จับตา BWG พุ่งแรง! ควง EGCO ยื่นขายไฟขยะอุตฯ 10 โครงการ 50 MW

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บริษัทเบตเตอร์ เวิลด์ กรีน จำกัด (มหาชน) หรือ BWG สัปดาห์นี้จะเข้าประมูลขายไฟฟ้าขยะอุตสาหกรรมให้กับคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) ซึ่งจะเปิดประมูลรับซื้อไฟฟ้าพิเศษจากขยะอุตสาหกรรม กำลังการผลิตติดตั้งรวมไม่เกิน 50 MW ในรูปแบบ Feed-in Tariff (FiT) ในวันที่ 22-28 ก.ย.นี้

สำหรับการยื่นขายไฟครั้งนี้ BWG  ถือเป็นหนึ่งบริษัทที่จะชนะการประมูล เนื่องจากมีความพร้อมทุกด้าน ที่สำคัญบริษัทได้ร่วมมือกับ บริษัท ผลิตไฟฟ้า จำกัด (มหาชน) หรือ EGCO ในการศึกษาและพัฒนาโรงไฟฟ้าขยะอุตสาหกรรมเพื่อเพิ่มโอกาสทางธุรกิจ ดังนั้นการยื่นประมูลขายไฟรอบนี้ BWG ถือเป็นตัวเต็งที่น่าจับตาและมีโอกาสที่จะได้งานอย่างมาก

ขณะเดียวกัน บทวิเคราะห์ยังให้ความเห็นว่า BWG มีโอกาสได้งานอย่างชัดเจน ตรงนี้จึงน่าจะเป็นแรงหนุนให้ราคาหุ้นมีโอกาสวิ่งแรงด้วยเช่นกัน โดยมองว่าหุ้นมีโอกาสขึ้นไปถึงระดับ 3.14 บาท มีอัพไซด์เกือบ 38% จากระดับราคาปิด 2.28 บาท (23 ก.ย.)

 

โดยแหล่งข่าวจาก BWG เปิดเผยว่า บริษัท มีการเตรียมความพร้อมไว้แล้ว และจะยื่นเสนอขายไฟฟ้าไปยัง กกพ.จำนวน 10 โครงการ ตามประกาศใน 11 พื้นที่ เช่น นิคมอุตสาหกรรมพิจิตร, นิคมอุตสาหกรรมสหรัตนนคร, นิคมอุตสาหกรรมบ้านหว้า, นิคมอุตสาหกรรมปิ่นทอง นิคามอุตสาหกรรมแหลงฉบัง, นิคมอุตสาหกรรมอมตะนคร, นิคมอุตสาหกรรมอมตะซิตี้, นิคมอุตสาหกรรมเหมราช, นิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด และนิคมอุตสาหกรรมราชบุรี เป็นต้น ซึ่งแต่ละโครงการมีกำลังการผลิตไม่เท่ากัน โดยมีตั้งแต่ 2-8 เมกะวัตต์ แต่เมื่อรวมแล้วน่าจะไม่เกิน 50 เมกะวัตต์ ตามที่มีการรับซื้อไว้ โดยจะใช้เงินลงทุนไม่ต่ำกว่า 5,000 ล้านบาท

ทั้งนี้ บริษัทมีความมั่นใจว่าจะได้รับการคัดเลือกจาก กกพ. เนื่องจากมีประสบการณ์ในการดำเนินด้านการจัดหากขยะอุตสาหกรรม ที่จะสามารถจัดหาขยะอุตสาหกรรมได้ตามหลักเกณฑ์ตามที่กำหนด และบริษัทก็มีโรงไฟฟ้าต้นแบบแห่งแรกของประเทศ ขนาด 9.4 เมกะวัตต์ ที่จะเปิดจ่ายไฟฟ้าในช่วงปลายปีนี้ และในระยะที่ 2 อีก 9.4 เมกะวัตต์ ที่จะเปิดจ่ายไฟฟ้าช่วงปลายปีหน้า ซึ่งใช้ขยะอุตสาหกรรมที่ผ่านการคัดแยกมาทำเชื้อเพลิงแข็งหรืออาร์ดีเอฟเป็นเชื้อเพลิง

