สรุปภาวะตลาดต่างประเทศวันศุกร์

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปรับตัวเพิ่มขึ้น เมื่อวันศุกร์ (11 พ.ย.) ในขณะที่ตลาดซึมซับการแสดงความเห็นของนายสแตนลีย์ ฟิสเชอร์ รองประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่ระบุว่า เหตุผลสนับสนุนให้เฟดยกเลิกนโยบายผ่อนคลายทางการเงินได้มีน้ำหนักมากขึ้น และอัตราดอกเบี้ยจะแตะระดับสูงสุดที่ระดับต่ำกว่าปกติ

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปรับตัวเพิ่มขึ้น 39.78 จุด หรือ 0.21% ปิดที่ 18,847.66 จุด ดัชนี S&P 500 ลดลง 3.03 จุด หรือ 0.14% ปิดที่  2,164.45 จุด และดัชนี Nasdaq เพิ่มขึ้น 28.31 จุด หรือ 0.54% ปิดที่ 5,237.11 จุด

 

ตลาดหุ้นยุโรปปรับตัวลดลง เมื่อวันศุกร์ (11 พ.ย.) หลังจากกระแสการตอบรับชัยชนะในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ตัวแทนจากพรรครีพับลิกันเริ่มซาลง

ดัชนี Stoxx 600 ลดลง 0.4% ปิดที่ 337.50 จุด

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดวันทำการล่าสุดที่ 4,489.27 จุด ลดลง 41.68 จุด หรือ -0.92% ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดวันทำการล่าสุดที่ 10,667.95 จุด เพิ่มขึ้น 37.83 จุด หรือ +0.36% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดวันทำการล่าสุดที่ 6,730.43 จุด ลดลง 97.55 จุด หรือ -1.43%

 

ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปรับตัวลดลง เมื่อวันศุกร์ (11 พ.ย.) เพราะได้รับแรงกดดันจากการแข็งค่าของเงินสกุลปอนด์

ดัชนี FTSE 100 ปิดปรับตัวลง 97.55 จุด หรือ 1.43% ที่ระดับ 6,730.43 จุด

 

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปรับตัวลดลง มากกว่า 2% เมื่อวันศุกร์ (11 พ.ย.) เนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับอุปทานที่สูงเกินไปในตลาดโลก

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนธ.ค.ลดลง 1.25 ดอลลาร์ หรือ 2.8% ปิดที่ 43.41 ดอลลาร์/บาร์เรล

สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนม.ค.ลดลง 1.09 ดอลลาร์ หรือ 2.4% ปิดที่ 44.75 ดอลลาร์/บาร์เรล

 

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดปรับตัวลดลง เมื่อวันศุกร์ (11 พ.ย.) เพราะได้รับแรงกดดันจากการแข็งค่าอย่างต่อเนื่องของสกุลเงินดอลลาร์ อันเป็นผลพวงมาจากผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค.ลดลง 42.1 ดอลลาร์ หรือ 3.32% ปิดที่ 1,224.30 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค.ลดลง 1.355 ดอลลาร์ หรือ 7.23% ปิดที่ 17.382 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนเม.ย.ลดลง 39 ดอลลาร์ หรือ 3.97% ปิดที่ 943.20 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนธ.ค.ลดลง 11.80 ดอลลาร์ หรือ 1.7% ปิดที่ 684.70 ดอลลาร์/ออนซ์

 

สกุลเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้น เมื่อเทียบกับยูโรในการซื้อขายที่ตลาดนิวยอร์กเมื่อวันศุกร์ (11 พ.ย.) เพราะได้รับแรงหนุนจากข้อมูลเศรษฐกิจที่สดใสของสหรัฐ ในขณะที่ตลาดคาดว่านโยบายเศรษฐกิจของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐ จะกระตุ้นการคาดการณ์เกี่ยวกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)

เงินยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.0844 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.0890 ดอลลาร์สหรัฐ ในขณะที่เงินปอนด์เพิ่มขึ้นแตะระดับ 1.2597 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.2566 ดอลลาร์สหรัฐ ส่วนเงินดอลลาร์ออสเตรเลียลดลงแตะ 0.7543 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7620 ดอลลาร์สหรัฐ

ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลง เมื่อเทียบเยนที่ระดับ 106.77 เยน จากระดับ 106.82 เยน และเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9889 ฟรังก์ จากระดับ 0.9875 ฟรังก์ ในขณะที่ขยับขึ้นเมื่อเทียบดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.3537 ดอลลาร์แคนาดา จาก 1.3463 ดอลลาร์แคนาดา