“อาม่า มารีน” ฟุ้งยอดจอง IPO ล้นหลาม มั่นใจเทรดวันแรกฉลุย!

“อาม่า มารีน” หรือ AMA ผู้ดำเนินธุรกิจด้านโลจิสติกส์ ฟุ้งยอดจอง IPO จำนวน 108 ล้านหุ้นล้นหลาม มั่นใจเทรดวันแรก 22 ธ.ค.59 ที่ราคา 9.99 บ.ได้รับตอบรับดี โดยมีบ.เซจแคปปิตอล เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน


นางศรัณยา กระแสเศียร กรรมการผู้จัดการ บริษัท เซจแคปปิตอล จำกัด ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินของ บริษัท อาม่า มารีน จำกัด (มหาชน) หรือ AMA เปิดเผยว่า การเสนอขายหุ้นต่อประชาชนทั่วไปครั้งแรก (IPO) ของ AMA ในระหว่างวันที่ 8-9 และ 13-14 ธ.ค.59 ได้รับการตอบรับที่ดีจากนักลงทุนทั่วประเทศ โดยมีผู้สนใจเข้าจองซื้อหุ้น IPO เป็นจำนวนมากจนสูงกว่าจำนวนที่หุ้นที่เสนอขายจำนวน 108 ล้านหุ้น โดย AMA จะเข้าทำการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ (mai) ในวันที่ 22 ธ.ค.59 คาดว่าจะได้รับการตอบรับที่ดีจากนักลงทุน

ทั้งนี้ ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินมั่นใจว่า AMA มีพื้นฐานธุรกิจที่แข็งแกร่ง และตัวเลขการเติบโตของผลประกอบการในช่วง 3 ปีที่ผ่านมาอยู่ในระดับที่สูง รวมถึงภาพรวมของอุตสาหกรรมขนส่งสินค้าเหลวทั้งทางรถ และทางเรือ ทั้งในประเทศ และต่างประเทศมีการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ตามความต้องการขนส่งน้ำมันภายในประเทศที่เพิ่มสูงขึ้น รวมถึงความต้องการบริโภคน้ำมันปาล์มทั้งในอินเดีย เมียนมาร์ เวียดนาม และจีนที่เพิ่มสูงขึ้น โดย AMA มีแผนในการขยายกองเรือบรรทุกน้ำมัน และสารเคมี รวมถึงขยายกองรถบรรทุกน้ำมัน และสารเคมี เพื่อเพิ่มศักยภาพการให้บริการขนส่งสินค้าเหลวทั้งในประเทศ และระหว่างประเทศที่ชัดเจน เพื่อรองรับตลาดที่เติบโตอย่างต่อเนื่องในอนาคต

“การเปิดจองหุ้น AMA ใน 4 วันที่ผ่านมาได้รับกระแสตอบรับที่ดีมากจากนักลงทุนทั่วประเทศ ที่เข้าจองซื้อหุ้นจนสูงกว่าจำนวนที่เสนอขาย ซึ่งก็เป็นเพราะความมั่นใจต่อพื้นฐานบริษัทที่แข็งแกร่ง และแผนการขยายธุรกิจที่ชัดเจน เพื่อรองรับการเติบโตในอนาคต ที่สำคัญ AMA มีความเชี่ยวชาญ และมีประสบการณ์ในการเป็นผู้ให้บริการขนส่งสินค้าเหลวทั้งทางรถ และทางเรือ ทำให้เรามั่นใจว่าในการเข้าซื้อขายวันแรกของหุ้น AMA วันแรกจะมีกระแสตอบรับที่ดี และคาดหวังว่านักลงทุนจะให้ความสนใจหุ้นของ AMA อย่างต่อเนื่อง”นางศรัณยา กล่าว

นางสาวพัชพร สรรคบุรานุรักษ์ กรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวาณิชธนกิจ บล.เคจีไอ (ประเทศไทย) ผู้จัดการการจัดจำหน่าย และรับประกันการจำหน่ายหลักทรัพย์ AMA กล่าวว่า การเสนอขายหุ้นของ AMA จำนวน 108 ล้านหุ้น ราคาเสนอขายหุ้นละ 9.99 บาท มูลค่าที่ตราไว้ 0.50 บาท ได้รับการตอบรับที่ดีจากนักลงทุน และได้จัดสรรหุ้นให้กับนักลงทุนที่สนใจจองซื้อเป็นจำนวนมาก จากความมั่นใจในพื้นฐานของธุรกิจและแผนในการขยายธุรกิจเพื่อรองรับการเติบโตในอนาคต

