KOOL บวกเกือบ 5% โบรกฯ เชียร์ “ซื้อ” เป้า 6.50 บ.
KOOL บวกเกือบ 5% ล่าสุด ณ เวลา 15.40 น. ราคาอยู่ที่ 5.65 บาท บวก 0.25 บาท หรือ 4.63% สูงสุดที่ 5.70 บาท ต่ำสุดที่ 5.35 บาท มูลค่าซื้อขายที่ 134.24 ล้านบาท โบรกฯ แนะ “ซื้อ” ชูเป้า 6.50 บ.พร้อมปรับเป้ากำไรปี 59 เพิ่มอีก 42%
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ราคาหุ้นบริษัท มาสเตอร์คูล อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน)หรือ KOOL ณ เวลา 15.40 น. ราคาอยู่ที่ 5.65 บาท บวก 0.25 บาท หรือ 4.63% สูงสุดที่ 5.70 บาท ต่ำสุดที่ 5.35 บาท มูลค่าซื้อขายที่ 134.24 ล้านบาท
ด้านบล.เคทีบี (ประเทศไทย) จำกัด ระบุว่า แนะนำ “ซื้อ” หุ้น KOOL โดยให้ราคาเป้าหมายปี 2560 อยู่ที่ 6.50 บาท อิง P/E 23 เท่า หลังได้ปรับประมาณการกำไรสุทธิปี 2559 เพิ่มขึ้นอีก 42% เป็น 102 ล้านบาท หรือเติบโตก้าวกระโดด 1,176% จากปีก่อนที่มีกำไรสุทธิเพียง 8 ล้านบาท เนื่องจากผลการดำเนินงานในไตรมาส 2/59 ที่ดีกว่าที่คาดไว้ค่อนข้างมาก โดยเฉพาะการควบคุมค่าใช้จ่ายโดยรวมที่ทำได้ดีขึ้นมาก
ทั้งนี้ จากการที่ KOOL มีการปรับกลยุทธ์ใหม่ โดยจะเน้นการขายในต่างประเทศมากขึ้น โดยเฉพาะประเทศที่เริ่มเข้าสู่ช่วงฤดูร้อนในช่วงครึ่งปีหลัง เช่น ประเทศในแถบอเมริกาใต้, แอฟริกาใต้ และออสเตรเลีย เป็นต้น รวมถึงยังมีแผนบุกตลาดลูกค้าองค์กร หรือในอุตสาหกรรมที่ยังมีความต้องการต่อเนื่องตลอดทั้งปี รวมถึงแผนลดค่าใช้จ่ายโดยเฉพาะค่าใช้จ่ายการตลาดและค่าใช้จ่ายพนักงาน ส่งผลให้คาดว่าผลการดำเนินงานในช่วงครึ่งปีหลังนี้จะไม่แย่เหมือนปีก่อนที่มีผลขาดทุนสุทธิ 19 ล้านบาท
พร้อมทั้งคาดกำไรสุทธิปี 2560 ยังเติบโตต่อเนื่องอยู่ที่ระดับ 136 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นไม่ต่ำกว่า 30% จากจุดเด่นของตัวสินค้า และการพัฒนาสินค้าใหม่ตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าใหม่ๆ ได้ต่อเนื่อง นอกจากนี้ ยังได้มีการตั้งเป้าหมายในช่วง 3 ปีข้างหน้า จะมีรายได้เติบโตเฉลี่ย 40% ต่อปี
โดยมีปัจจัยสนับสนุนการเติบโตมาจากสภาวะอากาศที่ร้อนมากขึ้นทุกปี ส่งผลให้ความต้องการพัดลมไอเย็นที่สูงขึ้น การออกแบบและพัฒนาสินค้าใหม่อย่างต่อเนื่อง เช่น การพัฒนาพัดลมไอเย็นให้มีขนาดเล็กลงแต่ให้ความเย็นมากขึ้น รวมถึงระดับราคาที่ต่ำลง ทำให้เหมาะกับการใช้ในครัวเรือนมากขึ้นSET ร่วง 11 จุด จากแรงขายหุ้นกลุ่มพลังงาน แบงก์ และขนส่ง ขณะที่นักลงทุนยังรอดูตัวเลขการจ้างงานนอกภาคการเกษตร ของสหรัฐฯในคืนนี้ ล่าสุด ณ เวลา 15.00 น. อยู่ที่ 1,502.81 จุด ลบ 11.05 จุด หรือ 0.73% มูลค่าซื้อขาย 3.13 หมื่นลบ.