จับตา BTS เข้าวินสายสีชมพู – BEM คว้าสายสีเหลืองแบบแบเบอร์

จับตา BTS เข้าวินสายสีชมพู - BEM คว้าสายสีเหลืองแบบแบเบอร์


นายธีรพันธ์ เตชะศิรินุกูล รองผู้ว่าการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย หรือ รฟม.เปิดเผยผ่านรายการ ข่าวหุ้นเจาะตลาด ออนเรดิโอ ทาง FM 98.5 MHz สถานีข่าวจริง สปริงเรดิโอ ช่วงเวลา 9.30-11.00 น.  ถึงกรณีที่ 2 บริษัทผู้ดำเนินการก่อสร้างและบริหารทางพิเศษและบริหารจัดการโครงการระบบขนส่งมวลชนด้วยรถไฟฟ้า อย่าง บริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน)หรือ BTS และ บริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BEM ได้ผ่านการพิจารณาเอกสารข้อเสนอซองที่ 1 ด้านคุณสมบัติและเทคนิคในโครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพู (ช่วงแคราย-มีนบุรี) – สีเหลือง (ช่วงลาดพร้าว-สำโรง) ไปแล้วนั้น

ขณะนี้คณะกรรมการได้เปิดซองเอกสารข้อเสนอซองที่ 2 (ข้อเสนอด้านการลงทุนและผลตอบแทน) และอยู่ระหว่างการพิจารณาของที่ปรึกษาในการคัดเลือกตามมาตรา 35 ซึ่งคาดว่าคงจะเร่งรัดให้มีการทราบผลได้เร็วที่สุดภายในเดือนธันวาคม 2559

สำหรับเกณฑ์การคัดเลือกผู้ชนะจะเลือกจากผู้ที่ขอเงินสนับสนุนจากทางภาครัฐน้อยที่สุด ทั้ง 2 โครงการนั้นเป็นโครงการในลักษณะการให้เอกชนเป็นผู้ลงทุน หรือเรียกว่า PPP Net Cost ซึ่งมีความยากลำบากในดำเนินงาน หากต้องลงทุนเองทั้งหมด ดังนั้นการวิเคราะห์มติครม.จึงออกมาว่า รัฐอาจจะให้การสนับสนุนในวงเงินที่ไม่เกินโครงสร้างงานโยธาเพราะฉะนั้นการแข่งขันในครั้งนี้ ก็จะเป็นการแข่งขันว่าหากมีผู้ยื่นข้อเสนอขอรับการสนับสนุนจากรัฐบาลน้อยที่สุดก็จะเป็นผู้ชนะ” นายธีรพันธ์ กล่าว

 

อย่างไรก็ตามหากพิจารณาจากสิทธิ์ในการเดินสายรถไฟฟ้าที่มีอยู่แล้ว มีการคาดการณ์ว่า BEM จะเป็นผู้ชนะในโครงการรถไฟฟ้าสายสีเหลือง (ช่วงลาดพร้าว-สำโรง) เพราะ BEM ได้สิทธิ์เดินรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินอยู่แล้ว ซึ่งสามารถใช้เป็นจุดเชื่อมต่อสำหรับการเดินทางไปยังสายสีเหลืองได้เลย อีกทั้งโครงการดังกล่าวยังถือเป็นการต่อยอดธุรกิจในอนาคต ซึ่งคาดว่าจะสามารถสร้างมูลค่าเพิ่มได้อีกจำนวนมาก ส่งผลให้บริษัทสามารถที่จะเสนอราคาประมูลโครงการดังกล่าวในราคาที่ต่ำกว่าคู่แข่ง

สำหรับ BTS คาดว่าจะชนะการประมูลโครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพู (ช่วงแคราย-มีนบุรี) เนื่องจากบริษัทนั้นได้สิทธิ์ในการเดินรถสายสีเขียวอยู่ก่อนแล้ว ซึ่งสามารถใช้เป็นจุดเชื่อมต่อกับสายสีชมพูได้เลย ส่งผลให้ BTS จะสามารถเสนอราคาที่ต่ำกว่าคู่แข่งได้เช่นกัน

Back to top button