เปิด “มหากาพย์” ก.ล.ต. ปะทะ “ไข่มุกดำ” พิสูจน์ใครเจ๋งกว่ากัน!

เปิด “มหากาพย์” ก.ล.ต. ปะทะ “ไข่มุกดำ” พิสูจน์ใครเจ๋งกว่ากัน!


สัปดาห์ที่ผ่านมามีเรื่องที่ทำให้สังคมหุ้นตื่นตัวกันอย่างกว้างขวาง หลังสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ หรือ ก.ล.ต. มีคำสั่งลงโทษนายประสิทธิ์ ศรีสุวรรณ ซึ่งเป็นผู้บริหารระดับสูงของ บริษัทหลักทรัพย์ แอพเพิล เวลธ์ จำกัด (มหาชน) ให้พักงานเป็นเวลา 2 ปี และในเวลาต่อมา นายประสิทธิ์ ได้ทำจดหมายกล่าวโทษต่อ ก.ล.ต. เรื่องความไม่เป็นธรรม จึงทำให้เป็นที่น่าจับตามองในสังคมตลาดหุ้น “ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์” จึงประมวลเหตุการณ์ดังกล่าวให้ ดังนี้

ก.ล.ต. สั่งพักงาน “ประสิทธิ์ ศรีสุวรรณ” 2 ปี

เมื่อวันที่ 13 ก.ย.59 สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ได้ลงโทษ นายประสิทธิ์ ศรีสุวรรณ ประธานกรรมการบริหาร บริษัทหลักทรัพย์ แอพเพิล เวลธ์ จำกัด (มหาชน) เนื่องจากละเลยการตรวจสอบดูแลระบบงานในการทำความรู้จักลูกค้าและตรวจสอบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับลูกค้า และการกำกับดูแลการทำธุรกรรมของลูกค้า ซึ่งเป็นระบบงานหลักที่สำคัญและมีผลต่อความเชื่อมั่นในตลาดทุนโดยรวม โดยพักการให้ความเห็นชอบเป็นบุคลากรในธุรกิจตลาดทุน 2 ปี  นอกจากนี้จะเสนอต่อคณะกรรมการเปรียบเทียบเพื่อพิจารณาเปรียบเทียบความผิดนายประสิทธิ์ต่อไป  

โดยข้อกล่าวโทษของ ก.ล.ต. ที่มีต่อประสิทธิ์คือ มีส่วนในการกระทำผิดของบริษัทและละเลยการตรวจสอบดูแลตามสมควร (fail to supervise) โดยเป็นผู้อนุมัติการเปิดบัญชีและเพิ่มวงเงินให้กับลูกค้าหลายราย ทั้งที่ลูกค้าดังกล่าวมีเอกสารทางการเงินไม่ครบถ้วน ข้อมูลไม่สอดคล้องกับมูลค่าธุรกรรมของลูกค้าอย่างมีนัยสำคัญ และไม่เพียงพอที่จะรู้ข้อเท็จจริงของลูกค้า

นอกจากนี้ นายประสิทธิ์ซึ่งเป็นประธานคณะกรรมการป้องกันการฟอกเงินของบริษัท มิได้สั่งการให้มีการกระทำการใดเพิ่มเติม เมื่อพบว่าลูกค้ามีการทำธุรกรรมที่ไม่สอดคล้องกับศักยภาพทางการเงินอย่างมีสาระสำคัญหรือพบลูกค้าทำรายการที่โดยปกติแล้วต้องตรวจสอบข้อเท็จจริงเชิงลึกกับลูกค้า แต่บริษัทภายใต้การดูแลของนายประสิทธ์ ไม่ได้มีการสั่งการให้ต้องดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงเชิงลึกดังกล่าว รวมถึงมีรายการของลูกค้าที่มีลักษณะดังกล่าวเกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำอีก

โดยการที่บริษัทกระทำผิดดังกล่าว เข้าข่ายกระทำผิดมาตรา 113 แห่งพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535 โดยนายประสิทธิ์ในฐานะผู้บริหารสูงสุดของบริษัท ซึ่งรับผิดชอบในการดำเนินงานของบริษัท มีส่วนในการกระทำผิดของบริษัทและละเลยการตรวจสอบดูแลตามสมควร จึงมีความผิดตามมาตรา 283 แห่ง พ.ร.บ. เดียวกัน ก.ล.ต. จะเสนอการกระทำผิดต่อคณะกรรมการเปรียบเทียบเพื่อพิจารณาเปรียบเทียบความผิด ซึ่งหากนายประสิทธิ์ไม่ยินยอมเข้ารับการเปรียบเทียบ จะดำเนินการกล่าวโทษต่อไป

นอกจากนี้ นายประสิทธิ์ยังมีลักษณะต้องห้ามในการเป็นบุคลากรในธุรกิจตลาดทุนตามประกาศคณะกรรมการกำกับตลาดทุน ที่ ทลธ. 8/2557 เรื่อง หลักเกณฑ์เกี่ยวกับบุคลากรในธุรกิจตลาดทุนลงวันที่ 3 มิถุนายน พ.ศ. 2557 ก.ล.ต. จึงสั่งพักการให้ความเห็นชอบเป็นบุคลากรในธุรกิจตลาดทุนของนายประสิทธิ์เป็นเวลา 2 ปี มีผลตั้งแต่วันที่ 14 กันยายน 2559 โดยในช่วงดังกล่าว นายประสิทธิ์จะไม่สามารถปฏิบัติงานเกี่ยวกับการบริหารงานหรือการเป็นที่ปรึกษาของบริษัท และการปฏิบัติงานอื่นที่อยู่ในขอบเขตการปฏิบัติหน้าที่ของบุคลากรในธุรกิจตลาดทุน

