BAFS มั่นใจกำไรปีนี้ทำนิวไฮ ตามการเติบโตของธุรกิจสายการบิน
BAFS มั่นใจกำไรปีนี้ทำนิวไฮ ตามการเติบโตของธุรกิจสายการบินที่ได้รับอานิสงส์จากช่วงฤดูการท่องเที่ยว
นายประกอบเกียรติ นินนาท กรรมการผู้จัดการ บริษัท บริการเชื้อเพลิงการบินกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BAFS เปิดเผยว่า แนวโน้มผลการดำเนินงานในปีนี้ กำไรจะทำสถิติสูงสุดใหม่ (New High) จากปีก่อนที่มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 957.69 ล้านบาท จากยอดการเติมน้ำมันที่เพิ่มขึ้น ซึ่งเป็นไปตามการขยายตัวของธุรกิจสายการบินที่ได้รับอานิสงส์จากการกระตุ้นการท่องเที่ยว โดยเฉพาะสายการบินต้นทุนต่ำที่มีการขยายตัวมากขึ้น และได้รับความนิยมมาก ทำให้มียอดใช้น้ำมันเพิ่มมากขึ้น
ทั้งนี้การที่รายได้ของบริษัทเพิ่มขึ้น ในขณะที่ต้นทุนคงที่อยู่ในระดับเท่าเดิม จึงส่งผลให้บริษัทเกิด Economy of scale ทำให้อัตรากำไรสุทธิของบริษัทในปีนี้จะเพิ่มขึ้นเป็น 35% จากปีก่อนที่ 28.51%
ขณะที่ผลการดำเนินงานไตรมาส 3/59 คาดว่ารายได้และกำไรสุทธิจะมากกว่าไตรมาส 3/58 ที่มีรายได้อยู่ที่ 815.8 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 268.3 ล้านบาท และมากกว่าไตรมาส 2/59 ที่มีรายได้อยู่ที่ 881.5 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 237.5 ล้านบาท ซึ่งเป็นผลมาจากการเติบโตตามฤดูกาลของธุรกิจที่เป็นช่วงไฮซีซั่น
ขณะเดียวกันตั้งแต่ช่วงไตรมาส 3 เป็นต้นไปเป็นช่วงฤดูกาลท่องเที่ยว โดยปกติจะมีปริมาณการเดินทางของนักท่องเที่ยวเพิ่มมากขึ้น และมีปริมาณเที่ยวบินเพิ่มขึ้นตาม ซึ่งส่งผลดีต่อปริมาณการใช้บริการน้ำมันของสายการบินต่างๆ เพิ่มขึ้น บริษัทจึงคาดว่าครึ่งปีหลังจะมียอดบริการน้ำมันอากาศยานอยู่ที่ 3 พันล้านลิตร และทำให้ยอดบริการน้ำมันอากาศยานในปีนี้เป็นไปตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ที่ 6 พันล้านลิตรในปีนี้
สำหรับความคืบหน้าการก่อสร้างท่อส่งน้ำมันใต้ดินในโครงการพัฒนาท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เฟส 2 ปัจจุบันมีความคืบหน้ากว่า 40% โดยกำหนดแล้วเสร็จเดือน ก.พ.62 คาดว่าจะเพิ่มรายได้ให้กับบริษัทประมาณ 3-5%
ส่วนการดำเนินโครงการขยายระบบท่อส่งน้ำมันไปยังภาคเหนือ มูลค่าโครงการราว 8 พันล้านบาท ซึ่งดำเนินการภายใต้ บริษัท ขนส่งน้ำมันทางท่อ จำกัด (FPT) ซึ่งบริษัทย่อยของ BAFS ที่ถือหุ้นในสัดส่วน 75% ของทุนทะเบียนนั้น ขณะนี้มีความคืบหน้ากว่า 12% เป็นไปตามแผนคาดจะก่อสร้างแล้วเสร็จภายในปี 62 โดยจะสามารถรองรับปริมาณน้ำมันได้ประมาณ 5,000 ล้านลิตรต่อปี และหากโครงการดังกล่าวแล้วเสร็จจะผลักดันให้สัดส่วนรายได้ธุรกิจขนส่งน้ำมันทางท่อเพิ่มขึ้นเป็น 35% จากเดิมที่ 20% และคาดว่าจะช่วยให้มีผลตอบแทนจากการลงทุนประมาณ 9.50% ต่อปี
นอกจากนี้ บริษัทยังเหลือการรับมอบและชำระเงินรถขนส่งน้ำมันที่เหลือในปีนี้อีก 4 คัน มูลค่าคันละ 16 ล้านบาท หลังจากที่ครึ่งปีแรกรับมอบรถขนส่งน้ำมันมาแล้ว 4 คัน และวางแผนที่จะสั่งประกอบรถขนส่งน้ำมันเพิ่มอีก 4 คัน ในปี 60