Coming Soon! ก.ล.ต.เตรียมจัด “บิ๊กคลีนนิ่งเดย์ ภาค 2” เร็วๆนี้

นายปริย เตชะมวลไววิทย์ ผู้อำนวยการฝ่ายงานเลขาธิการและสื่อสารองค์กร สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.)เปิดเผยผ่านรายการ “ข่าวหุ้นเจาะตลาด ออนเรดิโอ” ทาง FM 98.5 MHz สถานีข่าวจริง สปริงเรดิโอ ช่วงเวลา 9.30-11.00 น.  ว่า จากกรณี ก.ล.ต.ลงโทษผู้แนะนำการลงทุน 11 ราย ฐานแสวงหาประโยชน์จากผู้ลงทุนโดยอาศัยโอกาสในการปฏิบัติงานจากการติดต่อชักชวนลูกค้าซื้อหุ้น IPO และหุ้นนอกตลาด โดยได้รับส่วนแบ่งผลประโยชน์จากเงินส่วนต่างของราคาเสนอขายให้ลูกค้า

โดยทางก.ล.ต.ทราบข่าวว่ามีผู้ลงทุนไปร้องเรียนว่ามีคนมาหลอกให้ไปซื้อหุ้นและได้รับความเสียหาย ซึ่งในข่าวคือการให้มาร์เก็ตติ้งของบริษัทหลักทรัพย์ไปชักชวนผู้ลงทุน จนผู้ลงทุนได้รับความเสียหาย ทางก.ล.ต.จึงได้สอบถามไปที่บริษัทหลักทรัพย์ทุกแห่งให้ช่วยตรวจสอบ และได้นำข้อมูลมาพิจารณาจึงพบว่ามีผ็กระทำความผิดทั้งหมด 10 ราย ทางก.ล.ต.จึงได้ตรวจสอบข้อมูลเชิงลึกและดำเนินการตามขั้นตอน และมีการสั่งลงโทษ ตามที่ปรากฎในข่าวเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว

ทั้งนี้จากที่ตรวจสอบในกรณีดังกล่าวเป็นการกระทำของตัวบุคคล โดยมีการไปชักชวนผู้ลงทุนมาซื้อหุ้น IPO ซึ่งได้ตรวจสอบไปที่ระบบแล้ว พบว่าทางบริษัทหลักทรัพย์ไม่ได้มีความเกี่ยวข้อง อย่างไรก็ตามทางก.ล.ต.ก็ได้ขอให้ทางบริษัทช่วยดูแลสอดส่อง ไม่ให้เกิดกรณีทำนองนี้อีก

โดยบทลงโทษของแต่ละคนแตกต่างกันไป ซึ่งต้องเป็นรายกรณี ดูว่าเป็นการกระทำผิดในลักษณะไหนและมีผู้ลงทุนเกี่ยวข้องเยอะแค่ไหน ความเสียหายมากน้อยแค่ไหน “การลงโทษนี่ก็ต้องมั่นใจมากๆว่ามีการกระทำความผิดจริง ถ้าเขาชี้แจงแล้ว ก็ต้องหารือกับผู้เชี่ยวชาญผู้แทนจากภาคธุรกิจด้วย เพราะมันเป็นเรื่องที่สำคัญมากต้องให้ความเป็นธรรม” นายปริย กล่าว

สำหรับกรณีดังกล่าว มีได้ทั้ง 2 สาเหตุอาจจะเป็นการตั้งใจที่จะหลอกลวง หรือเป็นการไม่ได้ตั้งใจแต่เกิดความผิดพลาดขึ้นจากการจดทะเบียนหลักทรัพย์เพื่อเข้าสู่ตลาด “เพียงแต่ว่าเราดูจากการกระทำเป็นกรณีไป กรณีนี้ถือว่าเป็นการแสวงหาผลประโยชน์จากลูกค้า และพบว่าเป็นความผิดเราจึงจำเป็นต้องดำเนินการ” นายปริย กล่าว

ทั้งนี้ยังมีบริษัทหลักทรัพย์ที่อยู่ในระหว่างการตรวจสอบอีกหลายแห่ง “ต้องขออนุญาตครับ ถ้าเป็นเรื่องที่อยู่ในระหว่างการดำเนินการเราคงไม่สามารถเปิดเผยได้ครับแต่ต้องเรียนย้ำว่าถ้าเราพบข้อมูลหลักฐานว่ากระทำผิด เราก็ต้องดำเนินการไปตามขั้นตอนครับ”

 

อย่างไรก็ตาม ผู้ลงทุนควรระมัดระวังอย่างเป็นอย่าง มากเพราะหุ้น PRE IPO คือหุ้นที่ยังไม่ได้เริ่มขั้นตอนอย่างถูกต้องในการระดมทุนและการยื่นแบบแสดงข้อมูล จึงต้องตรวจสอบให้แน่ใจ หากมีมาร์เก็ตติ้งมาชวนไปลงทุนต้องตรวจสอบว่าบริษัทหลักทรัพย์ต้นสังกัดของมาร์เก็ตติ้งเกี่ยวข้องกับดีลนี้ยังไง โดยจะต้องสอบถามข้อมูลของธุรกิจให้มากๆ และที่สำคัญคือต้องยืนยันได้ว่ามีของจริงซึ่งผู้ลงทุนต้องระมัดระวังให้มาก เพราะอาจจะเกิดความสียหายได้

 

หรือดูย้อนหลังได้ที่นี่