ประกอบกับบริษัทมีพันธมิตรที่เข้มแข็ง ซึ่งเป็นผู้ผลิตไฟฟ้าอยู่แล้วคือ EGCO ที่ล่าสุดเพิ่งได้ลงนามบันทึกความเข้าใจ (เอ็มโอยู) ที่จะร่วมกันพัฒนาโรงไฟฟ้าจากขยะอุตสาหกรรม จึงทำให้มั่นใจว่าบริษัทจะได้รับการคัดเลือกให้เป็นผู้พัฒนาโรงไฟฟ้าขยะอุตสาหกรรมได้ 

 

ด้านบล.โนมูระ พัฒนสิน ระบุในบทวิเคราะห์ว่า จากการเปิดประมูลพลังงานขยะอุตสาหกรรมในวันที่ 22-28 ก.ย. 59 ยังคงให้น้ำหนัก BWG เข้ายื่นประมูลอย่างน้อย 2 โครงการ และคงประมาณการว่า BWG จะชนะการประมูล 2 โครงการหรือกำลังการผลิต 16 MW ซึ่งได้รวมมูลค่าพื้นฐานที่ีบริษัทจะชนะการประมูลไว้ในประมาณการแล้ว (มูลค่าพื้นฐานรวม 0.48 บาทต่อหุ้น) แนะนำ “ซื้อ” เป้าหมาย 3.14 บาท

อย่างไรก็ตามการแข่งขัน Bidding มีแนวโน้มสูงและคาดว่าบริษัทที่สนใจเข้ายื่นขอขายไฟฟ้าที่กำลังการผลิตมากกว่า 100 MW (เปิด 50 MW) โดยกลุ่มที่มีศักยภาพจะชนะการประมูลในครั้งนี้ คือ BWG, GENCO, CWT, AMATA, SUPER, EGCO และ SCC 

 

อนึ่ง คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) เตรียมเปิดประมูลรับซื้อไฟฟ้าพิเศษจากขยะอุตสาหกรรมกำลังการผลิตติดตั้งรวมไม่เกิน 50 MW ในรูปแบบ Feed-in Tariff (FiT) ระหว่างวันที่ 22-28 ก.ย.59  ในเบื่องต้นพื้นที่ในเขตนิคมอุตสาหกรรมที่มีศักยภาพเป็นที่รับจุดเชื่อมโยงระบบไฟฟ้า และสามารถตั้งโรงไฟฟ้าจากขยะอุตสาหกรรมได้ คาดที่กำลังการผลิต 82.8 MW บน 11 นิคมอุตสาหกรรม และหากอ้างอิงจากผลการสัมมนาการยื่นข้อเสนอขอขายไฟฟ้

โดยคาดว่า กกพ. จะเปิดการประมูลแบบคัดเลือกตามลำดับเลขที่การยื่นคำร้องก่อน-หลัง (First come – First served) และ/หรือจับสลาก โดยไม่ต้องผ่านกระบวนการแข่งขันด้านราคา (Competitive Bidding) แต่จะพิจารณาผู้ได้รับการคัดเลือกตามศักยภาพระบบไฟฟ้าและความพร้อมของเอกสารลำดับมีราคารับซื้อค่าไฟฟ้าที่5.08 บาทต่อหน่วย (+0.7 บาทต่อหน่วย 8 ปีแรก) และมีระยะเวลาสนับสนุน 20 ปี โดยผู้ที่จะเข้ายื่นประมูลพลังงานขยะอุตสาหกรรม จะต้องยื่บนพื้นที่ กกพ.ได้กำหนดไว้ว่าผ่านคุณสมบัติด้านศักยภาพระบบไฟฟ้าแล้วเท่านั้น (11 แห่ง)