THCOM คาดปีนี้รายได้ใกล้เคียงปีก่อน แม้รับผลกระทบ CTH-GMM B ยกเลิกสัญญา
THCOM คาดปีนี้รายได้ใกล้เคียงปีก่อน แม้รับผลกระทบ CTH-GMM B ยกเลิกสัญญา
นายวุฒิ อัศวเสริมเจริญ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านการเงิน บริษัท ไทยคม จำกัด (มหาชน) หรือTHCOM เปิดเผยว่า บริษัทคาดรายได้ปีนี้น่าจะทำได้ใกล้เคียงกับปีก่อน 1.3 หมื่นล้านบาท เนื่องจากได้รับผลกระทบจากการที่บมจ.ซีทีเอช (CTH) และบริษัท จีเอ็มเอ็ม บี (GMM B) ได้ยกเลิกสัญญาการใช้บริการดาวเทียมไทยคม ซึ่งมีระยะสัญญา 10 ปี ทำให้ประเมินว่าจะส่งผลกระทบต่อรายได้รวมลดลงไปราว 7% และส่งผลต่ออัตราการใช้ช่องสัญญาณดาวเทียม (utilization rate) ในภาพรวมลดลง 60-70% จากเดิมอยู่ที่ 75% แต่มองว่าอัตราการใช้ช่องสัญญาณดาวเทียมดังกล่าวจะกลับเข้าสู่ระดับเดิมได้ภายในไตรมาส 2/60 หลังการใช้ช่องสัญญาณในดาวเทียมไทยคม 8 เพิ่มขึ้น
อย่างไรก็ตาม บริษัทยังมีการรับรู้รายได้จากดาวเทียมไทยคม 4,5,6,7 และ 8 โดยดาวเทียมไทยคม 4 หรือ IPSTAR มีอัตราการใช้ช่องสัญญาณอยู่ที่ 57% และดาวเทียมไทยคม 5,6,7 มีอัตราการใช้ช่องสัญญาณอยู่ที่ 75% อีกทั้งดาวเทียมไทยคม 8 ที่มีการยิงขึ้นสู่วงโคจรไปแล้ว ปัจจุบันมีการใช้ช่องสัญญาณ ราว 17% คาดจะสามารถรับรู้รายได้เข้ามาได้ในช่วงไตรมาส 4/59 และน่าจะถึงจุดคุ้มทุนได้ในเดือนพ.ค.60 หรือมีอัตราการใช้ช่องสัญญาณที่ 30%
นอกจากนี้ ในธุรกิจ Broadcast หลังจากมีดาวเทียมไทยคม 8 ทำให้บริษัทฯสามารถขยายแบนด์วิธได้เพิ่มขึ้น ซึ่งจะรองรับการรับชมในระบบ HD ,Ultra HD (4K) ในกลุ่มลูกค้าที่มีความต้องการในประเทศไทย ประกอบกับจะขยายการให้บริการดังกล่าวไปยังตลาดต่างประเทศเพิ่มเติม โดยเฉพาะ Emerging markets เช่น เมียนมา ศรีลังกา บังคลาเทศ เป็นต้น เพื่อขยายฐานลูกค้ามากขึ้น จากเดิมที่ให้บริการในประเทศไทยเป็นหลัก
ธุรกิจ Broadband ก็ยังคงเน้น Open Access Platform (OAP) ในการให้บริษัทอื่น ๆ สามารถเข้าถึงแบนด์วิธของไทยคมได้ ซึ่งจะส่งผลให้ต้นทุนของไทยคมลดลง เช่น ในเรื่องของวิจัยและพัฒนา (R&D) ขณะเดียวกันก็อยู่ระหว่างศึกษาการให้บริการด้านอื่น ทั้งบนอากาศ ทะเล และภาคพื้นดิน รวมถึงการขยายธุรกิจไปสู่ธุรกิจอื่นที่ไม่ใช่ดาวเทียม
นายวุฒิ กล่าวว่า ส่วนกรณีที่ภาครัฐได้มีการหารือเพื่อนำดาวเทียมไทยคม 7 และ 8 กลับสู่ระบบสัมปทาน จากเดิมอยู่ในระบบใบอนุญาตนั้น ขณะนี้ก็ยังอยู่ระหว่างรอความชัดเจนจากทางภาครัฐ ซึ่งหากภาครัฐมีความชัดเจนว่าจะเข้าสู่ระบบสัมปทานจริง บริษัทฯก็จะมีการต่อสู้ เนื่องจากไม่มีความเป็นธรรม เพราะจะทำให้มีค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้น จากปัจจุบัน THCOM มีการจ่ายค่าใบอนุญาตอยู่ที่ 5.25% และในระบบสัมปทานจะต้องมีภาระในการจ่ายที่ 22.5% แต่อย่างไรก็ตามปัจจุบันยังไม่ได้รับผลกระทบจากปัจจัยดังกล่าว ซึ่งต้องรอดูความชัดเจนภาครัฐต่อไป