PPS ฟุ้งรายได้ปีนี้โตราว 300 ลบ.-ลุยประมูลงานรถไฟฟ้าใน Q4/59
PPS ฟุ้งรายได้ปีนี้โตราว 300 ลบ. ตามการเติบโตของงานบริหารและควบคุมงานก่อสร้าง – ตุน Backlog 660 ลบ. ทยอยรับรู้ฯในปีนี้จนถึงปีหน้า พร้อมลุยประมูลงานรถไฟฟ้าใน Q4/59
นายธัช ธงภักดิ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท โปรเจค แพลนนิ่ง เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ PPSเปิดเผยว่า บริษัทคาดรายได้ปีนี้จะเติบโตราว 300 ล้านบาท จากปีก่อนอยู่ที่ 239.34 ล้านบาท เป็นไปตามการเติบโตของงานบริหารและควบคุมงานก่อสร้าง ขณะที่มีงานในมือ (Backlog) ปัจจุบันอยู่ที่ 660 ล้านบาท ซึ่งจะทยอยรับรู้รายได้ในปีนี้ไปจนถึงปีหน้า โดยเฉพาะงานโครงการพัฒนาท่าอากาศยานสุวรรณภูมิระยะที่ 2 ที่บริษัทเป็นผู้นำในการรับงานภายใต้ชื่อ SCS Consortium ภายใต้ความร่วมมือของ 6 บริษัทวิศวกรที่ปรึกษาชั้นนำ
ทั้งนี้ในครึ่งปีหลังนี้เริ่มมีงานวิศกรที่ปรึกษาบริหารโครงการก่อสร้างทั้งในส่วนของภาครัฐและเอกชนติดต่อให้เข้าเสนองานอยู่หลายโครงการ แบ่งเป็น งานภาครัฐ คือ งานที่ปรึกษาบริหารโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีส้ม มูลค่า 2-3 พันล้านบาท รถไฟฟ้าสายสีชมพูและเหลือง มูลค่ารวม 2,000 ล้านบาท คาดว่าจะเปิดให้เข้าประมูลได้ในไตรมาส 4/59 และน่าจะทราบผลชัดเจนภายในปลายปีนี้และต้นปีหน้า
โดยบริษัทยังอยู่ระหว่างเตรียมยื่นข้อเสนองานภาคเอกชน มูลค่างานรวม 100 ล้านบาท เช่น กลุ่มโรงแรมที่ขยายตัวตามหัวเมืองสำคัญ อย่าง ภูเก็ต พัทยา และกรุงเทพฯ รวมถึงงานโรงงานอุตสาหกรรม และงานกลุ่มอุตสาหกรรม IT โดยเฉพาะงาน Data Center ที่มีการขยายตัวอย่างรวดเร็วในปัจจุบัน คาดว่าจะทราบผลการประมูลได้ภายในปีนี้ และคาดหวังได้รับงานสูงถึง 90%
นายธัช กล่าวอีกว่า บริษัทมองแนวโน้มผลการดำเนินงานในไตรมาส 3/59 น่าจะดีกว่าไตรมาส 2/59 เนื่องจากเริ่มกลับเข้าสู่ช่วงปกติ หลังจากที่ผ่านมามีการส่งมอบงานได้ค่อนข้างน้อย โดยอุตสาหกรรมก่อสร้างครึ่งปีหลังถึงปี 60 น่าจะปรับตัวดีขึ้นหลังจากภาครัฐเร่งลงทุนด้านสาธารณูปโภคพื้นฐานอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับ สภาพเศรษฐกิจในประเทศมีสัญญาณฟื้นตัว ส่งผลให้ภาคเอกชนเริ่มมีความมั่นใจในการลงทุนโครงการใหม่ในหลากหลายภาคธุรกิจตามทิศทางการลงทุนพัฒนาประเทศของภาครัฐ
ทั้งนี้ บริษัทอยู่ระหว่างการเตรียมยื่นข้อเสนองานเมกะโปรเจคภาครัฐอีกหลายโครงการ และมีการเสนองานภาคเอกชนในกลุ่มธุรกิจที่หลากหลายมากขึ้น อาทิ กลุ่มโรงแรมที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นตามหัวเมืองสำคัญอย่าง ภูเก็ต พัทยา และกรุงเทพฯ อีกทั้งงานโรงงานอุตสาหกรรม และงานในกลุ่มอุตสาหกรรม IT โดยเฉพาะงาน Data Center ที่มีการขยายตัวอย่างรวดเร็วในปัจจุบัน
นอกจากนั้น บริษัทยังอยู่ระหว่างเจรจากับพันธมิตรหลายรายเพื่อเข้าร่วมลงทุน (JV) และเจรจาเพื่อเข้าซื้อกิจการในธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกัน จำนวน 1 ราย คาดว่าน่าจะเห็นความชัดเจนได้ภายในปี 60 โดยบริษัทเตรียมงบลงทุนดังกล่าวไว้ราว 200 ล้านบาท