“ไอร่า แอนด์ ไอฟุล” เล็งเข้าตลาด mai ปลายปี 60-ต้นปี 61 เร่งเพิ่มพอร์ตสินเชื่อ

"ไอร่า แอนด์ ไอฟุล" เล็งเข้าตลาด mai ปลายปี 60-ต้นปี 61 เร่งเพิ่มพอร์ตสินเชื่อ


นายคัทสุฮิโกะ มาโดโนะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไอร่า แอนด์ ไอฟุล จำกัด (มหาชน) หรือ A&A ซึ่งเป็นบริษัทในเครือ บริษัท ไอร่า แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) หรือ AIRA เปิดเผยว่า บริษัทมีแผนจะนำหุ้นเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) ในช่วงปลายปี 60 ถึงต้นปี 61 แต่อาจปรับเปลี่ยนตามความเหมาะสม

ขณะที่ตั้งเป้าพอร์ตสินเชื่อจะแตะระดับ 5,000 ล้านบาทในปี 61 จากปัจจุบันที่ 1,000 ล้านบาท ตามแผนทยอยเปิดสาขาขยายฐานลูกค้าเพิ่ม ทำให้ตั้งเป้าหมายปี 61 จะเริ่มมีผลประกอบการเป็นกำไร

สำหรับการปรับเกณฑ์ใหม่ของตลาดหลักทรัพย์ฯเรื่องการนำบริษัทเข้าจดทะเบียนนั้น บริษัทได้เตรียมความพร้อมไว้แล้ว โดยจะปรับแผนตามความเหมาะสมของสถานการณ์นั้น จึงคาดว่าไม่น่าจะมีผลกระทบต่อแผนในการนำบริษัทเข้าจดทะเบียนใน mai

ส่วนสาเหตุที่จะนำบริษัทเข้าจดทะเบียนใน mai เพื่อการระดมทุนในการปล่อยสินเชื่อ โดยตามแผนจะขยายฐานลูกค้าเป็น 5 แสนบัญชีใน 3-5 ปี โดยคาดจะมียอดปล่อยสินเชื่อราว 20,000 บาท/ราย

“ตามแผนที่เราจะขยายฐานลูกค้าเป็น 5 แสนบัญชีใน 5 ปี โดยคาดจะมียอดปล่อยสินเชื่อราว 20,000 บาทต่อราย ดังนั้น เบื้องต้นเราจะใช้เงินประมาณ 7,500 ล้านบาท โดยส่วนหนึ่งจะมาจากเงินระดมทุน และเงินกู้จากแบงก์ในประเทศ”นายคัทสุฮิโกะ กล่าว

นายคัทสุฮิโกะ กล่าวว่า บริษัทตั้งเป้าภายใน 3 ปี (59-61) จะมีพอร์ตสินเชื่อทั้งหมด 5 พันล้านบาท จากในปีแรกที่ผ่านมามีพอร์ตสินเชื่อแล้ว 1 พันล้านบาท โดยตั้งเป้าจะขยายพอร์ตสินเชื่อ 1,500-2,000 ล้านบาท/ปี และภายใน 3-5 ปี (59-63) จะมีฐานลูกค้าแตะระดับ 5 แสนราย จากปีนี้ที่ตั้งเป้าเพิ่มฐานลูกค้าเป็น 1 แสนราย ซึ่งปัจจุบันมีลูกค้าทั้งหมดแล้ว 6 หมื่นราย ซึ่งจากจำนวนฐานลูกค้า และการปล่อยสินเชื่อ จะส่งผลให้ใน 3-5 ปีบริษัทจะขึ้นเป็นอันดับ 1 ใน 3 ของอุตสาหกรรม

ทั้งนี้ หลังจากให้บริการสินเชื่อส่วนบุคคลตั้งแต่ช่วงปลายปี 58 ถือว่าบริษัทประสบความสำเร็จในด้านการปล่อยสินเชื่อส่วนบุคคลให้กับกลุ่มลูกค้ารายย่อย โดยเห็นได้จากรายงานการปล่อยสินเชื่อในปัจจุบันที่อยู่ในระดับ 1,000 ล้านบาท อีกทั้งยังเพิ่มสาขาและบูธอย่างต่อเนื่อง เพื่อรองรับการให้บริการลูกค้าจำนวน 61 แห่งทั่วประเทศ และคาดว่าในไตรมาส 4/59 จะทยอยเปิดสาขาและบูธรวมกันเพิ่มอีก 14 แห่ง ให้เป็นไปตามแผนที่วางไว้ 75 แห่งทั่วประเทศโดยเน้นที่หัวเมืองใหญ่ในทุกภูมิภาค

นายคัทสุฮิโกะ กล่าวเพิ่มเติมถึงแผนกลยุทธ์การให้บริการสินเชื่อส่วนบุคคลภายใต้แบรนด์  “A money” ในไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ว่า บริษัทยังคงมุ่งเน้นการเข้าถึงลูกค้าให้มากที่สุด โดยขยายสาขาและบูธเพื่อรองรับลูกค้าทั่วทุกภูมิภาค และเตรียมเพิ่มการสมัครผ่านช่องทางออนไลน์ เพื่อตอบสนองต่อพฤติกรรมของผู้บริโภคในปัจจุบัน โดยเฉพาะในกลุ่มของวัยทำงานตอนต้นที่นิยมใช้สื่อออนไลน์ในการใช้ชีวิต ซึ่งถือว่าเป็นกลุ่มเป้าหมายหลักของบริษัท นอกจากนี้ได้จับมือกับธนาคารธนชาต เพื่อให้บริการเบิกเงินผ่านตู้ ATM  กว่า 2,000 ตู้ทั่วประเทศ

สำหรับช่องทางการชำระเงิน ลูกค้า A money สามารถชำระผ่านจุดบริการเคาน์เตอร์เซอร์วิสกว่า 12,000 แห่ง จุดบริการ One Stop เทสโก้โลตัส กว่า 8,000 แห่ง รวมถึงจุดบริการแคชเชียร์ บิ๊กซี กว่า 4,000 แห่ง และล่าสุดได้มีการทำ Co-Promotion กับบริษัท JTB Communications (Thailand) หรือ Tokyo Buzz โดยลูกค้า A money จะได้รับส่วนลดในการซื้อของออนไลน์กับ Tokyo Buzz สูงสุด ถึง 20% เพียงสมัครและกดเงินสดตามเงื่อนไขและระยะเวลาโปรโมชั่น

ในส่วนของแผนการขยายพอร์ตสินเชื่อในปี 60 นั้น บริษัทมีแผนการตลาดแบบเชิงรุกมากขึ้น โดยเฉพาะผ่านช่องทางโซเชียลมีเดียและสื่อต่าง ๆ เพื่อขยายฐานลูกค้าให้เพิ่มขึ้นตามแผนกลยุทธ์ที่บริษัทวางไว้

Back to top button