“เนชั่น” ส่อจ่ายหนี้ตั๋วบีอี 100 ล้านไม่ทัน
"เนชั่น" ส่อจ่ายหนี้ตั๋วบีอี 100 ล้านไม่ทัน
นายอารักษ์ ราษฏร์บริหาร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท นิวส์ เน็ตเวิร์ค คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ NEWS เปิดเผยว่า รู้สึกเป็นห่วงและไม่สบายใจในฐานะที่ NEWS เป็นผู้ถือหุ้นเนชั่นเกิดปัญหาตั๋วแลกเงินที่ไม่สามารถชำระหนี้ได้ และอาจจะเกิดความเสียหายในวงกว้าง กระทบความน่าเชื่อถือ ซึ่งส่วนตัวแล้วเชื่อว่า เนชั่นสามารถแก้ไขปัญหาดังกล่าวได้โดยใช้ศักยภาพจากบริษัทในเครือเข้ามาช่วยเหลือเพื่อให้ตั๋วบีอีจำนวน 100 ล้านบาท สามารถชำระหนี้ได้
ขณะที่นายก้องเกียรติ โอภาสวงการ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์ เอเซียพลัส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ กล่าวว่า บริษัทได้โอนตั๋วบีอี ให้บลจ.เอเซีย พลัส เป็นผู้ถือแทนแล้ว
ด้านบลจ.โซลาริส กล่าวว่า ตั๋วบีอีเนชั่น วงเงิน 60 ล้านบาท ครบกำหนดวันที่17 พ.ย.ที่ผ่านมา ได้นำออกจากบลจ.โซลาริสแล้ว ไม่กระทบผู้ถือหน่วยลงทุน และสัปดาห์หน้าจะเตรียมแถลงข่าว
อนึ่งหากพิจารณางบการเงิน NMG งวดผลการดำเนินงาน 6 เดือนแรกของปีนี้ แม้จะมีผลขาดทุนสุทธิ 341.78 ล้านบาท โดยมีจำนวนหนี้สินรวมทั้งสิ้น 3.91 พันล้านบาท ขณะที่ส่วนของผู้ถือหุ้นอยู่ที่ระดับ 3.43 พันล้านบาท ส่งผลให้อัตราส่วนหนี้สินต่อทุน หรือ D/E Ratio อยู่ที่ระดับประมาณ 1.14 เท่า ซึ่งทั่วไปถือเป็นระดับที่สามารถบริหารจัดการหนี้สินได้อย่างคล่องตัว
นอกจากนี้อัตราส่วนชี้วัดสภาพคล่องทางการเงินตัวอื่นถือว่า อยู่ในเกณฑ์ค่อนข้างดี ยกตัวอย่าง คือ สินทรัพย์หมุนเวียนอยู่ที่ระดับ 2.67 พันล้านบาท ขณะที่มีหนี้สินหมุนเวียน 2.27 พันล้านบาท ทำให้อัตราส่วนทุนหมุนเวียน หรือ Current Ratio อยู่ที่ระดับ 1.18 เท่า ซึ่งตัวเลขนี้ถือเป็นตัวบ่งชี้ว่า สภาพคล่องทางการเงินของ NMG ยังอยู่ในระดับปกติ
อย่างไรก็ดี สำหรับกรณีที่แย่ที่สุด คือ ไม่สามารถชำระหนี้ตั๋วแลกเงิน บี/อี ด้วยเงินหมุนเวียนได้ บริษัทยังสามารถนำเงินสดและรายการเทียบเท่าเงินสดที่มีอยู่ราว 316.52 ล้านบาท มาชำระหนี้แทนก่อนได้ หรือเมื่อมองเปรียบเทียบจากระดับ D/E Ratio ณ ปัจจุบัน กับหลักการทั่วไปบ่งชี้ว่า NMG ยังสามารถขอรับเงินกู้เพื่อทำการรีไฟแนนซ์ได้อย่างไม่น่ามีปัญหา
ดังนั้น ด้วยปัจจัยและข้อมูลตัวเลขดังกล่าว ซึ่งเกี่ยวข้องกับขีดความสามารถในการชำระหนี้ของ NMG โดยตรง ทำให้มีการคาดการณ์ว่า NMG ไม่มีความจำเป็นต้องผิดนัดชำระหนี้แก่เจ้าหนี้ในวันพรุ่งนี้ รวมถึงหนี้ตั๋วเงินระยะสั้นส่วนเพิ่มเติมอีก 100 ล้านบาทที่จะครบกำหนดชำระในช่วงสิ้นปี โดยเรื่องนี้ถือเป็นปัจจัยบวกต่อ บลจ.แอสเซท พลัส ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ออกตั๋วเงินบี/อีให้แก่บริษัทอีกด้วย