IT พุ่งกว่า 10% เด้งรับนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ

IT พุ่งกว่า 10% เด้งรับนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ ล่าสุด ณ เวลา 10.19 น. ราคาอยู่ที่ 3.42 บาท บวก 0.32บาท หรือ 10.32% สูงสุดที่ 3.50 บาท ต่ำสุดที่ 3.18 บาท มูลค่าซื้อขายที่ 27.55 ล้านบาท


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ราคาหุ้นบริษัท ไอที ซิตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ IT ณ เวลา 10.19 น. ราคาอยู่ที่ 3.42 บาท บวก 0.32บาท หรือ 10.32% สูงสุดที่ 3.50 บาท ต่ำสุดที่ 3.18 บาท มูลค่าซื้อขายที่ 27.55 ล้านบาท ขณะที่ดัชนีตลาดหุ้นไทยโดยรวมบวก 0.06%

บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส แนะนำ “ซื้อ” IT ราคาเป้าหมาย 3.66 บาท/หุ้น ทั้งนี้เป็นที่น่าสังเกตว่าหนึ่งในหุ้นในกลุ่มพาณิชย์คือ IT City (IT) ที่ราคาหุ้นยังไม่ตอบสนองต่อการได้ประโยชน์จากนโยบายการกระตุ้นเศรษฐกิจการบริโภคในช่วงสิ้นปีของภาครัฐคือ “ช็อปช่วยชาติ” ที่ปีนี้วงเงินสูงขึ้นเป็น 3 หมื่นบาท และมีระยะเวลายาวนานขึ้กว่าครั้งก่อนเป็น 1 เดือน คือ ธ.ค.59 เทียบกับครั้งก่อนที่วงเงิน 1.5 หมื่นบาท และระยะเวลาแค่ 1 สัปดาห์ จนทำให้ราคาหุ้นเคลื่อนไหวช้ากว่ากลุ่ม (Laggard) พิจารณาจากตารางด้านล่าง จากการเปรียบเทียบพบว่า P/BV ปี 59 ของกลุ่มสูงเป็น 7.0 เท่า และ COM7 ที่มีสินค้าใกล้เคียงกันสูงมากเป็น 9.2 เท่า แต่ IT ซื้อขายที่เพียง 1.0 เท่า หากกำหนดให้ราคาหุ้นที่เหมาะสมซื้อขายด้วย P/BV ที่เพียง 1.2 เท่า ก็จะได้เป็น 3.66 บาท จึงแนะนำ ซื้อเก็งกำไร

สำหรับในแง่ P/E ปี 59 ของกลุ่ม และ COM7 เป็น 28.8 และ 45.6 เท่า ตามลำดับ ขณะที่ IT เป็น 29.0 เท่า ใกล้เคียงกับกลุ่ม แต่เนื่องจากในงวดไตรมาส 3/59 IT ไม่มีหนี้เงินกู้แม้แต่บาทเดียว  แต่มีเงินสดบวกเงินลงทุนชั่วคราวเป็น 521 ล้านบาท หรือคิดเป็น 1.49 บาทต่อหนึ่งหุ้น IT  แสดงว่าราคาหุ้นปัจจุบันหากหักด้วยเงินสดและเงินลงทุนต่อหุ้นเป็น 1.55 บาท (3.04-1.49 บาท) หรือคิดเป็น P/E ปี 59 ที่เพียง 14.8 เท่า ก็ยังต่ำกว่ากลุ่มที่ 28.8 เท่าอยู่มาก

ขณะที่คาดว่าสินค้าหลักของบริษัทจะขายดีมากขึ้นในช่วงที่รัฐมีนโยบายช็อปช่วยชาติ เพราะเป็นที่ต้องการของผู้บริโภค และคาดว่าจะมีการจัดโปรโมชันเร่งการตัดสินใจ เช่นให้อุปกรณ์เสริม และผ่อนจ่ายได้เป็นเวลาหลายเดือน สินค้าดังกล่าวคือ เครื่องคอมพิวเตอร์ แท็บเล็ต อุปกรณ์ต่อพ่วง และโทรศัพท์มือถือ  เป็นต้น  นอกจากขายปลีกแล้วก็มีการขายส่งให้กับลูกค้าร้านปลีกในเขตกรุงเทพฯและต่างจังหวัดด้วย

ด้านผลการดำเนินงานล่าสุดออกมาดีคือ กำไรสุทธิและกำไรหลักเป็น 25 ล้านบาท เพิ่ม 92% จากปีก่อนเนื่องจากรายได้จากการขายเพิ่ม 2% เป็น 3.7 พันล้านบาท และอัตรากำไรขั้นต้นเพิ่มเป็น 10.3% เทียบจากปีก่อนที่ 9.95% แม้สัดส่วนค่าใช้จ่ายขาย-บริหารเทียบรายได้เพิ่มขึ้นเป็น 11% เทียบจากปีก่อนที่ ที่ 10.9% เพราะการขยายสาขาเพิ่ม 

Back to top button