ครึ่งบ่ายไม้สั้น – บล.คันทรี่กรุ๊ป

บริษัทหลักทรัพย์ คันทรี่กรุ๊ป สรุปทิศทางและแนวโน้มตลาดบ่ายนี้


สรุปตลาดภาคเช้า

ตลาดภาคเช้าปรับตัวลดลง ในทิศทางเดียวกันกับตลาดรอบบ้าน โดยมุมมองลบต่อเศรษฐกิจไทยยังกดดันตลาดให้ Underperform ตลาดกลุ่ม TIP ต่อเนื่อง โดยกลุ่มที่อ่อนตัวลงเด่นในภาคเช้าคือกลุ่ม ICT และ รับเหมาก่อสร้าง ดัชนีปิดปรับตัว 14.06 จุด มาอยู่ที่ 1,505.95 จุด มูลค่าซื้อขาย 2.3 หมื่นล้านบาท 

 

แนวโน้ม ภาคบ่าย

เราประเมินตลาดมีแนวโน้มผันผวนบริเวณ แนวรับ 1,500 จุด อย่างไรก็ตามเรามองเป็นโอกาสในการทยอยสะสมหุ้นเข้าพอร์ตคืนบางส่วน โดยเน้นหุ้น PER ต่ำ เป็นหลัก สำหรับกลุ่มที่แนะนำให้ทยอยสะสม คือกลุ่ม Food จากที่ผู้ประกอบการ กุ้งและไก่ ที่มีแนวโน้มฟื้นตัวในปีนี้

 

วิเคราะห์ทางเทคนิค

ECL ราคาปิด 1.98 บาท

แนวรับ   1.97 บาท   แนวต้าน  2.20  บาท

แนว cut loss หากใกล้จะหลุด 1.95 บาท

กราฟ ECL อ่อนตัวรุนแรง  จนราคาหุ้นลงสู่แนว Double bottom และ RSI เข้าสู่ Oversold เต็มตัว  ซึ่งทางเทคนิคจะเกิดการดีดตัวในไม่ช้านี้  การเข้าซื้อดักสามารถทำได้ และกำหนดจุด cut loss อย่างมีวินัย  จะทำให้มีโอกาสได้ไม้แรก  และไม่เสี่ยงมากนักหากกำหนดจุดหนีที่ปลอดภัย  แนะนำซื้อเก็งกำไร

 

เด็กแนว

มา Update แนวโน้ม SET ล่าสุดกันหน่อย เพราะตกไป 14 จุด วันนี้ปริมาณโวลุ่มหนากว่าเมื่อวาน  ว่าไปแล้วการลงรอบนี้ก็ตรงทฤษฎีทุกอย่าง ตั้งแต่เกิด Negative Divergence แถว 1,600 จุด  และการเกิด M-curve หลังจากนั้น  ตอนนี้ยังเป็นวัฏจักรของการปรับฐาน  แม้จะใกล้ Oversold แล้ว  แต่แรงขายยังมีตลอด เชื่อว่าอีกสักพักราวไม่เกิน 1% จะมีการดีดตัวทางเทคนิค  คนที่ไม่ได้ทำอะไรเลย และมีทุกอย่างครบ  ถึงชั่วโมงนี้ต้องอดทนรอตลาดดีดขึ้นแล้วค่อยลงทุนลดหุ้นออกมา อย่าตัดสินใจด้วยอารมณ์ หรือความวิตกเกินเหตุ  ตลาดจะมีช่วงดีดกลับ ให้ตั้งสติ  อดทน อย่าได้ท้อถอย  สำหรับคนเล่นหุ้นแล้ว เราต้องอยู่กับมัน  จึงต้องหาโอกาสให้ได้เสมอ  อย่าหมดหวัง หุ้นบ้านเราพิสูจน์แล้วว่าเป็นรอบจริงๆ  มีขึ้นมีลงตลอด   เดี๋ยวมันก็กลับมา

–  JAS วันพรุ่งนี้บริษัทจะมีการเชิญนักวิเคราะห์เพื่อให้ข้อมูลที่ถูกต้อง และสิ่งที่เกิดกระแสในทางลบตลอดหลายวันที่ผ่านมา เพื่อให้เกิดความเข้าใจที่ถูกต้องว่าบริษัทกำลังทำอะไรอยู่  สิ่งที่เด็กแนวคาดหมายก็คือข่าวที่ดีขึ้น  และจะทำให้คลายกังวลต่อเรื่องราวต่างๆ   อย่างแรก เรื่องที่ว่าบริษัทจะไปทำ 4G แล้วส่งผลให้ขาดทุนหลายปีนั้น  เรื่องนี้ยังไม่เห็นออกมาจากปากผู้บริหาร  ไม่รู้ว่าตีความกันไปถึงขนาดนั้นได้อย่างไร  เชื่อว่าจะมีการออกมาปฏิเสธเรื่องนี้  ส่วนเรื่องการแจกวอร์ปริมาณมากคงจะมีรายละเอียดออกมาว่ามีความจำเป็นประการใด    ขณะที่ข่าวในห้องค้าคุยกันว่าเจ้าของขายหุ้นตัวเองทิ้ง ก็คงจะมีการยืนยันให้ชัดเจน  ซึ่งทั้งหมดนี้เด็กแนวเชื่อว่าเป็นข่าวบวกต่อบริษัท

สำหรับเรื่องมูลค่าที่เหมาะสมของหุ้นตอนนี้สร้างความสับสนอย่างมาก  เพราะก่อนหน้านี้ให้กันสูง  พอราคาหุ้นตกแรงก็มาปรับราคาลงต่ำ  เหมือนอิงกระแสเป็นหลัก  หลังจากได้หารือกับนักวิเคราะห์และประเมินตัวเลขแบบแย่สุดๆ ของบริษัทจะได้ว่าตัวสินทรัพย์ของบริษัทหลังหักหนี้  หักการนำไปตั้งกองทุน  จะมีมูลค่าต่อหุ้นราว 1.4 บาท   และกำไรจากการตั้งกองทุน 5.5 หมื่นล้านบาท หักปันผลพิเศษ  จะมีมูลค่าต่อหุ้นที่ 2.50 บาท  ส่วนสุดท้ายคือการถือกองทุน JASIF ที่ 1 ใน 3 จะมีมูลค่าราว 2.40 บาทรวม 3 ก้อนนี้จะเป็น 6.30 บาท หักปันผลก้อนล่าสุดอีก 0.15 บาท  เบ็ดเสร็จจะมีมูลค่าสุทธิหรือเรียกว่า Book value ที่ 6.15 บาท   การที่ราคาหุ้นลงแรงถึงเวลานี้  น่าจะถูกกว่ามูลค่าบริษัทมากแล้ว  การขายออกเพราะกระแสกดดัน อยากให้หยุดขายแล้วใช้สติพิจารณา  กราฟก็ Super Oversold ทุกอย่างสอดคล้องว่าน่าจะกลับตัวขึ้นไปได้   ขอให้โชคดี

Back to top button