PJW บวก 5.77% ลุ้นรายได้ปี 60 โตกระฉูด ตามยอดออเดอร์ที่เพิ่มขึ้น
PJW บวก 5.77% ลุ้นรายได้ปี 60 โตกระฉูด ตามยอดออเดอร์ผลิตบรรจุภัณฑ์น้ำมันเครื่อง-ชิ้นส่วนรถยนต์ที่เพิ่มขึ้น ล่าสุด ณ เวลา 14.50 น. ราคาอยู่ที่ 3.30 บาท บวก 0.18 บาท หรือ 5.77% สูงสุดที่ 3.38 บาท ต่ำสุดที่ 3.12 บาท มูลค่าซื้อขายที่ 90.51 ล้านบาท
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ราคาหุ้นบริษัท ปัญจวัฒนาพลาสติก จำกัด (มหาชน) หรือ PJW ณ เวลา 14.50 น. ราคาอยู่ที่ 3.30 บาท บวก 0.18 บาท หรือ 5.77% สูงสุดที่ 3.38 บาท ต่ำสุดที่ 3.12 บาท มูลค่าซื้อขายที่ 90.51 ล้านบาท
นายวิวรรธน์ เหมมณฑารพ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ปัญจวัฒนาพลาสติก จำกัด (มหาชน) หรือ PJW เปิดเผยว่า บริษัทตั้งเป้ารายได้ในปี 60 เติบโตไม่ต่ำกว่า 5-10% ตามแนวโน้มการเติบโตของยอดออเดอร์ของการสั่งผลิตบรรจุภัณฑ์น้ำมันเครื่องและชิ้นส่วนรถยนต์ที่มีแนวโน้มปรับตัวเพิ่มขึ้น ตามแนวโน้มยอดขายรถยนต์ที่เพิ่มขึ้นหลังรถยนต์คันแรกเริ่มทยอยครบโครงการ
ขณะที่แนวโน้มการด้านการรักษาสุขภาพเริ่มมีมากขึ้น ส่งผลดีต่อยอดขายผลิตภัณฑ์นมเปรี้ยวเติบบโตอย่างมาก ทำให้บริษัทได้รับอานิสงส์ที่ลูกค้าจะมีออเดอร์สั่งผลิตบรรจุภัณฑ์นมเปรี้ยวเพิ่มมากขึ้น และบรรจุภัณฑ์เคมีเกษตรคาดว่าน่าจะมีแนวโน้มที่ดีด้วยเช่นกันหลังจากผ่านพ้นภัยแล้งไปแล้ว ซึ่งปัจจัยโดยภาพรวมในปีหน้ายังเป็นทิศทางที่ดีอยู่
สำหรับแนวโน้มโรงงานในประเทศจีนคาดว่าจะมีแนวโน้มที่ดีอย่างต่อเนื่อง หลังจากที่รัฐบาลจีนหันมาเน้นกระตุ้นการบริโภคในประเทศมากขึ้น ซึ่งปัจจุบันบริษัทได้ใช้กำลังการผลิตในประเทศจีนเต็ม 100% พร้อมกับวางแผนการสร้างโรงงานในประเทศจีนใหม่ ในมณฑลเทียนจิน โดยใช้เงินลงทุนในเบื้องต้นราว 200 ล้านบาท แต่อาจจะมีการปรับเพิ่มเป็น 300 ล้านบาท หากมียอดออเดอร์เข้ามาเกินกว่าที่คาดการณ์ไว้ โดยโรงงานใหม่ในประเทศจีนแห่งนี้จะเข้ามาทดแทนโรงงานแห่งเดิมที่ครบกำหนดอายุสัญญาเช่าในช่วงปลายปี 60 โดยมีพื้นที่ขนาด 20,000 ตารางเมตร แต่ในเฟสแรกบริษัทจะใช้พื้นที่ทั้งหมด 12,000 ตารางเมตร เพื่อรองรับการผลิตสินค้าให้ลูกค้า ซึ่งโรงงานแห่งใหม่จะเริ่มก่อสร้างช่วงไตรมาส 2/60 และคาดว่าจะก่อสร้างแล้วเสร็จพร้อมเปิดดำเนินการได้ในช่วงปลายไตรมาส 3/60 หรือต้นไตรมาส 4/60 โดยแหล่งเงินทุนในการก่อสร้างโรงงานจะมาจากกระแสเงินสดของบริษัทและการกู้ยืมสถาบันการเงิน
นอกจากนี้ในช่วงครี่งปีแรกของปี 60 บริษัทจะเข้าประมูลงานจากลูกค้าในจีน 2 ราย มูลค่ารวมกว่า 100 ล้านบาท ซึ่งบริษัทคาดหวังจะได้รับงานมากกว่า 50% ของมูลค่างานที่ประมูล พร้อมกับวางเป้าหมายสัดส่วนรายได้ในจีนจะเพิ่มขึ้นเป็น 20% หรือแตะ 1 พันล้านบาท ภายในปี 64-65 จากปัจจุบันสัดส่วนรายได้ในประเทศจีนอยู่ที่ 7% โดยสิ้นปีนี้โรงงานในจีนจะมีรายได้อยู่ที่ 180 ล้านบาท และบริษัทตั้งเป้ารายได้ในประเทศจีนปี 60 อยุ่ที่ 300 ล้านบาท
ส่วนธุรกิจโรงพ่นสีในนิคมอุตสาหกรรมปิ่นทอง จ.ชลบุรี ในปี 60 บริษัทคาดว่าจะมีแนวโน้มการขาดทุนลดลง แต่ยังไม่ถึงจุดคุ้มทุน เนื่องจากยอดขายของโรงพ่นสีในปี 60 คาดว่าจะยังไม่ถึงระดับ 150-200 ล้านบาท ซึ่งเป็นระดับจุดคุ้ม แต่แนวโน้มของยอดขายเริ่มมีการปรับตัวเพิ่มขึ้น หลังอุตสาหกรรมยานยนต์เริ่มมีการฟื้นตัวกลับมา ซึ่งคาดว่าจะต้องใช้เวลาอีก 1-2 ปี ระดับยอดขายของธุรกิจโรงพ่นสีจะถึงระดับจุดคุ้มทุนได้ โดยในปีนี้ยอดขายของธุรกิจโรงพ่นสีคาดว่าอยู่ที่ 80-100 ล้านบาท และในปีหน้าจะมีการปรับตัวเพิ่มขึ้นได้เล็กน้อย
ทั้งนี้ บริษัทจะพยายามรักษาระดับอัตรากำไรขั้นต้นในปี 60 ให้อยู่ที่ระดับ 15-18% ใกล้เคียงกับปีนี้ ซึ่งจะมาจากการที่บริษัทเน้นผลิตสินค้าประเภทบรรจุภัณฑ์ที่ให้มาร์จิ้นสูง รวมถึงยอดขายในประเทศจีนที่มีการเติบโตอย่างต่อเนื่องเข้ามาช่วยหนุน
นายวิวรรธน์ กล่าวถึงผลการดำเนินงานปีนี้ว่า คาดว่ารายได้จะต่ำกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้เติบโต 8-10% เนื่องจากกิจกรรมท่องเที่ยวและกิจกรรมสนับสนุนการขายต่างๆ ช่วงปลายปีเลื่อนกำหนดการออกไป ทำให้ยอดการจับจ่ายใช้สอยชะลอตัวลง และแนวโน้มภาวะอุตสาหกรรมยายนต์ในไตรมาส 4/59 มีการชะลอตัวลงไปบ้างเล็กน้อย