย่างใกล้ชิด
สำนักข่าวอินโฟเควสท์รายงานว่า สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.ย.ร่วงลง 55 เซนต์ หรือ 1.4% ปิด (2 ส.ค.) ที่ 39.51 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 7 เม.ย.ปีนี้ ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนก.ย.ดิ่งลง 34 เซนต์ หรือ 0.8% ปิดที่ 41.80 ดอลลาร์/บาร์เรล
ตลาดน้ำมันนิวยอร์กยังคงได้รับแรงกดดันจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะน้ำมันล้นตลาด โดยผลการสำรวจพบว่าการผลิตน้ำมันของโอเปกในเดือนก.ค.มีแนวโน้มแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์
คูเวต ซึ่งเป็นหนึ่งในสมาชิกโอเปกนั้น ประกาศขึ้นราคาน้ำมันเบนซินถึง 83% โดยคูเวตนับเป็นประเทศล่าสุดในอ่าวอาหรับที่ประกาศปรับขึ้นราคาน้ำมัน หลังราคาน้ำมันโลกที่ดิ่งลงได้ส่งผลกระทบต่อฐานะการเงินของรัฐบาลหลายประเทศในภูมิภาค
ก่อนหน้านี้ บาห์เรน โอมาน กาตาร์ ซาอุดิอาระเบีย และสหรัฐอาหรับเอมิเรทส์ ต่างก็ได้ลดการให้เงินอุดหนุนแก่ราคาพลังงานในปีที่แล้ว หลังราคาน้ำมันดิบดิ่งลง และกระทบต่อรายได้ของรัฐบาล นอกจากนี้ ลิเบียซึ่งเป็นหนึ่งในสมาชิกของกลุ่มโอเปกนั้น ได้เริ่มดำเนินการส่งออกน้ำมันจากท่าเรือขนส่ง 3 แห่งที่เคยถูกปิดก่อนหน้านี้ หลังจากที่รัฐบาลได้บรรลุข้อตกลงด้านค่าแรงกับสหภาพพนักงานรักษาความปลอดภัยที่ได้ทำการปิดท่าเรือเหล่านี้ โดยการบรรลุข้อตกลงครั้งนี้จะส่งผลให้การส่งออกน้ำมันของลิเบียปรับตัวสูงขึ้น
ขณะที่นักลงทุนจับตาดูรายงานสต็อกน้ำมันดิบประจำสัปดาห์ของสหรัฐ โดยสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐ (EIA) จะเปิดเผยข้อมูลดังกล่าวในวันนี้ เวลา 21.30 น.ตามเวลาไทย