NPP ปังธงรายได้ปี 60 โต 30% ลุยขยายสาขา A&W ทั้งใน-ตปท.

นายสุรพงษ์ เตรียมชาญชัย กรรมการผู้จัดการ บริษัทนิปปอน แพ็ค (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ NPP เปิดเผยว่า บริษัทตั้งเป้าหมายรายได้ปี 60 จะเติบโตได้ราว 25-30% จากปีนี้ เป็นไปตามแผนการขยายสาขาของธุรกิจด้านอาหารและเครื่องดื่ม โดยปีหน้าจะมุ่งขยายสาขาร้าน A&W เป็นหลัก โดยตั้งงบลงทุนราว 100 ล้านบาท เพื่อเพิ่มสาขาอีก 20 สาขา จากที่มีอยู่ปัจจุบัน 30 สาขา

นอกจากนี้ ยังมีแผนจะขยายสาขาร้าน A&W ไปยังประเทศเพื่อนบ้าน อย่างในเมียนมา ,ลาว และกัมพูชา ซึ่งจะเข้าไปตั้งในห้างสรรพสินค้า และในรูปแบบ stand alone ซึ่งคาดว่าในปีหน้าจะผลักดันให้เกิดขึ้นได้ โดยวางเป้าหมายขยายสาขาอย่างน้อย 3-4 สาขา ในหัวเมืองหลัก เช่น ย่างกุ้ง,มัณฑะเลย์,เวียงจันทน์,หลวงพระบาง,พนมเปญ และเสียมเรียบ เป็นต้น แต่อย่างไรก็ตามยอดขายจากต่างประเทศน่าจะเห็นเป็นรูปธรรมได้คงจะใช้เวลา 2-3 ปีขึ้นไป

ส่วนธุรกิจบรรจุภัณฑ์นั้น มองว่าในปีหน้ายังมีทิศทางการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ตามการเติบโตของกลุ่มลูกค้าแบรนด์ชั้นนำในประเทศ โดยปัจจุบันบริษัทสามารถเดินเครื่องกำลังการผลิตบรรจุภัณฑ์ได้เกือบ 100% ซึ่งน่าจะเพียงพอต่อคำสั่งซื้อที่จะเข้ามา ก็น่าจะทำให้ผลการดำเนินงานโดยรวมของบริษัทเติบโตได้ตามเป้าหมาย ขณะที่การลงทุนของธุรกิจก็จะเป็นเพียงการปรับปรุงประสิทธิภาพเครื่องจักรเท่านั้น

“ในปีหน้าเราจะโฟกัสเรื่องของธุรกิจอาหารเป็นหลัก โดยเฉพาะร้าน A&W ที่จะมีการขยายสาขาเพิ่มขึ้นอีก 20 สาขา และมองการขยายสาขาไปยังประเทศเพื่อนบ้านอีกด้วย จากการเล็งเห็นถึงการเติบโตที่ดีมาก คาดว่าในปีหน้าแผนขยายสาขาในต่างประเทศจะต้องเกิดขึ้น ส่วนธุรกิจบรรจุภัณฑ์ ปัจจุบันสามารถเดินเครื่องกำลังการผลิตได้เกือบ 100% บน 2 กะ ก็ถือว่ามีทิศทางการเติบโตที่ดีมาก จากลูกค้าแบรนด์ชั้นนำในประเทศ ที่มีอัตราการเติบโตที่สูงอยู่แล้ว ในปีหน้าก็มองว่าน่าจะมีการเติบโตที่ดีอย่างต่อเนื่อง ซึ่งสัดส่วนรายได้ในปีหน้าก็จะมาจากธุรกิจอาหาร และธุรกิจบรรจุภัณฑ์อย่างละ 50:50″นายสุรพงษ์ กล่าว

สำหรับธุรกิจอื่นๆ อย่างธุรกิจติดตั้งสื่อโฆษณา ในสถานีบริการน้ำมันของบริษัทปตท. จำกัด (มหาชน) หรือ PTT ภายในร้านค้าปลีกจิฟฟี่ จะเห็นได้ว่าที่ผ่านมาสื่อโฆษณาได้รับผลกระทบอย่างมากจากอุตสาหกรรมชะลอตัว โดยในปีหน้าบริษัทอาจจะต้องชะลอการลงทุนไปก่อน แต่จะยังดำเนินกิจการไม่ให้มีผลขาดทุน

ส่วนธุรกิจให้เช่าพื้นที่การค้า ภายใต้ชื่อ The Brio Mall ก็มีการเติบโตเป็นไปตามเป้าหมาย โดยปัจจุบันก็อยู่ระหว่างพัฒนารูปแบบศูนย์การค้าเพื่อดึงดูดลูกค้าให้เข้ามาใช้บริการภายในศูนย์การค้ามากขึ้น

“เศรษฐกิจในปีหน้าโดยรวมเรามองว่าไม่น่าจะมีอะไรเปลี่ยนแปลงไปมากนัก แต่ก็คงไม่ได้แย่มาก ซึ่งเราก็ประกอบธุรกิจเกี่ยวกับอาหารที่ถือว่ายังเป็นปัจจัยที่ทุกคนต้องกินต้องใช้ โดยเฉพาะอาหารสำเร็จรูป ก็ยังมีการเติบโตที่ดีอยู่ ขณะที่การลงทุนในธุรกิจใหม่ๆ เลย ยังไม่มี เพราะเราต้องการสร้างความแข็งแกร่งให้กับแบรนด์ร้านอาหารและเครื่องดื่มที่มีอยู่ก่อน โดยเฉพาะร้าน A&W” นายสุรพงษ์ กล่าว