SCCC ซื้อหุ้น 65% ในโฮลซิม(เวียดนาม) มูลค่า 1.87 หมื่นลบ. คาดเสร็จ Q4/59
SCCC ซื้อหุ้น 65% ในโฮลซิม(เวียดนาม) มูลค่า 1.87 หมื่นลบ. คาดเสร็จ Q4/59
บริษัท ปูนซีเมนต์นครหลวง จำกัด (มหาชน) หรือ SCCC เปิดเผยว่า บริษัทได้เข้าลงนามในสัญญาซื้อขายหุ้น 65% ในบริษัท โฮลซิม (เวียดนาม) ลิมิเต็ด (HVL) จากลาฟาร์จโฮลซิม ลิมิเต็ด ในวงเงินรวม 1.87 หมื่นล้านบาท หรือประมาณ 479 ล้านยูโร หรือราว 524 ล้านเหรียญสหรัฐ โดย HVL ดำเนินกิจการโรงงานผลิตปูนซีเมนต์ครบวงจรในเวียดนาม ซึ่งจะทำให้กระจายช่องทางการหารายได้จากตลาดที่มีอัตราเติบโตมากกว่า รวมถึงยังเป็นการสร้างประโยชน์ด้านการประสานธุรกิจ (Synergy) หลายอย่างให้บริษัท โดยคาดว่าการดำเนินการจะแล้วเสร็จในไตรมาส 4/59
SCCC แจ้งว่าการดำเนินการดังกล่าว สืบเนื่องจากที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทเมื่อวันที่ 22 กรกฎาคม 2559 และวันที่ 3 สิงหาคม 2559 ตามลำดับ ได้มีมติอนุมัติให้บริษัทดำเนินการเข้าซื้อส่วนของทุนในสัดส่วน 65% ของทุนที่ชำระแล้วทั้งหมดของ HVL จาก ลาฟาร์จโฮลซิม ลิมิเต็ดนั้น ล่าสุดบริษัทได้เข้าลงนามในสัญญาซื้อขายส่วนของทุนใน HVL ฉบับลงวันที่ 4 สิงหาคม 2559 (สัญญาซื้อขาย) กับผู้ขายโดยภายใต้สัญญาซื้อขาย บริษัทตกลงเข้าซื้อส่วนของทุนในสัดส่วน 65% ของทุนที่ชำระแล้วทั้งหมดของ HVL จากผู้ขาย
ความเสร็จสมบูรณ์ของการเข้าทำรายการขึ้นอยู่กับการได้รับมติอนุมัติจากที่ประชุมผู้ถือหุ้นของบริษัท ความเห็นชอบจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของประเทศเวียดนาม และการสละสิทธิของเวียดนาม ซีเมนต์ อินดัสทรี คอร์ปอเรชั่น (Vietnam Cement Industry Corporation)(JV Partner) ในการเลือกที่จะเข้าซื้อส่วนของทุนในสัดส่วน 65% ของทุนที่ชำระแล้วทั้งหมดของ HVL นี้ก่อน (right of first refusal) ตามสัญญาร่วมทุนระหว่าง JV Partner และผู้ขาย ทั้งนี้ บริษัทคาดว่าการเข้าทำรายการจะเสร็จสมบูรณ์ในไตรมาสที่ 4/59
HVL เป็นบริษัทที่จดทะเบียนในโฮจิมินห์ ซิตี้ ประเทศเวียดนาม ดำเนินกิจการโรงงานผลิตปูนซีเมนต์แบบครบวงจร 1 โรงงาน และโรงงานโม่ปูนซีเมนต์ 4 โรงงาน มีกำลังการผลิต 6.3 ล้านตัน/ปี และ HVL ยังเป็นผู้ผลิตคอนกรีตผสมเสร็จรายใหญ่ โดยมีโรงงานผลิต 7 โรงงาน อยู่ทางตอนใต้ของประเทศเวียดนาม
สำหรับมูลค่าการซื้อขายดังกล่าวที่ราว 1.87 หมื่นล้านบาทนั้น แหล่งเงินทุนที่จะใช้คือวงเงินตามสัญญาให้การสนับสนุนทางการเงินจากธนาคารแห่งโตเกียว-มิตซูบิชิ ยูเอฟเจ จำกัด โดยมีระยะเวลา 12 เดือน
SCCC ระบุว่าผลประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับจากการเข้าลงทุนครั้งนี้ คือการที่ HVL จะเป็นช่องทางการจำหน่ายเพิ่มเติมอีกช่องทางหนึ่งของบริษัท และช่วยลดการพึ่งพาตลาดส่งออกทั่วไปของบริษัท และจะทำให้บริษัทสามารถกระจายช่องทางการหารายได้จากตลาดที่มีอัตราเติบโตมากกว่าได้ นอกจากนี้ยังจะสร้างประโยชน์ด้านการประสานธุรกิจหลายอย่างให้แก่บริษัท เช่น การเข้าจัดซื้อวัตถุดิบแบบรวมกลุ่ม การใช้ประโยชน์จากระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ การแบ่งปันข้อมูลทางด้านเทคนิค และอื่น ๆ เป็นต้น
การเข้าซื้อกิจการในครั้งนี้แสดงถึงโอกาสในการเพิ่มขึ้นของผลตอบแทนโดยรวมของผู้ถือหุ้น และมูลค่าตามราคาตลาด (Market Capitalization) ของบริษัท คาดว่าจะเติบโตเร็วขึ้นจากการเข้าซื้อกิจการในครั้งนี้