GL ทุ่มงบ 2.79 พันลบ.ซื้อหุ้นธุรกิจสินเชื่อในศรีลังกา-เมียนมา หวังขยายธุรกิจ

GL ทุ่มงบ 2.79 พันลบ.ซื้อหุ้นธุรกิจสินเชื่อในประเทศศรีลังกา-เมียนมา หวังขยายธุรกิจ-เรียนรู้ทักษะเกี่ยวกับสินเชื่อรายย่อย


บริษัท กรุ๊ปลีส จำกัด (มหาชน) หรือ GL ระบุว่า บริษัทจะใช้เงินราว 2,791 ล้านบาทเพื่อซื้อหุ้นในบริษัท 2 แห่งที่ทำธุรกิจให้สินเชื่อในประเทศศรีลังกาและเมียนมา หวังเอื้อการขยายธุรกิจ รวมถึงมีโอกาสเรียนรู้ทักษะ (Know-How) เกี่ยวกับสินเชื่อรายย่อย ซึ่งจะช่วยให้สามารถขยายธุรกิจในกัมพูชา ลาว อินโดนีเซีย และไทย ที่มีการลงทุนอยู่แล้วได้ดำเนินธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพ

โดย GL แจ้งตลาดหลักทรัพย์ฯว่าที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทเมื่อวันศุกร์อนุมัติการเข้าซื้อหุ้นในบริษัทจดทะเบียนในประเทศศรีลังกา ได้แก่ Commercial Credit and Finance PLC (CCF) และการซื้อหุ้นในบริษัทจำกัดในประเทศเมียนมา ได้แก่ BG Microfinance Myanmar Co., Ltd. (BGMM) โดยทำรายการผ่าน Group Lease Holdings Pte. Ltd. (GLH) ซึ่งบริษัทถือหุ้นอยู่ทั้งหมดและจัดตั้งขึ้นในประเทศสิงคโปร์

ทั้งนี้ GLH จะเข้าซื้อหุ้น 29.99% ใน CCF คิดเป็นมูลค่า 10,588.35 ล้านรูปีศรีลังกา หรือราว 2,513.67 ล้านบาท จาก BG Investments (PVT)  Ltd., Creation Investments Sri Lanka LLC (Creation SL) และ Mr. Stephen L Lafrance Jr. ทั้งนี้ ตามสัญญาระหว่างผู้ถือหุ้น GLH ยังมีโอกาสในการซื้อหุ้นของ CCF จากผู้ถือหุ้นรายใหญ่ในปัจจุบันของ CCF ได้อีกจนถึง 70%

นอกจากนี้ จะเข้าซื้อหุ้น 100% ใน BGMM มูลค่าราว 8 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 277.24 ล้านบาท จาก BG Investments (PVT) Ltd., BG International (PVT) Ltd., BG Capital (PVT) Ltd. และ Commercial Credit and Finance PLC

สำหรับแหล่งเงินทุนที่ใช้จะมาจากเงินทุนภายในของบริษัท และส่วนที่เหลือจากเงินทุนภายนอกผ่านทางการกู้ยืมเงินจากสถาบันการเงิน และ/หรือ การออกตราสารทางการเงิน ซึ่งบริษัทคาดว่าจะสามารถหาข้อสรุปในเรื่องนี้ได้ก่อนการประชุมผู้ถือหุ้น

โดยบริษัทคาดว่าการลงทุนใน CCF และ BGMM จะเป็นประโยชน์ต่อบริษัท และส่งผลให้มีการเติบโตของรายได้และกำไรอย่างต่อเนื่อง ขณะเดียวกันยังจะได้มีโอกาสในการเรียนรู้ทักษะเกี่ยวกับสินเชื่อรายย่อย ซึ่งจะช่วยให้บริษัทสามารถขยายธุรกิจของบริษัทในกัมพูชา ลาว อินโดนีเซีย และไทย ที่บริษัทได้ดำเนินธุรกิจอยู่แล้วได้อย่างมีประสิทธิภาพ อีกทั้ง บริษัทยังได้ธุรกิจใหม่ซึ่งสนับสนุน (Synergy) ธุรกิจของบริษัทอีกด้วย

นอกจากนี้ การดำเนินธุรกิจในรูปแบบดิจิทัล ไฟแนนซ์ (Digital Finance) ซึ่งเป็นรูปแบบการดำเนินธุรกิจที่เป็นเอกลักษณ์ของบริษัท และประสบความสำเร็จยังจะช่วยให้ธุรกิจของ BGMM ขยายตัวได้อีกด้วย

อนึ่ง CCF ประกอบธุรกิจทางด้านการให้สินเชื่อ โดยมีสินค้าและบริการทางการเงินหลายรูปแบบ รวมถึงการให้สินเชื่อและลีสซิ่ง เงินกู้ สินเชื่อรายย่อย แฟคเตอริ่ง เงินกู้ทองคำ ให้คำปรึกษาทางด้านการขายอสังหาริมทรัพย์และที่ดิน โดย CCF มีทรัพย์สินหลักคือเงินกู้ และลูกหนี้ ซึ่งคิดเป็นสัดส่วนประมาณ 46.56% ของทรัพย์สินรวม โดยมีการปล่อยเงินกู้ให้แก่ผู้กู้ในหลายกลุ่ม โดยกลุ่มที่มีการปล่อยกู้ให้มากที่สุด คือกลุ่มสินเชื่อรายย่อย ซึ่งมีการให้บริการทางการเงินแก่ลูกค้ากลุ่มที่มีรายได้น้อยตามชนบทที่ประกอบอาชีพอิสระ และโดยปกติจะไม่สามารถเข้าถึงบริการทางการเงินและบริการอื่นที่เกี่ยวข้องได้ นอกจากนี้ยังประกอบธุรกิจลีสซิ่ง ซึ่งเป็นธุรกิจหลักอีกธุรกิจหนึ่งด้วย คิดเป็นประมาณ 34.48% ของสินทรัพย์รวม

ขณะที่ BGMM เป็นบริษัทที่ประกอบธุรกิจสินเชื่อรายย่อย (Microfinance) และได้ประกอบธุรกิจในเมียนมาเป็นเวลากว่า 2 ปี โดยได้รับใบอนุญาตในการประกอบธุรกิจอย่างถาวร มีวัตถุประสงค์หลักในการยกระดับฐานะทางสังคม และทางเศรษฐกิจของกลุ่มประชากรระดับรากหญ้าในเมียนมา โดยการเสริมสร้างการพัฒนาที่ครอบคลุมทั้งด้านสังคมและเศรษฐกิจ ผ่านทางการให้บริการด้านการเงินและด้านอื่น ๆ อย่างมีประสิทธิภาพ

Back to top button