CPR เปลี่ยนตัวผู้ถือหุ้นใหญ่ “VG HOLDINGS ONE” ขึ้นแท่นเบอร์ 1

CPR เปลี่ยนตัวผู้ถือหุ้นใหญ่ "VG HOLDINGS ONE" ขึ้นแท่นเบอร์ 1 ถือหุ้น 49%


สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) รายงานการได้มา หุ้นของบริษัท ซี พี อาร์ โกมุ อินดัสเตรียล จำกัด (มหาชน) หรือ CPR โดย VG HOLDINGS ONE CO., LTD. ซึ่งเป็นการได้มาเมื่อวันที่ 1 ธ.ค.59จำนวนหลักทรัพย์ที่ได้มาคิดเป็น  49% ของสิทธิออกเสียงทั้งหมดของกิจการ จำนวนหลักทรัพย์ภายหลังการได้มาคิดเป็น 49% ของสิทธิออกเสียงทั้งหมดของกิจการ

สำหรับโครงสร้างผู้ถือหุ้นใหญ่อันดับ 1-5 มีดังนี้

ลำดับ ผู้ถือหุ้นรายใหญ่ จำนวนหุ้น (หุ้น) % หุ้น
1.  KINUGAWA RUBBER INDUSTRIAL CO., LTD. 97,510,000 49.00
2.  นางศศิธร วณิชวิศิษฎ์กุล 13,930,000 7.00
3.  นายทศพล วณิชวิศิษฎ์กุล 10,350,000 5.20
4.  นายนพดล วณิชวิศิษฎ์กุล 10,193,781 5.12
5.  น.ส.มนัญญา วณิชวิศิษฎ์กุล 9,950,000 5.00

ซึ่งการทำรายการครั้งนี้เป็นไปตามแผนปรับโครงสร้างผู้ถือหุ้น อนึ่ง เมื่อวันที่ 26 พ.ค.59 นายคะซึโอะ ทาเทะโนะ กรรมการผู้จัดการ CPR ระบุว่า บริษัทได้รับแจ้งจาก Development Bank of Japan Inc. (DBJ) ว่า DBJ มีแผนที่จะเข้าถือหุ้นทั้งหมดของ Kinugawa Rubber Industrial Co.Ltd.(KGR) ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของบริษัท ในจำนวน 49% ของหุ้นที่ออกแล้วทั้งหมดของบริษัท โดยการทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ทั้งหมด (Tender offer bid หรือTOB) ของ KGR ในประเทศญี่ปุ่น ผ่านทาง VG Holding One Co.Ltd (VGH) ซึ่งเป็นบริษัทที่จัดตั้งขึ้นในประเทศญี่ปุ่นและประกอบธุรกิจถือหุ้นในบริษัทอื่น (Holding Company) ซึ่งจัดตั้งขึ้นเพื่อถือหุ้นใน KGR โดยเฉพาะในการนี้ DBJ เป็นผู้ถือหุ้นทั้งหมดใน VGH

ทั้งนี้ การทำ TOB ของ KGR ขึ้นอยู่กับความสำเร็จของเงื่อนไขที่สำคัญต่างๆ ซึ่งรวมถึงการได้รับอนุมัติที่จำเป็นภายใต้กฎเกณฑ์และกฎหมายที่กำหนดจากหน่วยงานต่างๆ ในประเทศที่เกี่ยวข้อง

โดยการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวมิได้มีวัตถุประสงค์เพื่อการครอบงำกิจการของบริษัทแต่อย่างใด และไม่มีผลกระทบต่อบริหารและการประกอบธุรกิจของบริษัท ทั้งนี้ DBJ อยู่ระหว่างการขอผ่อนผันการทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ทั้งหมดของบริษัท ต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ และคณะอนุกรรมการวินิจฉัยการเข้าถือหลักทรัพย์เพื่อครอบงำกิจการ โดยการพิจารณาผ่อนผันการทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ทั้งหมดดังกล่าวขึ้นอยู่กับการพิจารณาและดุลพินิจของคณะอนุกรรมการวินิจฉัยการเข้าถือหลักทรัพย์เพื่อครอบงำกิจการ ซึ่งบริษัทจะติดตามผลและเปิดเผยสารสนเทศที่เกี่ยวข้องทันทีต่อไป

Back to top button