หัวหมอ? “เบสท์ริน”ยอมจ่ายภาษีเมล์ NGV 1 คัน แลกส่งมอบให้ทันเดทไลน์ ขสมก.

นายชัยยุทธ คำคุณ รองอธิบดีกรมศุลกากร ในฐานะโฆษกกรมศุลกากร เปิดเผยความคืบหน้าการดำเนินการกรณีรถโดยสารที่ใช้ก๊าซธรรมชาติเป็นเชื้อเพลิง (NGV) จำนวน 391 คันขององค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) ที่บริษัท ซุปเปอร์ซาร่า เป็นผู้นำเข้ามา ว่า ในวันนี้(29ธ.ค.)ทางบริษัทฯ ได้ส่งตัวแทนเพื่อมาขอนำรถเมล์ NGV จำนวน 1 คัน จากล็อตแรกจำนวน 100 คันที่แจ้งว่าเป็นการนำเข้าจากผู้ผลิตในมาเลเซียออกจากท่าเรือแหลมฉบัง

โดยยอมวางประกันค่าภาษี 1.2 ล้านบาท จ่ายค่าปรับ 2 เท่าของอากรที่ขาด และ 1 เท่าของภาษีมูลค่าเพิ่ม รวมเป็นเงินที่ต้องจ่าย 3.7 ล้านบาท ซึ่งหากผู้นำเข้าวางเงินประกันก็สามารถนำรถออกไปได้ทันทีส่วนอีก 99 คันที่ยังต้องจ่ายภาษีนำเข้าพร้อมค่าปรับเช่นเดียวกัน ยังอยู่ระหว่างการดำเนินการเจรจาเพื่อแก้ไขปัญหา

อนึ่ง รถเมล์ NGV 100 คันแรกนั้นบริษัท เบสท์ริน กรุ๊ป ผู้ชนะการประมูลโครงการรถเมล์เอ็นจีวีทั้ง 489 คัน ซึ่งเป็นผู้ว่าจ้างบริษัท ซุปเปอร์ซาร่า จำกัด ให้นำเข้ารถทั้งหมดนั้น มีกำหนดจะต้องส่งมอบให้กับองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) ภายในวันนี้ ไม่เช่นนั้นจะต้องถูกปรับวันละ 1.7 หมื่นบาท/คัน

นายชัยยุทธ กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ ทางผู้นำเข้ายังแจ้งกับกรมศุลกากรว่าจะนำรถอีก 291 คันที่นำเข้ามาในล็อตที่ 2 ออกมาจากท่าเรือแหลมฉบังในช่วงหลังปีใหม่ โดยจะยอมเสียภาษีนำเข้าจากต้นทางประเทศจีนตามอัตราปกติ 40% หรือ 422 ล้านบาท ตกคันละ 1.4 ล้านบาท แต่ขอสงวนสิทธิเพื่อโต้แย้งการเสียภาษีในภายหลัง

“กรมศุลมีหลักฐานและมั่นใจว่ารถเมล์เอ็นจีวีทั้ง 391 คันที่อยู่ท่าเรือแหลมฉบังไม่ได้ผลิตในประเทศมาเลเซีย แต่เป็นการนำเข้าจากประเทศจีน”นายชัยยุทธ กล่าว

นายชัยยุทธ กล่าวว่า เมื่อมีการนำรถเมล์ NGV ออกไปแล้ว ทางกรมขนส่งทางบกจะรับจดทะเบียนรถเมล์ NGV หรือไม่ กรมศุลกากรยังไม่สามารถระบุได้ เพราะกรมศุลกากรมีหน้าที่ในการออกแบบ 32 เพื่อยืนยันว่ารถคันดังกล่าวมีการเสียภาษีนำเข้าถูกต้องแล้ว แต่ในใบ 32 ไม่ได้มีการระบุว่ายังมีข้อโต้แย้งการเสียภาษีเนื่องจากแสดงถิ่นกำเนิดเป็นเท็จ เพียงแต่ระบุหมายเลขเครื่องยนต์ และแชสซี เท่านั้น

ทั้งนี้ ในส่วนของรถเมล์ 291 คัน ที่ยังไม่ได้ยื่นใบขน โดยระเบียบของกรมศุลกากร ระบุว่าหากมีการนำรถเข้ามาก็จะต้องยื่นใบขนสินค้าภายใน 2 เดือน หากไม่ยื่น กรมจะแจ้งเตือนผู้นำเข้าให้มายื่นใบขนภายใน 15 วัน แต่หากยังไม่มาดำเนินการอีก ทางกรมศุลกากรจะยึดรถทั้งหมด เพื่อนำมาขายทอดตลาดต่อไป