ช้อนสแตนเลส หรือ ช้อนสังกะสี??
บึ้ม-เผา 17 จุด ดับ 4 เจ็บระนาว 36 ราย...!! ถือเป็นความสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่อีกครั้งหนึ่งสำหรับคนไทย ไม่เกี่ยวข้องว่า ใครมีจุดยืนทางการเมืองเช่นไร
–ตามกระแสโลก–
บึ้ม-เผา 17 จุด ดับ 4 เจ็บระนาว 36 ราย…!!
ถือเป็นความสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่อีกครั้งหนึ่งสำหรับคนไทย ไม่เกี่ยวข้องว่า ใครมีจุดยืนทางการเมืองเช่นไร
ไม่ว่าจุดประสงค์ของเหตุการณ์เลวร้ายครั้งนี้คืออะไร และใครเป็นคนทำ…คนไทยคือผู้สูญเสียด้วยกันทั้งสิ้น!!
ภาพรวมตลาดหุ้นไทยวันพรุ่งนี้ (15 ส.ค.) คงหลีกเลี่ยงผลกระทบจากประเด็นดังกล่าวไม่ได้
แต่ด้วยเหตุเกิดในช่วงวันหยุด ทำให้ตลาดยังพอมีเวลาติดตามสถานการณ์ ซึ่งผลกระทบทางจิตวิทยาอาจเกิดขึ้นแค่ในวงจำกัดเท่านั้น (แง่พื้นฐานยังไม่รู้)
สำหรับหุ้นที่ต้องถูกตั้งเป็นประเด็นมากที่สุด คงหนีไม่พ้นหุ้นที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยว
โดยเฉพาะเมื่อการก่อเหตุครั้งนี้ มีความชัดเจนว่ามุ่งเน้นให้เกิดในพื้นที่ ที่เป็นจุดหมายสำคัญด้านการท่องเที่ยวทั้งนั้น
ย้อนกลับไปมองเหตุระเบิดที่สี่แยกราชประสงค์ เมื่อวันที่ 17 สิงหาคม 2558 ซึ่งถือเป็นช่วงเวลาของปีที่ไล่เลี่ยกับเหตุการณ์ในครั้งนี้ ลักษณะของเหตุการณ์ก็มีความคล้ายคลึงกัน
วันนั้น มีรายงานตัวเลขนักท่องเที่ยวยกเลิกห้องพักในจังหวัดภูเก็ตทันที 5% และตามมาด้วยจังหวัดอื่นๆ อีกหลายแห่ง
ราคาหุ้นสนามบิน สายการบิน และโรงแรม พากันปรับตัวลดลงฮวบฮาบอย่างรวดเร็วตั้งแต่ตลาดเปิดในช่วงเช้าของวันรุ่งขึ้น
ยกตัวอย่าง หุ้น AOT ปิดตลาดวันที่ 17 ส.ค. อยู่ที่ 287 บาท พอเปิดมาอีกทีตอนเช้า ราคาทรุดไปอยู่ที่ 262 บาท และไปทำจุดต่ำสุดของรอบนั้นที่ 254 บาท เมื่อวันที่ 24 ส.ค.
อย่างไรก็ดี หุ้น AOT ใช้เวลาเพียง 17 วันทำการ สำหรับการฟื้นตัว และสามารถขึ้นมายืนอยู่ในระดับ 287 บาทได้อีกครั้ง ในวันที่ 9 ก.ย. และปัจจุบันราคาอยู่ที่ 420 บาท
ในรายของสายการบิน อย่างไทยแอร์เอเชีย หุ้น AAV ปิดตลาด 17 ส.ค. อยู่ที่ 4.58 บาท เปิดเช้าลงมากองที่ 4.12 บาท และจุดต่ำสุดของรอบนั้นอยู่ที่ 4.08 เมื่อวันที่ 24 ส.ค. เช่นเดียวกัน
แต่รายนี้ใช้เวลานานหน่อยสำหรับการฟื้นตัว โดยใช้เวลาทั้งสิ้น 43 วันทำการ ก่อนจะขึ้นมายืนที่ระดับ 4.62 บาท ในวันที่ 15 ต.ค. และราคา ณ ปัจจุบัน อยู่ที่ 7.50 บาท
ในส่วนของหุ้นโรงแรม อย่าง CENTEL ปิดตลาด 17 ส.ค. ที่ระดับ 37.75 บาท เปิดเช้าวันถัดมา ราคาดิ่งลงมาที่ 33 บาท และลงไปทำจุดต่ำสุดที่ระดับ 32 บาท เมื่อวันที่ 24 ส.ค. เหมือนกัน
สำหรับระยะเวลาของการฟื้นตัว CENTEL ใช้ไปทั้งหมด 29 วันทำการ ซึ่งกลับขึ้นมายืนอยู่ที่ระดับ 37.75 ได้อีกครั้ง ในวันที่ 25 ก.ย. ขณะที่ราคาปัจจุบันอยู่ที่ 43 บาท
การยกตัวอย่างหุ้น 3 ตัว จาก 3 กลุ่มธุรกิจนี้ขึ้นมา แสดงให้เห็นถึงผลกระทบทางจิตวิทยาต่อราคาหุ้น และระยะเวลาของการฟื้นฟู
ซึ่งตัวเลขเหล่านี้ บ่งชี้ให้เห็นว่า หากสถานการณ์ครั้งนี้เกิดซ้ำรอยกับสถานการณ์เมื่อปีที่แล้วขึ้นมาจริงๆ ก็คงเป็นโอกาสทองฝังเพชร (ในวิกฤต) สำหรับการเข้าไปช้อนของถูกในกลุ่มนี้ทันที
แต่ต้องเน้นย้ำว่า เหตุการณ์วันนั้นไม่ได้มีผลกระทบต่อปัจจัยพื้นฐานอย่างมีนัยสำคัญ ดูได้จากระยะเวลาในการฟื้นตัวของหุ้น
อีกอย่างวันนั้นเหตุเกิดแค่ 2 จุด และจุดประสงค์ของการก่อการก็แค่ที่เราเชื่อว่า…(แล้วแต่จะคิด) ซึ่งถือเป็นปัจจัยระยะสั้น
แต่เหตุการณ์ในวันนี้ เกิดขึ้นในวงกว้างกว่ามาก และถือเป็นพื้นที่ท่องเที่ยวโดยตรง และแน่นอนว่า ยังสร้างข้อสรุปอย่างเป็นทางการไม่ได้ว่าอะไรคือเหตุจูงใจ
โอกาสนี้จะเป็น ช้อนสแตนเลส ที่มั่นคงแข็งแกร่งให้นักลงทุนได้ใช้ซื้อหุ้น หรือจะเป็น ช้อนสังกะสี อันเปราะบางและหักงอได้ง่าย
ก็ขึ้นอยู่กับผู้มีอำนาจนั่นแหละครับ ว่าจะนำเสนอเรื่องนี้ให้สังคมรับทราบอย่างไร และจะเรียกความเชื่อมั่นกลับมาได้เร็วแค่ไหน