น้ำมันดิบปิดลบหลังดอลล์แข็งค่า-แท่นขุดเจาะน้ำมันในสหรัฐฯเพิ่มขึ้น
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดอ่อนตัวลงเมื่อคืนนี้ (5 ส.ค.) เนื่องจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ได้ทำให้สัญญาน้ำมันดิบซึ่งซื้อขายในรูปสกุลเงินดอลลาร์นั้น มีราคาแพงขึ้นและไม่น่าดึงดูดใจสำหรับนักลงทุนที่ถือสกุลเงินอื่นๆ
สำนักข่าวอินโฟเควสท์รายงานว่า สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.ย. ลดลง 13 เซนต์ หรือ 0.31% ปิด (5 ส.ค.) ที่ 41.80 ดอลลาร์/บาร์เรล ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนต.ค. ขยับลง 2 เซนต์ ปิดที่ 44.27 ดอลลาร์/บาร์เรล
ค่าเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นหลังจากที่กระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานว่า ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรพุ่งขึ้น 255,000 ตำแหน่งในเดือนก.ค. สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่า การจ้างงานจะเพิ่มขึ้นเพียง 180,000 ตำแหน่งในเดือนก.ค. ขณะที่อัตราการว่างงานทรงตัวที่ระดับ 4.9%
ขณะเดียวกัน ราคาน้ำมันยังได้รับแรงกดดันหลังจากที่บริษัท เบเกอร์ ฮิวจ์ ซึ่งเป็นผู้ให้บริการข้อมูลเกี่ยวกับน้ำมัน รายงานเมื่อวันศุกร์ว่า จำนวนแท่นขุดเจาะน้ำมันที่เปิดใช้งานในสหรัฐปรับตัวเพิ่มขึ้น 7 แห่ง เป็น 381 แห่ง นับว่าเพิ่มขึ้นต่อเนื่องเป็นสัปดาห์ที่ 6 ติดต่อกันแล้ว