ฤดูขึ้นดอย! “อาฟเตอร์ ยู” เปิดจอง IPO 14-16 ธ.ค.59 เทรดส่งท้ายปี 23 ธ.ค.นี้

ฤดูขึ้นดอย! "อาฟเตอร์ ยู" หรือ AU ผู้ดำเนินธุรกิจจำหน่ายขนมหวาน เปิดจองซื้อ IPO จำนวน 165 ล้านหุ้น ในวันที่ 14-16 ธ.ค.59 เข้าเทรด mai ส่งท้ายปี 23 ธ.ค.นี้ หวังระดมทุนขยายธุรกิจของบริษัท-คืนเงินกู้ยืม-เป็นเงินทุนหมุนเวียน โดยมีบล.บัวหลวง เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน


บริษัท อาฟเตอร์ ยู จำกัด (มหาชน) หรือ AU เปิดเผยว่า คาดเปิดจองซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนต่อประชาชนเป็นครั้งแรก (IPO) จำนวนไม่เกิน 165 ล้านหุ้น หรือไม่เกิน 22.8% ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและเรียกชำระแล้วภายหลังการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนครั้งนี้ โดยจะเปิดให้จองซื้อในช่วงวันที่ 14-16 ธ.ค.และ เข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) ในวันที่ 23 ธ.ค.โดยมีบล.บัวหลวง เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน

นายอิสระ หวั่งหลี หัวหน้าฝ่ายตลาดทุน บล.บัวหลวง ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน ของ AU เปิดเผยว่า การเสนอขายหุ้น IPO ครั้งนี้ จะจัดสรรหุ้นจำนวน 161.5 ล้านหุ้น ให้แก่ประชาชนทั่วไป ระหว่างวันที่ 14-16 ธ.ค.นี้ ซึ่งคาดว่าจะมีการสำรวจความสนใจจองซื้อหุ้น (book building) หุ้นของบริษัทให้แก่นักลงทุนสถาบันในวันที่ 9 ธ.ค.นี้ รวมถึงเสนอขายให้แก่นายธีรพงษ์ จันศิริ และนายฤทธิรงค์ บุญมีโชติ ตามเงื่อนไขเงินกู้ ขณะที่จะจัดสรรหุ้นจำนวน 1.5 ล้านหุ้นให้แก่กรรมการของบริษัท และอีก 2 ล้านหุ้นจะเสนอขายให้แก่ผู้บริหารและพนักงานของบริษัท

นอกจากนี้ในวันแรกที่หุ้น AU จะเข้าซื้อขายใน mai นั้น กลุ่มผู้ถือหุ้นเดิมจะขายหุ้นบนกระดานใหญ่ (Big Lot) จำนวน 52.5 ล้านหุ้น หรือคิดเป็น 7.2% ให้กับนักลงทุนสถาบันในประเทศ ที่ราคา IPO เพื่อเพิ่มสภาพคล่องของหุ้นด้วย โดยที่ผ่านมาได้มีการนำเสนอข้อมูลแก่นักลงทุนสถาบันให้ความสนใจจำนวนมาก เพราะบริษัทอยู่ในกลุ่มอาหารที่มีการเติบโตที่ดี และผู้บริหารมีวิสัยทัศน์ในการนำพาบริษัทให้เติบโตได้อย่างมีศักยภาพ

นายแม่ทัพ ต.สุวรรณ กรรมการผู้จัดการ AU กล่าวว่า  บริษัทจะรักษาการเติบโตของยอดขายในปี 60 อยู่ที่ 40% เท่ากับปีนี้ โดยคาดว่ายอดขายของบริษัทในสิ้นปีจะทำได้ 580 ล้านบาท จากปัจจุบันอยู่ที่ 439.4 ล้านบาท ตามการขยายสาขาเพิ่ม โดยในปี 60 บริษัทคาดว่าจะเปิดสาขาใหม่ราว 5-7 สาขา ใช้เงินลงทุน 4.5-7.5 ล้านบาท/สาขา และการออกสินค้าใหม่ 6-8 สินค้า/ปี รวมถึงมีแผนที่จะรับจ้างผลิตสินค้าให้กับบริษัทรายอื่น

ทั้งนี้ บริษัทตั้งเป้าจะมีจำนวนสาขาเพิ่มเป็น 30 สาขา ภายในปี 61 จากปัจจุบันมีจำนวนสาขาทั้งหมด 20 สาขา โดยเน้นเปิดสาขาในกรุงเทพฯ ปริมณฑล และต่างจังหวัด และอนาคตมีแผนขยายไปต่างประเทศ โดยจะร่วมกับพันธมิตร นอกจากนี้บริษัทยังจะพยายามรักษาอัตรากำไรขั้นต้นและอัตรากำไรสุทธิ ให้ใกล้เคียงกับช่วง 9 เดือนแรกของปีนี้ที่ 63.8% และ 17% ตามลำดับ    

สำหรับวัตถุประสงค์การใช้เงิน เพื่อใช้ขยายธุรกิจของบริษัท เช่น ขยายสาขาในเขตกรุงเทพฯ ปริมณฑล และต่างจังหวัดตามแผนงานที่ได้ตั้งไว้ เพื่อให้สอดคล้องกับการเติบโตของภาวะอุตสาหกรรม, ขยายกำลังการผลิต พร้อมกับขยายสายการผลิตในกลุ่มขนมหวาน เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน เพิ่มมาตรฐานและประสิทธิภาพในการผลิต, ลดต้นทุนการผลิตโดยนำเครื่องจักรและอุปกรณ์มาใช้ในโรงงานผลิตแห่งใหม่มากขึ้น เพื่อลดต้นทุนและเพิ่มความแม่นยำในการผลิตสินค้า, ติดตั้งและปรับปรุงระบบเทคโนโลยีสารสนเทศที่เกี่ยวข้องกับการปฏิบัติงานให้ทันสมัย

รวมทั้งการติดตั้งและพัฒนาระบบจัดการบัญชีแบบครบวงจร เพื่อให้การดำเนินงานมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นและสามารถรองรับการขยายตัวของบริษัทฯในอนาคต, สร้างศูนย์ฝึกอบรมพนักงาน และศูนย์กระจายสินค้า เนื่องจากศูนย์ฝึกอบรมพนักงาน มีความจำเป็นต่อการขยายธุรกิจ และสร้างมาตรฐานให้กับงานบริการเป็นอย่างมาก และศูนย์กระจายสินค้า สามารถลดต้นทุนในการบริหารจัดการ วัตถุดิบในอีกหลายส่วนนอกจากนี้ ใช้ชำระคืนเงินกู้ยืม และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินงาน

อนึ่ง บมจ.อาฟเตอร์ ยู ดำเนินธุรกิจจำหน่ายขนมหวานและเบเกอรี่มากว่า 9 ปี โดยมีผลิตภัณฑ์ที่เป็นของหวานและเครื่องดื่มกว่า 100 รายการ โดยแบ่งธุรกิจออกเป็น 2 ประเภท คือ ธุรกิจร้านขนมหวาน ธุรกิจการบริหารจัดงานนอกสถานที่และรับจ้างผลิตขนมหวานและเบเกอรี่ให้แก่ร้านอาหาร งานเลี้ยงสังสรรค์ งานกิจกรรมต่าง ๆ

โดย บมจ.อาฟเตอร์ ยู เป็นบริษัทสุดท้ายที่จะเข้าจดทะเบียน mai ในปีนี้

Back to top button