TSE บวก 4.17% ขานรับบอร์ดไฟเขียวลุยธุรกิจไฟฟ้าชีวมวล 3 โครงการใหญ่
TSE บวก 4.17% ขานรับบอร์ดไฟเขียวลุยธุรกิจไฟฟ้าชีวมวล 3 โครงการใหญ่ มูลค่าเกือบ 2 พันลบ. ล่าสุด ณ เวลา 15.13 น. ราคาอยู่ที่ 5.00 บาท บวก 0.20 บาท หรือ 4.17% สูงสุดที่ 5.05 บาท ต่ำสุดที่ 4.86 บาท มูลค่าซื้อขายที่ 126.46 ล้านบาท โบรกฯ แนะ “ซื้อ” ชูเป้า 8.20 บ.
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ราคาหุ้นบริษัท ไทย โซล่าร์ เอ็นเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) หรือ TSE ณ เวลา 15.13 น. ราคาอยู่ที่ 5.00 บาท บวก 0.20 บาท หรือ 4.17% สูงสุดที่ 5.05 บาท ต่ำสุดที่ 4.86 บาท มูลค่าซื้อขายที่ 126.46 ล้านบาท ขณะที่ดัชนีตลาดหุ้นไทยโดยรวมบวก 0.87%
บริษัท ไทย โซล่าร์ เอ็นเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) หรือ TSE ระบุว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทเมื่อวันที่ 21 ก.ย.59 ได้มีมติอนุมัติการลงทุนในบริษัท ออสการ์ เชฟ เดอะ เวิลด์ จำกัด (OSCAR) ซึ่งดำเนินธุรกิจโรงไฟฟ้าชีวมวล จำนวน 2 โครงการ กำลังการผลิตเสนอขายโครงการละ 8.8 เมกะวัตต์ รวม 17.6 เมกะวัตต์ ที่จังหวัดนครศรีธรรมราช ในสัดส่วนร้อยละ 70 ของทุนจดทะเบียน โดยมีมูลค่าการลงทุนและก่อสร้างโครงการตามสัดส่วนการลงทุนของบริษัท จำนวนทั้งสิ้น 1.37 พันล้านบาท
อีกทั้งมีมติอนุมัติการลงทุนในบริษัท บางสวรรค์ กรีน จำกัด (BSW) ซึ่งดำเนินธูรกิจโรงไฟฟ้าชีวมวล จำนวน 1 โครงการ กำลังการผลิตเสนอขาย 4.6 เมกะวัตต์ ที่จังหวัดสุราษฏร์ธานี โดยเริ่มลงทุนในสัดส่วนร้อยละ 49 ของทุนจดทะเบียน และจะมีการลงทุนเพิ่มเป็นร้อยละ 100 หลังจากได้มีการจำหน่ายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ไปแล้ว 3 ปี โดยมีมูลค่าการลงทุนและการก่อสร้างโครงการ จำนวนทั้งสิ้น 550 ล้านบาท
ด้าน บล.เคทีบี (ประเทศไทย) แนะ “ซื้อ” TSE โดยประเมินราคาเหมาะสมของ ไว้ที่ 8.2 บาท สะท้อนมูลค่าปัจจุบันสุทธิ (NPV) ของโครงการโรงไฟฟ้าและแผนการลงทุนที่คาดว่าจะเกิดขึ้นของบริษัท ขณะที่โครงการปัจจุบันคิดเป็นมูลค่ากว่า 5.6 บาทซึ่งคิดเป็น upside จากราคาปัจจุบันกว่า 16% คงคำแนะนำ “ซื้อ” สำหรับ TSE
โดย TSE ประกาศเข้าลงทุนในโครงการโรงไฟฟ้าชีวมวลจำนวน 3 โครงการ ขนาดกำลังการเสนอขายรวมกว่า 22.2 MW (คิดตามสัดส่วนการถือหุ้นอยู่ที่ 16.8 MW) ฝ่ายวิจัยมองโครงการดังกล่าวจะช่วยเพิ่มขนาดกำลังการขายไฟและกำไรให้กับ TSE ได้อีกมากเนื่องจากเป็นโครงการที่มีแนวโน้มจะได้ค่าไฟแบบ FiT ซึ่งจะเพิ่มกำไรให้กับบริษัทได้ถึงปีละ 180 – 200 ล้านบาท (เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญเมื่อเทียบกับกำไรปัจจุบันปีละ 500 ล้านบาท) โดยเราประเมินมูลค่าปัจจุบันสุทธิของโครงการโรงไฟฟ้าดังกล่าวได้ 1.34 บาท
ทั้งนี้คาด TSE ยังมีแนวโน้มในการประกาศโครงการเพิ่มเติมจากปัจจุบัน (ปัจจุบันมีใบอนุญาตขายไฟในมือราว 152 MW) โดยบริษัทยังมีโครงการในญี่ปุ่นที่อยู่ระหว่างการเจรจาอีกกว่า 106 MW (ยังไม่แน่นอน) และอยู่ในช่วงการศึกษาโครงการพลังงานทดแทนอื่นๆ ทั้งในไทยและประเทศอื่นในเอเชียเพิ่มเติมอีกด้วย โดยเรามองบริษัทน่าจะสามารถประกาศการลงทุนในโครงการพลังงานทดแทนเพิ่มเติมอื่นๆได้อีกจนถึงช่วงสิ้นปี ซึ่งจะช่วยสร้าง sentiment เชิงบวกและทำให้หุ้น TSE ได้รับความสนใจเพิ่มขึ้นได้
อนึ่ง TSE รายงานกำไรในช่วงครึ่งปีแรกปีนี้ที่ระดับ 290 ล้านบาท (+3.1%จากช่วงเดียวกันของปีก่อน) ค่อนข้างทรงตัว ซึ่งแม้ว่าบริษัทได้ทยอย COD โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในญี่ปุ่นเพิ่มขึ้น แต่ด้วยค่า Ft ที่ลดลงโดยเปรียบเทียบทำให้กำไรของโครงการที่ได้รับค่าไฟแบบ adder ลดลงเล็กน้อยโดยเปรียบเทียบ เรามองแนวโน้มกำไรของ TSE ในระยะสั้นจะสามารถเติบโตได้เล็กน้อยเนื่องจากการทยอย COD โครงการที่เริ่มผลิตไฟในญี่ปุ่นที่เพิ่มขึ้นในช่วง โดยคาดกำไรจะเริ่มเติบโตขึ้นอย่างมีนัยสำคัญในปี 2561 หลัง COD โครงการโซลาร์ญี่ปุ่นได้ครบ (2 โครงการใหญ่ขนาดรวม 26.5 MW เริ่ม COD กลางปี 2561) ขณะที่หาก TSE สามารถเข้าขยายการลงทุนหรือซื้อโครงการได้เพิ่มเติม ก็จะเป็น upside และทำให้กำไรในปี 2562 สามารถเติบโตจากปีก่อนได้อย่างมีนัยสำคัญ (รับรู้รายได้หลัง COD ครบทุกโครงการ)