GPSC เผยอยู่ระหว่างทบทวนแผน 3-5 ปี ตั้งงบ 3.3 พันลบ.ลงทุนในปี 60
GPSC เผยอยู่ระหว่างทบทวนแผน 3-5 ปี ตั้งงบ 3.3 พันลบ.ลงทุนในปี 60
นายปวเรศ รัตนสุวรรณ ผู้จัดการส่วนกลยุทธ์องค์กร บริษัท โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) หรือ GPSC เปิดเผยว่า บริษัทอยู่ระหว่างการทบทวนแผนในช่วง 3-5 ปี ที่เดิมตั้งเป้าจะมีกำลังการผลิตไฟฟ้าในปี 62 จำนวน 2,800 เมกะวัตต์ และมีการจ่ายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ (COD) จำนวน 1,922 เมกะวัตต์ โดยการทบทวนแผนในครั้งนี้อาจจะเป็นปรับลดเป้าหมาย หรือการขยายระยะเวลาออกไป ซึ่งเป็นการปรับให้สอดคล้องกับแผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้าของประเทศ (PDP) ที่หน่วยงานภาครัฐได้ปรับเป้าหมายการรับซื้อไฟฟ้าลดลง โดยบริษัทคาดว่าแผนธุรกิจใหม่นี้จะได้ข้อสรุปในช่วงปลายปีนี้ถึงต้นปี 60
ทั้งนี้ บริษัทยังคงมีการลงทุนในประเทศไทยเป็นหลัก และมองโอกาสในการลงทุนต่างประเทศเพิ่มมากขึ้น จากปัจจุบันที่มีการลงทุนในประเทศลาวและประเทศญี่ปุ่น โดย 2 ประเทศนี้ยังคงเป็นประเทศหลักที่บริษัทสนใจลงทุนมากที่สุด อีกทั้งจะมีประเทศใหม่ๆที่บริษัทสนใจ เช่น เมียนมา เพราะปัจจุบันความต้องการใช้ไฟฟ้าในประเทศค่อนข้างอยู่ในระดับที่สูง หลังจากมีธุรกิจที่เข้าไปลงทุนในประเทศเมียนมามากขึ้น และรัฐบาลเมียนมาก็ได้มีการส่งเสริมการลงทุนโรงไฟฟ้าเพิ่มมากขึ้น แต่ปัจจุบันยังติดปัญหาเรื่องโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ และระบบสายส่งที่ยังไม่เอื้ออำนวย
ส่วนอีกหนึ่งประเทศที่บริษัทให้ความสนใจ คือ ประเทศอินโดนีเซีย เนื่องจากเป็นประเทศที่มีขนาดใหญ่ มีเกาะและประชากรจำนวนมาก ส่งผลให้ความต้องการใช้ไฟฟ้าสูงตาม และรัฐบาลอินโดนีเซียได้ประกาศรับซื้อไฟฟ้าเพิ่มขึ้นโดยเฉพาะไฟฟ้าจากแก๊สและถ่านหิน ประกอบกับบริษัทแม่ คือ กลุ่ม ปตท. (PTT) ได้มีการเข้าไปลงทุนในประเทศอินโดนีเซียแล้ว ทำให้บริษัทมีโอกาสเข้าไปลงทุนตามได้ในอนาคต
ด้านการใช้เงินลงทุนในปี 60 บริษัทตั้งไว้ในเบื้องต้นที่ 3.3 พันล้านบาท ซึ่งจะใช้สำหรับการลงทุนพัฒนาโครงการโรงไฟฟ้าที่อยู่ระหว่างการก่อสร้างทั้งหมด 7 โครงการได้แก่ โครงการโซลาร์สหกรณ์ กำลังการผลิต 5 เมกะวัตต์ จะเริ่ม COD ไตรมาส 1/60 โครงการโรงไฟฟ้าบางปะอินโคเจน เฟส 2 กำลังการผลิต 117 เมกะวัตต์ เริ่ม COD ไตรมาส 2/60 โครงการโรงไฟฟ้าไออาร์พีซี คลีน พาวเวอร์ เฟส 2 กำลังการผลิต 240 เมกะวัตต์ เริ่ม COD ไตรมาส 2/60 โรงไฟฟ้าโซลาร์เซลล์อิชิโนเซกิ ประเทศญี่ปุ่น กำลังการผลิต 20.8 เมกะวัตต์ เริ่ม COD ปลายปี 60 ช่วงไตรมาส 4/60
ส่วนโรงไฟฟ้าแบบพลังงานความร้อนร่วมใช้ก๊าซธรรมชาติเป็นเชื้อเพลิง (CUP4) หรือ ศูนย์ผลิตสาธารณูปการ จะเริ่ม COD ไตรมาส 1/61 กำลังการผลิต 45 เมกะวัตต์ และโรงไฟฟ้าน้ำริก ในสปป.ลาว กำลังการผลิต 26 เมกะวัตต์ จะเริ่ม COD ไตรมาส 4/61 และโรงไฟฟ้าไชยะบุรีที่สปป.ลาว กำลังการผลิต 321 เมกะวัตต์ จะเริ่ม COD ไตรมาส 4/62
ปัจจุบันบริษัทมีกำลังการผลิตรวมทั้งหมด 1,922 เมกะวัตต์แบ่งเป็นกำลังการผลิตที่ COD แล้ว 1,376 เมกกะวัตต์ และอยู่ระหว่างการก่อสร้าง จำนวน 546 เมกะวัตต์ โดยในปี 60 จะมี COD เพิ่มอีก 382.8 เมกะวัตต์ จาก 4 โครงการ
สำหรับโครงการ 24M Technologies, Inc.(24M) ซึ่งเป็นบริษัทจดทะเบียนในสหรัฐฯ ที่ GPSC ถือหุ้นอยู่ 16% โดย 24M ประกอบธุรกิจหลักในการวิจัยและพัฒนาการผลิตแบตเตอรี่ประเภทลิเทียม-ไอออน (Lithium-Ion) เพื่อนำมาประยุกต์ใช้เป็นระบบกักเก็บไฟฟ้าสำรองสำหรับภาคอุตสาหกรรม และการเสริมสร้างความมั่นคงในระบบจ่ายไฟฟ้าและระบบเชื่อมโยง ปัจจุบันได้มีการส่งตัวอย่างไปให้แก่ลูกค้าทดลองใช้แล้วซึ่งได้ผลตอบรับที่ดี โดยในระยะต่อไปบริษัทเตรียมพิจารณาการลงทุนทำโรงงานผลิตแบตเตอรี่ประเภทลิเทียม-ไอออน ในช่วง 1-2 ปีข้างหน้า เพื่อรองรับการจำหน่ายเชิงพาณิชย์ในอนาคต