รวมถึงการเดินสายโรดโชว์ใน 4 จังหวัดที่ผ่านมาทำให้นักลงทุนเข้าใจธุรกิจของ AMA ได้ดียิ่งขึ้น ในขณะที่นักลงทุนที่ไม่ได้รับการจัดสรรหุ้น ถือว่ายังเป็นโอกาสที่ดีในการเข้าไปซื้อหุ้นเพื่อลงทุนได้ทั้งในระยะกลาง และระยะยาวในตลาดหลักทรัพย์เอ็มเอไอต่อไป

“ราคาขายหุ้นไอพีโอที่ 9.99 บาท/หุ้น ถือเป็นระดับราคาที่น่าสนใจอย่างมาก เป็นตามปัจจัยพื้นฐานและศักยภาพการเติบโตที่โดดเด่น ซึ่งจะสามารถสร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับนักลงทุนในระยะยาว โดยคาดว่าจะมีความต้องการส่วนเกินสนใจเข้ามาซื้อหุ้นในกระดานได้อีกมาก”นางสาวพัชพร กล่าว

นายพิศาล รัชกิจประการ กรรมการผู้จัดการ AMA กล่าวว่า บริษัทดำเนินธุรกิจด้านโลจิสติกส์ (Logistic) ให้บริการขนส่งสินค้าทางเรือ และรถ ทั้งใน และต่างประเทศ โดยในธุรกิจขนส่งสินค้าทางเรือ บริษัทเน้นการให้บริการขนส่งสินค้าเหลว (Liquid Product) ได้แก่ ผลิตภัณฑ์น้ำมันพืช (Vegetable Oil Product) เป็นหลัก เช่น น้ำมันปาล์ม น้ำมันมะพร้าว น้ำมันถั่วเหลือง โดยใช้เรือบรรทุกน้ำมัน และสารเคมีหรือ Oil and Chemical Tanker ที่มีน้ำหนักบรรทุกได้ประมาณ 3,000-13,000 เมตริกตัน ซึ่งมีเส้นทางให้บริการหลักในการขนส่งอยู่ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และเอเชียตะวันออก

ส่วนธุรกิจขนส่งทางรถ บริษัทให้บริการขนส่งน้ำมันเชื้อเพลิง และ B100 โดยใช้รถบรรทุกน้ำมันที่มีปริมาณบรรทุก 45,000 ลิตร มีเส้นทางให้บริการหลักในการขนส่งอยู่ภายในประเทศ ทั้งนี้ ณ วันที่ 31 ต.ค.59 บริษัทมีเรือบรรทุกน้ำมันและสารเคมี จำนวน 8 ลำ มีน้ำหนักบรรทุกรวมทั้งสิ้น 46,661 เมตริกตัน และมีรถบรรทุกน้ำมัน จำนวน 95 คัน มีปริมาณการบรรทุกรวมทั้งสิ้น 4.28 ล้านลิตร

โดยการระดมทุนในครั้งนี้จะช่วยให้ AMA มีศักยภาพทางธุรกิจที่สูงขึ้น และเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันทั้งใน และต่างประเทศ ซึ่งเราหวังว่าบริษัทฯจะได้รับการตอบรับที่ดีจากนักลงทุน โดยบริษัทฯมีความมุ่งมั่นที่จะขยายธุรกิจ และสร้างการเติบโตให้กับบริษัทฯ เพื่อสร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับผู้ถือหุ้นในอนาคต

ทั้งนี้ ผลการดำเนินงาน 3 ปีย้อนหลัง ในปี 56 บริษัทมีรายได้รวมเท่ากับ 426.57 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 20.39 ล้านบาท ในปี 57 มีรายได้รวมเท่ากับ 510.46 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 85.40 ล้านบาท ในปี 58 มีรายได้รวมเท่ากับ 643.18 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 130.12 ล้านบาท

ขณะที่ผลการดำเนินงานใน 9 เดือนแรกของปี 59 บริษัทมีรายได้รวมเท่ากับ 677.96 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 100.52 ล้านบาท

 

Back to top button