TKS ฟุ้งยอด Backlog หนุนรายได้ Q4 โตแกร่ง-รุกขยายการลงทุนใน CLMV
TKS ฟุ้งยอด Backlog หนุนรายได้ Q4/59 โตแกร่ง - รุกขยายการลงทุนใน CLMV หวังรองรับงาน Printing and Solution ทั้งภาครัฐ, รัฐวิสาหกิจและเอกชน
นางสาวศิริวรรณ สุกัญจนศิริ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ที.เค.เอส.เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) หรือ TKS เปิดเผยว่าบริษัทคาดรายได้ปี 60 น่าจะเติบโตดีกว่าปีนี้ จากการที่บริษัทร่วมทุนกับ Wellco จากประเทศญี่ปุ่น ในการทำธุรกิจสิ่งพิมพ์ประเภทลาเบลบรรจุภัณฑ์ ซึ่งขณะนี้รอข้อสรุปจากผู้ผลิตสินค้าอุปโภคบริโภครายใหญ่ของไทย คาดว่าจะมีรายได้ดีขึ้นและหากได้งานจากผู้ผลิตสินค้ารายใหญ่จะยิ่งเป็นผลดีต่อรายได้ในอนาคต
ขณะที่บริษัทยังคงมุ่งขยายการลงทุนในกลุ่มประเทศ CLMV ทั้งกัมพูชา,ลาว, เมียนมา และเวียดนาม เพื่อรองรับงาน Printing and Solution ทั้งในส่วนของภาครัฐ รัฐวิสาหกิจ และเอกชน ซึ่งมองการเติบโตของกลุ่มประเทศดังกล่าวยังมีแนวโน้มที่ดีอยู่ โดยคาดว่าปี 60 จะมีสัดส่วนรายได้จากต่างประเทศขยับเพิ่มขึ้นเป็น 10% จากปีนี้อยู่ที่ 7-8%
ส่วนการเจรจาเพื่อเข้าซื้อกิจการในธุรกิจบรรจุภัณฑ์ในประเทศนั้น บริษัทได้ยุติแผนดังกล่าวไปแล้ว เนื่องจากไม่คุ้มค่าในการเข้าลงทุน แต่อย่างไรก็ตามบริษัทฯอยู่ระหว่างมองหาบริษัทใหม่ที่ลงทุนในธุรกิจบรรจุภัณฑ์อย่างต่อเนื่อง ซึ่งยังไม่ได้ข้อสรุป สำหรับการลงทุนในธุรกิจเทคโนโลยีสารสนเทศ ( IT) ยังคงเป็นพันธมิตรในการรับงาน ซึ่งเป็นการร่วมต่อยอดขยายธุรกิจและรับงานได้เพิ่มมากขึ้น
สำหรับปีนี้ บริษัทคาดรายได้น่าจะทำได้ใกล้เคียงกับปีก่อน จากเดิมคาดเติบโตราว 20% จากระดับ 1.5 พันล้านบาทในปีที่แล้ว เนื่องจากบริษัทไม่ได้รับงานบัตรออกเสียงประชามติร่างรัฐธรรมนูญในช่วงที่ผ่านมา จากราคาที่มีการแข่งขันกันสูงเพื่อแย่งชิงงาน ทำให้บริษัทไม่สามารถลงไปแข่งขันในระดับที่ต่ำเกินไปได้ เพื่อรักษามาร์จิ้นไว้
อย่างไรก็ตามมองแนวโน้มผลประกอบการในช่วงไตรมาส 4/59 คาดว่าจะดีกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากทิศทางปริมาณคำสั่งซื้อทั้งงานพิมพ์แบบฟอร์ม ปฏิทิน งานสิ่งพิมพ์ในวาระพิเศษ และปริมาณงานในมือ (Backlog) ที่เหลือ 200 ล้านบาท จะรับรู้รายได้ทั้งหมดภายในปีนี้ รวมถึงจากสถานการณ์ทางการเมืองและเศรษฐกิจในประเทศมีแนวโน้มในทิศทางที่ดี โดยปัจจุบันบริษัทฯมีสัดส่วนรายได้มาจากงานภาครัฐ 30% และงานเอกชน 70%
“เรายังอยู่ระหว่างเสนอแผนการดำนินงานปี 60 ต่อคณะกรรมการบริษัท ซึ่งคาดว่าจะได้ข้อสรุปในกลางเดือนธ.ค.59 เบื่องต้นมองทิศทางปีหน้า รายได้น่าจะเติบโตดีกว่าปีนี้ จากการรับรู้งานในมือที่คาดจะเท่ากับปีนี้ที่อยู่ 200 ล้านบาท ขณะที่ปีนี้น่าจะทำได้ใกล้เคียงกับปีก่อน ขณะที่คาดอัตรากำไรสุทธินี้น่าจะมากกว่า 20% หลัง 9 เดือนอยู่ที่ 20% และอัตรากำไรขั้นต้นจะมากกว่า 25% หลัง 9 เดือนอยู่ที่ 25.12%”นางสาวศิริวรรณ กล่าว
นางสาวศิริวรรณ กล่าวว่า ส่วนภาพรวมผลการดำเนินงานในช่วง 9 เดือนแรกของปีนี้เติบโตขึ้น เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา เนื่องจากบริษัทฯ ได้รับงานพิมพ์เข้ามาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะผลงานในช่วงครึ่งปีแรก บริษัทฯ ได้รับงานพิมพ์แบบพิเศษและแบบพิมพ์ปลอดการทำเทียมที่มีสัดส่วนมาร์จิ้นสูงและมีออเดอร์เข้ามาเพิ่มขึ้น เป็นส่วนสนับสนุนให้ผลงาน 9 เดือนของปีนี้เติบโตอย่างน่าพอใจ ขณะที่งวดไตรมาส 3/59 รายได้และกำไรที่เพิ่มมากขึ้น มาจากผลการดำเนินงานของบริษัทที่เพิ่มขึ้น โดยมียอดขายเพิ่มขึ้นกว่า 8% เทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน และมาจากส่วนแบ่งกำไรจากการลงทุนในบริษัทร่วมและการร่วมค้าเพิ่มขึ้น นอกจากนั้นบริษัทมีกำไรจากการจำหน่ายทรัพย์สิน อาคารพาณิชย์ ที่ไม่ได้ใช้งานจำนวน 22.32 ล้านบาท