“อ.มนูญ” ชี้ OPEC ลดกำลังการผลิตส่งผลดีระยะสั้น เหตุไม่เคยทำตามข้อตกลง

นายมนูญ ศิริวรรณ ผู้เชี่ยวชาญด้านพลังงาน เปิดเผยผ่านรายการ “ข่าวหุ้นเจาะตลาด ออนเรดิโอ” ทาง FM 98.5 MHz สถานีข่าวจริง สปริงเรดิโอ ช่วงเวลา 9.30-11.00 น. ถึงกรณีที่ OPEC บรรลุข้อตกลงปรับลดกำลังการผลิตสู่ระดับ 1.2 ล้านบาร์เรลต่อวัน ในการประชุมวันที่ 30 พ.ย.ที่ผ่านมา ว่า การที่ OPEC ยอมลดกำลังการผลิตจะเป็นปัจจัยบวกต่อราคาน้ำมันแค่ในระยะสั้น เพราะทาง OPEC เคยมีประวัติในเรื่องของการละเมิดข้อตกลงมาโดยตลอด ดังนั้นในครั้งนี้จึงต้องจับตามองว่าทางกลุ่มรัสเซียและซาอุดิอาระเบียจะละเมิดข้อตกลงอีกหรือไม่

อีกทั้งยังต้องติดตามผู้ผลิตนอกกลุ่ม (NON-OPEC) ด้วย ว่าจะให้ความร่วมมือกับทาง OPEC ได้มากน้อยแค่ไหน ซึ่งคาดว่าทาง NON-OPEC มีแนวโน้มที่จะทำตามเงื่อนไขมากกว่ากลุ่ม OPEC เพราะในแง่ของต้นทุนการผลิตนั้นทาง NON-OPEC ค่อนข้างที่จะเสียเปรียบอยู่มาก

นอกจากนี้คาดว่าราคาน้ำมันจะทรงตัวอยู่ที่ระดับ 50 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล เพราะหากราคาน้ำมันมันปรับตัวเกิน 50 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล ด้าน Shale Oil อาจจะกลับมาเดินหน้าผลิตน้ำมันเพิ่มมากขึ้นได้ เพราะมีแรงจูงใจในเรื่องของราคาน้ำมันที่ปรับตัวสูงขึ้น ประกอบกับขณะนี้ได้มีการปรับปรุงเทคโนโลยีและประสิทธิภาพในการผลิตเพื่อปรับลดค่าใช้จ่าย ทำให้ต้นทุนการผลิตลดลงมาอยู่ที่ระดับ 40 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล

“ผมคิดว่าถ้าราคามันขึ้นมาอยู่ในระดับที่ 50 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล ทุกคนก็น่าจะพอใจ แต่ราคาก็จะไม่ขึ้นไปมากกว่านี้ เราก็จะไม่เห็นราคาน้ำมันขึ้นไปที่ระดับ 60 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล แต่จะทรงตัวอยู่ในระดับนี้” นายมนูญกล่าว

โดยหากมองจากภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบัน ตัวเลขที่จะสมดุลกันระหว่างดีมานด์และซัพพลายจะอยู่ที่ ประมาณ 96 ล้านบาร์เรลต่อวัน ซึ่งปัจจุบันมีตัวเลขโอเวอร์ซัพพลายอยู่ที่ประมาณ 1.5 ล้านบาร์เรลต่อวัน ฉะนั้นหากทาง OPEC จะปรับลดกำลังการผลิตลงไปที่ 1.2 ล้านบาร์เรลต่อวัน มองว่าราคาน้ำมันก็จะเริ่มกลับสู่สมดุลได้ตั้งแต่ในช่วงครึ่งปีหน้า (2560) เป็นต้นไป