4 ซีอีโอโบรกเกอร์ เปิดศึกซัดกันแหลก!

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตลอดช่วงระยะเวลา 1 สัปดาห์ที่ผ่านมาได้เกิดกระแสข่าว 2 ผู้บริหารโบรกเกอร์ใหญ่ที่สังกัดค่ายเดียวกันมีปัญหาความขัดแย้งเกี่ยวกับโยกย้ายทีมงานไปอยู่สังกัดใหม่ออกมาเป็นระยะ ซึ่งแต่ละฝ่ายได้งัดวิชาใต้ดินขึ้นมาห้ำหั่นกันอย่างแสบสัน ส่วนอีกคู่หนึ่งกลายเป็นเกาเหลาชามโตที่เกิดขึ้นจากความไม่ชอบเป็นการส่วนตัวก่อนหน้านี้ เมื่อสบช่องได้โอกาสกระทืบซ้ำแบบถูกกฎระเบียบ จึงปล่อยพลังที่มีอยู่แบบสุดซอยกันเลยทีเดียว

โดยกระแสข่าวของ CEO คู่แรกที่มีปัญหาระง่องระแง่งตั้งแต่สัปดาห์ก่อน และไม่มีท่าทีจะสยบข่าวลือที่เกิดขึ้นได้กลายเป็น “มนตรี ศรไพศาล” กับ “บุญพร บริบูรณ์ส่งศิลป์” ซึ่งทั้งคู่สังกัดอยู่ภายใต้ บริษัทหลักทรัพย์ เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ MBKET โดยในช่วงแรกทั้งคู่ก็รักใคร่กลมเกลียวกันค่อนข้างดี พร้อมกับช่วยกันผลักดันมาร์เก็ตแชร์จนทิ้งห่างคู่แข่งค่ายต่างๆ ชนิดมองไม่เห็นฝุ่น แต่ทำไปทำมากลับเกิดการแย่งชิงผลงานเพื่อเอาใจนายขึ้นมาจนได้

ตรงนั้นกลายเป็นฉนวนเหตุที่ทำให้ความสัมพันธ์ของทั้ง 2 ฝ่ายขาดสะบั้นลงในทันที พร้อมกับปรากฏข่าวลือขึ้นมาว่า มีการแทงกันข้างหลังเกิดขึ้นทุกวัน โดยทางฝ่ายผู้ชายอาศัยความใกล้ชิดกับกลุ่มทุนใหม่เป็นใบเบิกทางในการโจมตีอีฝั่งว่า ไม่ค่อยทำงาน การบริหารต้นทุนมีปัญหา การบริหารลูกค้าไม่มีคุณภาพ ฯลฯ ซึ่งดูเหมือนกลุ่มทุนใหม่จะเชื่อตามคำบอกเล่าดังกล่าว

สถานการณ์ดังกล่าวทำให้ฝ่ายหญิงตกอยู่ในที่นั่งลำบาก ยิ่งมีเรื่องโยกย้ายที่ทำงานแห่งใหม่เข้ามาเกี่ยวข้อง ยิ่งต้องเผชิญกับแรงเสียดทานที่สูงขึ้น และสิ่งที่ดูโหดร้ายในเที่ยวนี้คือ มีคำสั่งให้หยุดปฏิบัติงานทันที ซึ่งมีทั้งสั่งปิดประตูห้อง และไม่ให้เข้าไปทุกจุดขององค์กร  พร้อมกับทำให้ความสัมพันธ์ขาดสะบั้นลงในทันที ซึ่งเป็นที่มาของการนำเพื่อนซี้อย่าง “โฆษิต บุญเรืองขาว” กรรมการผู้จัดการ สายงานธุรกิจหลักทรัพย์ ไปทำงานที่ บล.หยวนต้า ด้วยกัน

อีกคู่ที่มีกระแสเกาเหลาแรงไม่เบาก็คือ “ภัทธีรา ดิลกรุ่งธีระภพ” นายกสมคมบริษัทหลักทรัพย์ ซึ่งมีข่าวพูดกันอย่างหนาหูว่า ได้นำเอาเพื่อนซึ่งเป็นผู้บริหารบริษัทหลักทรัพย์ 2 ท่าน ในวงการเดียวกันมาร่วมเป็นคณะกรรมการพิจารณาความผิดของ “ดร.ประสิทธิ์ ศรีสุวรรณ” ซึ่งเป็นต้นเหตุที่ทำให้สำนักงาน กลต.สั่งปรับเป็นจำนวนเงิน 80,000 บาท พร้อมกับสั่งให้หยุดปฏิบัติงานด้านหลักทรัพย์ 2 ปี

ท่ามกลางคำตัดสินที่ก่อให้เกิดข้อกังขาใจ ก็มีข่าวลือแพร่สะพัดไปทั่วว่า กฎเกณฑ์ดังกล่าวไม่ชัดเจน จึงเปิดช่องให้เล่นงานความผิดได้อย่างเต็มที่ ซึ่งอีกบางกระแสก็พูดไปในทำนองที่ว่า เคยเป็นคู่กรณีกันมาก่อน เพราะเคยเอามาร์เก็ตติ้งของเขามาเป็นจำนวนมาก และยังเป็นคู่กรณีของเพื่อนผู้บริหารบริษัทหลักทรัพย์ หรือแม้กระทั่งเรื่องชอบทำอะไรเด่นดังเกินจนข้ามหน้าคนรุ่นเก่าก็ยังมีการพูดถึงด้วยเช่นกัน

ทางด้าน ดร.ประสิทธิ์ พอทราบข่าวว่า เกิดกระแสข่าวไม่ดีขึ้นมา ก็ส่งข้อความไปถึง “ภัทธีรา” ว่า “นั้นคือหน้าที่ของพี่ แต่ผมเคารพและยังรักพี่เหมือนเดิม” ซึ่งเป็นการเพิ่มแรงกระเพื่อมของข่าวลือหนักยิ่งขึ้น พร้อมกับมีคำพูดเหน็บแนมตามหลังว่า  ไม่รู้ว่าลึก ๆ ยังจะรักกันจริงหรือเปล่า แต่ที่แน่ๆ  วงการนี้ CEO รักกันไม่จริง บ้างทำเพื่อประโยชน์ของบริษัทฯ บ้างทำเพื่อความอยู่รอด บ้างทำเพื่อฆ่าคู่แข่ง ก็เท่านั้นเอง

สุดท้ายเรื่องนี้จะเป็นอย่างไร ในไม่ช้าก็คงมีนออกมาให้ข้อเท็จจริงอีกครั้ง