AP มั่นใจรายได้โครงการแนวราบปี 59 แตะ 1.38 หมื่นลบ. ลุยเปิด 6 โครงการในปีนี้
AP มั่นใจรายได้โครงการแนวราบปี 59 แตะ 1.38 หมื่นลบ. ลุยเปิด 6 โครงการใหม่ มูลค่า 6.4 พันลบ. ในปีนี้
นายภมร ประเสริฐสรรค์ รองกรรมการผู้อำนวยการ สายงานพัฒนาธุรกิจบ้านเดี่ยวและทาวน์โฮม บริษัทเอพี (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) หรือ AP เปิดเผยว่า บริษัทมั่นใจรายได้ของโครงการแนวราบในปีนี้ว่าจะทำได้ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ 1.38 หมื่นล้านบาท โดยครึ่งแรกบริษัทมีรายได้ของโครงการแนวราบอยู่ที่ 6.14 พันล้านบาท โดยในช่วงที่เหลือของปีนี้บริษัทมีโครงการแนวราบที่รอรับรู้รายได้อีก 5.68 พันล้านบาท ซึ่งจะทยอยรับรู้รายได้ไนช่วงที่เหลือของปีนี้ทั้งหมด
ทั้งนี้ในช่วงที่เหลืออีก 4 เดือนของปีนี้ (ก.ย.-ธ.ค. 59) บริษัทเตรียมเปิดโครงการแนวราบที่เป็นโครงการบ้านเดี่ยวอีก 6 โครงการ มูลค่าโครงการรวม 6.4 พันล้านบาท ประกอบกับยังมีโครงการแนวราบที่อยู่ระหว่างการขายอีกกว่า 50 โครงการ มูลค่าโครงการรวมกว่า 2.1 หมื่นล้านบาท ซึ่งเป็นสิ่งที่ทำให้บริษัทมีความเชื่อมั่นว่ายอดขายโครงการแนวราบจะทำได้ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้
“มั่นใจว่ายอดขายโครงการแนวราบในปีนี้จะทำได้ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ 1.45 หมื่นล้านบาท หลังจากยอดขายโครงการแนวราบล่าสุดถึงวันที่ 15 ก.ย. 59 ทำได้ 9.74 พันล้านบาท”นายภมร กล่าว
สำหรับปัจจัยที่จะช่วยกระตุ้นการซื้อโครงการอสังหาริมทรัพย์ไนช่วง 4 เดือนสุดท้ายของปีนี้จะมาจากการที่บริษัทผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ต่างๆ จะมีการเปิดโครงการมากขึ้นในช่วง 4 เดือนสุดท้ายของปีนี้ ส่งผลกระตุ้นให้ลูกค้าที่สนใจและมองหาโครงการที่จะซื้อเพื่ออยู่อาศัยมีตัวเลือกมากขึ้น และมีการตัดสินใจซื้อที่เร็วขึ้น ประกอบกับภาวะเศรษฐกิจไทยที่เริ่มเห็นการฟื้นตัวเพิ่มขึ้นเล็กน้อย ช่วยให้คนมีความเชื่อมั่นเพิ่มขึ้น และส่งผลดีต่อภาคอสังหาริมทรัพย์ในช่วง 4 เดือนสุดท้ายของปีนี้
“แม้ว่าในช่วง 4 เดือนสุดท้ายของปีนี้จะมีการเปิดโครงการของบริษัทผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ออกมามาก แต่เราก็ไม่ได้กังวลมากกับการแข่งขัน เพราะเราพยายาม Challenge ตัวเองตลอดเวลา และโครงการแนวราบของ AP ที่จะเปิดในช่วง 4 เดือนสุดท้ายของปีนี้ เราหันมายึดหลักการสร้างความแตกต่างทั้งในด้านการออกแบบ การวางพื้นที่ใช้สอยและการนำเทคโนโลยีเข้ามาประยุกต์ใช้ไนโครงการที่อยู่อาศัยทุกยูนิต เพื่อให้เข้ากับไลฟ์สไตล์ของคนในยุคปัจจุบัน และเป็นการสร้างความโดดเด่นให้กับโครงการ ซึ่งเรามองว่าการเปิดโครงการที่เพิ่มขึ้นมากนั้นจะเป็นผลดีในการช่วยกระตุ้นให้ดีมานด์กลับมาเพิ่มขึ้น”นายภมร กล่าว
ล่าสุดวันนี้บริษัทได้เปิดตัวโครงการบ้านเดี่ยวหรูระดับซูปเปอร์ลักชัวร์รี่ โครงการ “บ้านกลางเมือง คลาสเซ่ เอกมัย-รามอินทรา” มูลค่าโครงการ 2.56 พันล้านบาท ตั้งอยู่ถนนสุคนธสวัสดิ์ 19 มีจำนวนยูนิตทั้งสิ้น 156 ยูนิต โดยบริษัทได้วางการขายเป็น 2 เฟส ได้แก่ เฟสที่ 1 จำนวน 56 ยูนิต มีกำหนดเปิดพรีเซลวันที่ 5-6 พ.ย.นี้ ราคาขายที่ 25-35 ล้านบาท และเฟสที่ 2 จำนวน 100 ยูนิต คาดว่าจะเปิดขายช่วงต้นปี 60
โดยบริษัทได้มองเห็นถึงโอกาสในการพัฒนาโครงการ “บ้านกลางเมือง คลาสเซ่ เอกมัย-รามอินทรา” จากดีมานด์ของที่อยู่อาศัยระดับบนราคาตั้งแต่ 20 ล้านบาทขึ้นไป ที่ตั้งอยู่ในเมืองมีจำนวนดีมานด์อยู่ในระดับสูงมาก ในขณะที่มีจำนวนโครงการแนวราบระดับบนที่ตั้งอยู่ในเมืองเพียง 3-4 โครงการเท่านั้น ซึ่งยังมีช่องว่างที่เป็นโอกาสในการพัฒนาโครงการระดับบนที่ยังมีความต้องการ และไม่มีความเสี่ยงในการขอสินเชื่อกับสถาบันการเงิน ซึ่งปัจจุบันโครงการแนวราบของบริษัทไม่มีอัตราการปฏิเสธสินเชื่อ ดังนั้นการพัฒนาโครงการแนวราบของบริษัทไนระยะต่อไปก็ยังจะเน้นไปที่โครงการในระดับกลาง-บน ราคาขายของโครงการทาว์นเฮาส์ตั้งแต่ 2-6 ล้านบาท และราคาขายของโครงการบ้านเดี่ยวตั้งแต่ 6-12 บาทขึ้นไป
ทั้งนี้ในช่วง 8 เดือนที่ผ่านมาบริษัทได้เปิดตัวโครงการแนวราบไปแล้วจำนวน 8 โครงการ มูลค่าโครงการรวม 6.55 พันล้านบาท แบ่งเป็น โครงการบ้านเดี่ยว 4 โครงการ มูลค่า 4.01 พันล้านบาท และทาวน์โฮม 4 โครงการ มูลค่า 2.54 พันล้านบาท และบริษัทมั่นใจว่ายอดขายรวมของบริษัทในปีนี้จะทำได้ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ 3.1 หมื่นล้านบาท โดยยอดขายรวมถึงวันที่ 15 ก.ย. 59 บริษัททำได้แล้ว 1.87 หมื่นล้านบาท