ดอลล์อ่อนค่าหลังสหรัฐฯเผยข้อมูลศก.อ่อนแอ
สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดนิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (2 ส.ค.) หลังจากทางการสหรัฐเปิดเผยตัวเลขการใช้จ่ายผู้บริโภคที่กระเตื้องขึ้นเพียงเล็กน้อย
สำนักข่าวอินโฟเควสท์รายงานว่า ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ (2 ส.ค.) อ่อนค่าลงเมื่อเทียบเยนที่ระดับ 100.79 เยน จากระดับ 102.31 เยน และลดลงเมื่อเทียบฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9636 ฟรังก์ จากระดับ 0.9679 ฟรังก์ ในขณะที่ขยับลงเมื่อเทียบดอลลาร์แคนาดาที่ระดับ 1.3089 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.3095 ดอลลาร์แคนาดา
ส่วนค่าเงินยูโรแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.1232 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.1169 ดอลลาร์สหรัฐ ในขณะที่เงินปอนด์ลดลงแตะระดับ 1.3352 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.3193 ดอลลาร์สหรัฐ ส่วนเงินดอลลาร์ออสเตรเลียเพิ่มขึ้นแตะ 0.7610 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7565 ดอลลาร์สหรัฐ
ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงหลังจากกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า การใช้จ่ายของผู้บริโภคเพิ่มขึ้น 0.4% ในเดือนมิ.ย. ซึ่งเป็นการปรับเพิ่มขึ้นในอัตราเดียวกับเดือนพ.ค. ขณะที่รายได้ส่วนบุคคลของชาวสหรัฐเพิ่มขึ้น 0.2% ในเดือนมิ.ย. หลังจากเพิ่มขึ้น 0.2% เช่นกันในเดือนพ.ค.
ส่วนดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) พื้นฐาน ซึ่งไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงาน และเป็นมาตรวัดอัตราเงินเฟ้อที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ให้ความสำคัญนั้น ขยับขึ้นเพียง 0.1% ในเดือนมิ.ย. เมื่อเทียบรายเดือน หลังจากเพิ่มขึ้น 0.2% ในเดือนพ.ค. ทั้งนี้ การขยับขึ้นของดัชนี PCE ยังคงห่างจากเป้าหมายอัตราเงินเฟ้อที่ 2% ของเฟด
เงินเยนแข็งค่าขึ้นเกือบ 1.6% เมื่อเทียบกับดอลลาร์ แตะระดับสูงสุดในรอบ 3 สัปดาห์หลังจากรัฐบาลญี่ปุ่นอนุมัติงบกระตุ้นเศรษฐกิจมูลค่า 28 ล้านล้านเยนเมื่อวานนี้ ขณะที่นักวิเคราะห์กล่าวว่า เยนปรับตัวเพิ่มขึ้นเนื่องจากตลาดมองว่า การใช้มาตรการกระตุ้นของญี่ปุ่นไม่ได้เป็นปริมาณที่สูงอย่างที่คาดไว้
ด้านนักลงทุนจับตาการประชุมประจำปีของเฟดที่เมืองแจ็คสัน โฮล รัฐไวโอมิ่ง ในวันที่ 26 ส.ค. ซึ่งนางเจเน็ต เยลเลน ประธานเฟด จะขึ้นกล่าวในการประชุมครั้งนี้ หลังจากที่ไม่ได้เข้าร่วมการประชุมในปีที่แล้ว โดยอาจมีการส่งสัญญาณเกี่ยวกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้