KOOL คาดปี 60 รายได้โต 42% ลุยเพิ่มช่องทางการจำหน่ายทั้งใน-ตปท.
KOOL คาดปี 60 รายได้โต 42% ลุยเพิ่มช่องทางการจำหน่ายทั้งใน-ตปท.
นายนพชัย วีระมาน กรรมการผู้จัดการ บริษัทมาสเตอร์คูล อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ KOOL เปิดเผยว่า บริษัทคาดรายได้ปี 60 จะเติบโตได้ 42% จากปีนี้ที่น่าจะทำรายได้ราว 900 ล้านบาท หลังจาก 9 เดือนแรกทำได้แล้ว 771.45 ล้านบาท สูงกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้ 640.78 ล้านบาท
โดยในปีหน้าบริษัทจะมีการเพิ่มช่องทางการจำหน่ายอย่างต่อเนื่องทั้งในประเทศและต่างประเทศตามความต้องการใช้สินค้าที่เพิ่มขึ้น รวมถึงเตรียมออกสินค้าใหม่นอกเหนือจากกลุ่มพัดลมไอเย็น
ทั้งนี้ การเพิ่มช่องทางจำหน่ายใหม่นั้น ปัจจุบันบริษัทอยู่ระหว่างเจรจากับห้างโมเดิร์นเทรดทั้งบิ๊กซีและเทสโก้ โลตัสเพื่อนำสินค้าเข้าไปวางจำหน่ายเพิ่มเติม คาดว่าจะสรุปได้ภายในสิ้นปีนี้ และจะเริ่มวางจำหน่ายได้ในปี 60 หากสามารถเป็นไปตามกำหนดดังกล่าวจะทำให้บริษัทมีช่องทางการจำหน่ายเพิ่มเป็น 400 จุด จากเดิมมีอยู่ 200 จุดประกอบด้วยจุดจำหน่ายในโฮมโปร ,เมกาโฮม และแม็คโคร
ด้านตลาดส่งออกบริษัทยังคงมุ่งเน้นการทำตลาดในประเทศเวียดนาม ,กัมพูชา ,อินโดนีเซีย และมาเลเซีย เนื่องจากมองว่ายังมีศักยภาพในการเติบโตระดับสูงราว 60-70% โดยตั้งเป้าสัดส่วนรายได้จากการส่งออกในปีหน้าจะขยับขึ้นเป็น 25% จากปีนี้น่าจะอยู่ที่ 20%
นอกจากนี้ บริษัทอยู่ระหว่างการเจรจากับพันธมิตรทั้งในประเทศและต่างประเทศ เพื่อร่วมกันพัฒนาสินค้าใหม่ที่ยังอยู่ในกลุ่มเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้าน คาดว่าจะเห็นความชัดเจนช่วงกลางปีหน้า โดยสินค้าดังกล่าวจะเข้ามาช่วยเสริมยอดขายพัดลมไอเย็นในช่วงโลว์ซีซั่น ซึ่งบริษัทวางงบลงทุนรวมปี 60 ไว้ที่ 50 ล้านบาท จะใช้ในการทำการตลาด 30 ล้านบาท และออกสินค้าใหม่ 20 ล้านบาท
โดยบริษัทยังอยู่ระหว่างพิจารณาออกตั๋วเงินระยะสั้น วงเงิน 50-100 ล้านบาทเพื่อใช้ในการขยายธุรกิจเดิม และรองรับการออกสินค้าใหม่ คาดว่าจะเห็นความชัดเจนได้เดือน ธ.ค.59 หรืออย่างช้าในเดือน ม.ค.60
“ปีหน้าเราคาดรายได้จะโต 42% จากการออก product ใหม่อีกหลายตัว ซึ่งจะมีการเปิดตัวในเดือน ก.พ.60 และอยู่ระหว่างร่วมกันพัฒนาสินค้าอื่นๆ ที่ประหยัดพลังงาน และรักษาสิ่งแวดล้อม ที่นอกเหนือจากกลุ่มสินค้าพัดลมไอเย็น คาดว่าจะเห็นความชัดเจนได้กลางปีหน้า ซึ่งสินค้าดังกล่าวจะเข้ามาช่วยเสริมยอดขาย โดยเฉพาะการขายในช่วงโลซีซั่น”นายนพชัย กล่าว