 

จดหมายเปิดผนึก “ประสิทธิ์ ศรีสุวรรณ” หลังโดน ก.ล.ต. สอยร่วง

หลังจากที่ ก.ล.ต. สั่งพักงานประสิทธิ์ ตกเย็น ประสิทธิ์ ได้เขียนจดหมายเปิดใจถึงกรณีที่มีคำสั่งลงโทษดังกล่าวว่า ได้รับทราบถึงคำสั่งดังกล่าวแล้ว และจะขอใช้สิทธิตามพระราชบัญญัติวิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง พ.ศ.2539 เพื่อยื่นอุทธรณ์คำสั่งดังกล่าวต่อไป และพร้อมที่จะต่อสู้ทุกชั้นศาลเพื่อเรียกสิทธิความเป็นธรรมกลับมา

โดยประสิทธิ์ระบุว่า ตลอด 15 ปี ได้กระทำเรื่องการโอนหุ้นข้ามชื่อมาตามระเบียบทุกประการ มากกว่าทุกบริษัทหลักทรัพย์  และทุกวันนี้ บริษัทหลักทรัพย์ทุกรายก็ยังสามารถโอนหุ้นข้ามชื่อได้  ดังนั้นจึงต้องการเรียกร้องให้  ก.ล.ต.  หรือ สมาคม (บริษัทหลักทรัพย์) ประกาศห้ามโอนหุ้นข้ามชื่อ ซึ่งตนเองและทุกคนจะได้ทำตาม มีสิทธิเสรีภาพ เท่ากันในการแข่งขันทางธุรกิจ

ขณะที่ ก.ล.ต.ระบุว่า คำกล่าวโทษทำให้ประสิทธิ์มีลักษณะต้องห้ามในการเป็นบุคลากรในธุรกิจตลาดทุน จึงสั่งพักการให้ความเห็นชอบเป็นบุคลากรในธุรกิจตลาดทุนของเขาเป็นเวลา 2 ปี มีผลตั้งแต่วันที่ 14 กันยายน 2559 และในช่วงดังกล่าว ประสิทธิ์จะไม่สามารถปฏิบัติงานเกี่ยวกับการบริหารงาน หรือการเป็นที่ปรึกษาของบริษัท และการปฏิบัติงานอื่นที่อยู่ในขอบเขตการปฏิบัติหน้าที่ของบุคลากรในธุรกิจตลาดทุน

ทั้งนี้ คำกล่าวโทษที่รุนแรงดังกล่าว ประสิทธิ์ระบุว่า ไม่ได้รับความเป็นธรรม ดังนั้นจึง “ขอต่อสู้กับคณะกรรมการพิจารณาลงโทษของก.ล.ต. โดยเข้าสู่กระบวนการยื่นอุทธรณ์  และกระบวนการในชั้นศาลทุกชั้นศาล  เพื่อเรียกร้องศักดิ์ศรีและความยุติธรรมของผม พร้อมให้ทนายเตรียมขอใช้สิทธิ์ทราบรายชื่อ คณะกรรมการที่พิจารณาลงโทษผม ตามกฎหมายรัฐธรรมนูญ ที่ให้สิทธิ์กับผู้ถูกกล่าวหา”

สุดท้าย ขอขอบคุณกำลังใจจากทุกท่าน ผมยืนยัน และมั่นใจการทำงานของผม สุจริต และถูกต้องตามกฎหมาย และผมพร้อมต่อสู้เรียกร้องความเป็นธรรมในกับตัวเองอย่างแน่นอน

 

ประสิทธิ์ จัดงานแถลงข่าว ประกาศขออุทธรณ์การลงโทษของก.ล.ต.

เมื่อวันที่ 14 ก.ย.59 ณ โรงแรมเวสทิน แกรนด์ สุขุมวิท นายประสิทธิ์ ได้จัดแถลงข่าวถึงกรณีดังกล่าวว่า จะยื่นอุทธรณ์บทลงโทษครั้งนี้ต่อ ก.ล.ต.ภายใน 15 วัน และยินดีที่จะเข้าไปชี้แจงต่อ ก.ล.ต. เพื่อยืนยันว่าที่ผ่านมาการบริหารงานภายใต้การจัดการเป็นไปตามกฎเกณฑ์ของสมาคมบริษัทหลักทรัพย์และ ก.ล.ต. ไม่ทำให้ลูกค้าเกิดความเสียหาย ทำตามกฎเกณฑ์ของบริษัทที่กำหนดไว้ และให้ความสำคัญกับการดูแลระบบงานในการทำความรู้จักลูกค้าและตรวจสอบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับลูกค้า และการกำกับดูแลการทำธุรกรรมของลูกค้า

ทั้งนี้ เชื่อว่ากรณีที่เกิดขึ้นจะไม่กระทบต่อการนำบริษัท แอพเพิล เวลธ์ เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ภายในปี 2560 เพราะเชื่อมั่นว่า ก.ล.ต.จะไม่นำเรื่องราวต่างๆ มาผูกโยงกัน อีกทั้งทางบริษัทมีระบบการบริหารจัดการที่ดีอยู่แล้ว

 

ทั้งนี้ ดูเหมือนว่าเรื่องราวดังกล่าวจะไม่จบง่ายๆ ส่วนเรื่องราวจะเป็นอย่างไรคงต้องติดตามกันต่อไป

 

                    ดรประสิทธิ์

 

Back to top button