VGI จ่อซื้อหุ้น 40% ใน “เดโม เพาว์เวอร์ฯ” มูลค่าไม่เกิน 412.5 ลบ.

VGI จ่อซื้อหุ้น 40% ใน "เดโม เพาว์เวอร์ฯ" ผู้ให้บริการจัดกิจกรรมทางการตลาด – แจกสินค้าตัวอย่างและสาธิตการให้สินค้าเพื่อส่งเสริมการขาย มูลค่าไม่เกิน 412.5 ลบ.


บริษัท วี จี ไอ โกลบอล มีเดีย จำกัด (มหาชน) หรือ VGI ระบุว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทได้มีมติอนุมัติการเข้าซื้อหุ้นสามัญในบริษัท เดโม เพาว์เวอร์ (ประเทศไทย) จำกัด หรือ DPT ผู้ให้บริการการจัดกิจกรรมทางการตลาด รวมถึงการแจกสินค้าตัวอย่างและสาธิตการให้สินค้าเพื่อส่งเสริมการขาย จำนวน 12,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 100 บาท คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 40 ของหุ้นที่จำหน่ายแล้วทั้งหมดของ DPT จากเดโม เพาว์เวอร์ ลิมิตเต็ด หรือ DPL ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นเดิม ในราคารวมทั้งสิ้นไม่เกิน 412.5 ล้านบาท ซึ่งการเข้าทำธุรกรรมการซื้อหุ้น DPT นี้ จะทำให้บริษัทเป็นตัวกลางเชื่อมต่อระหว่างผู้บริโภคกับเจ้าของสินค้า และ/หรือ บริการผ่านการจัดกิจกรรมทางการตลาด อันสอดคล้องกับกลยุทธ์ของบริษัทในการมีเครือข่ายสื่อโฆษณาแบบครบวงจรครอบคลุมทั่วประเทศ

ในการนี้ บริษัทจะดำเนินการลงนามในสัญญาซื้อขายหุ้นกับ DPL (สัญญาซื้อขายหุ้น) ซึ่งเป็นสัญญาซื้อขายหุ้นแบบมีเงื่อนไขบังคับก่อน กล่าวคือ การซื้อขายหุ้นจะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมือเงื่อนไขบังคับก่อนตามที่ระบุในสัญญาเป็นผลสำเร็จ หรือได้รับการผ่อนผันเป็นหนังสือจากคู่สัญญาฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ซึ่งภายใต้สัญญาซื้อขายหุ้นดังกล่าวมีเงื่อนไขบังคับก่อนที่สำคัญ ดังนี้

1.บริษัทได้ลงนามในสัญญาการให้สิทธิใช้พื้นที่บนสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอสเพื่อการบริการด้านการตลาดกับ DPT เพื่อสิทธิช่วงแก่ DPT แต่เพียงผู้เดียวในการใช้พื้นที่บนสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอส จำนวน 23 สถานีหลัก ที่บริษัทได้รับสิทธิการใช้มาจากบมจ.ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ สำหรับให้บริการจัดกิจกรรมทางการตลาดและส่งเสริมการขาย รวมถึงการประชาสัมพันธ์สินค้าและบริการของลูกค้าของ DPT

2.ไม่มีการเปลี่ยนแปลงใด ๆ ซึ่งก่อให้เกิดผลกระทบในแง่ลบอย่างมีนัยสำคัญต่อสถานะทางธุรกิจ ผลประกอบการ ทรัพย์สิน และ/หรือสถานะทางการเงินของ DPT

ทั้งนี้ บริษัท และ DPL จะลงนามในสัญญาซื้อขายหุ้นในวันที่ 16 พ.ย.59 ภายหลังจากที่ได้รับอนุมัติจากที่ประชุมคณะกรรมการบริหาร

อนึ่ง ราคาซื้อขายหุ้นสามัญของ DPT ดังกล่าว พิจารณาจากการคิดลดกระแสเงินสดที่คาดว่าจะเกิดขึ้น (Discounted Cash Flow) อัตราส่วนมูลค่ากิจการของบริษัทเทียบกับกำไรที่คาดว่าจะได้รับในอนาคต รวมไปถึงเงินลงทุนที่ต้องใช้และระยะเวลาที่ต้องการหากบริษัทจะพัฒนาธุรกิจเหล่านี้เอง ซึ่งเป็นมาตรฐานที่ใช้ทั่วไปในการตัดสินใจการลงทุน ทั้งนี้ ในการพิจารณาราคาซื้อขายดังกล่าว บริษัทไม่ได้พิจารณามูลค่าของ DPT เพียงอย่างเดียว แต่พิจารณาถึงประโยชน์ที่บริษัทจะได้รับในอนาคตจากการส่งเสริมซึ่งกันและกันระหว่าง DPT และบริษัทด้วย

Back to top button