“บางกอกชีท เม็ททัล” จ่อยื่นไฟลิ่งหวังเข้าเทรด mai รุกขยายตลาดในอาเซียน

“บางกอกชีท เม็ททัล” หรือ BM ผู้ดำเนินธุรกิจผลิตแปรรูปผลิตภัณฑ์เหล็ก เตรียมยื่นไฟลิ่งกับตลท. หวังเข้าเทรด mai โดยตั้ง บ.แอสเซทโปร แมเนจเม้นท์ เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน


นายธีรวัต อมรธาตรี กรรมการผู้จัดการ บริษัท บางกอกชีท เม็ททัล จำกัด (มหาชน) หรือ BM เปิดเผยว่า บริษัทอยู่ระหว่างเตรียมการเข้าจดทะเบียนเป็นบริษัทในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ ภายหลังจากแต่งตั้งให้ บริษัท แอสเซทโปร แมเนจเม้นท์ จำกัด เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน เพื่อแปรสภาพบริษัทมหาชน หลังจากนั้นจะยื่นแบบแสดงรายการข้อมูลให้กับสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.)ในเร็วๆ นี้เพื่อจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ (mai)

โดย BM เป็นผู้นำในการผลิต แปรรูปผลิตภัณฑ์เหล็ก รางและท่อร้อยสายไฟฟ้า สื่อสาร ตู้ไฟฟ้า ตู้โลหะ และ แผงควบคุมไฟฟ้า ที่ใช้ตาม อาคาร คอนโด และ ที่อยู่อาศัย ภายใต้แบรนด์ BSM

สำหรับแผนการลงทุนของบริษัทในปีนี้มีแผนขยายไปยังประเทศในอาเซียนมากขึ้น โดยเฉพาะในประเทศเมียนมาร์ ซึ่งการดำเนินงานอาจจะเป็นในลักษณะของหาช่องทางในการจัดจำหน่ายหรือการร่วมลงทุน เนื่องจากบริษัทเล็งเห็นว่าปัจจุบันประเทศในอาเซียนกำลังอยู่ในช่วงพัฒนาประเทศ จึงมีความต้องการงานด้านเหล็กโครงสร้าง หรืองานก่อสร้างอื่นๆ มากยิ่งขึ้น

ขณะที่รายได้โดยรวมในปี 58 มีแนวโน้มที่จะเติบโตขึ้นกว่าปีก่อน แต่ในเรื่องของกำไรโดยรวมอาจจะยังไม่ชัดเจนว่าจะโตมากหรือน้อยเพียงใด เนื่องจากสภาพเศรษฐกิจที่ค่อนข้างชะลอตัว หลายโครงการโดยเฉพาะโครงการเมกะโปรเจกต์ที่มีแผนจะก่อนสร้างก็เป็นไปอย่างล่าช้า ส่งผลให้ตลาดอุตสาหกรรมเหล็กโดยรวมค่อนข้างนิ่งในช่วงแรกของปี บริษัทจึงจำเป็นต้องปรับแผนด้านราคาชิ้นงานเพื่อให้เหมาะสม และสอดคล้องกับสภาวะตลาดมากยิ่งขึ้น แต่เชื่อว่าต่อจากนี้ โครงการเมกะโปรเจกต์ต่างๆ ของรัฐบาล ที่มีแผนดำเนินการในเร็วๆ นี้ จะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ ทำให้อุตสาหกรรมเหล็ก โดยเฉพาะเหล็กโครงสร้าง ได้รับอานิสงส์กันถ้วนหน้า

นอกจากนี้ บริษัทยังสร้างโรงงานเพิ่มอีกหนึ่งแห่ง บริเวณฝั่งตรงข้ามกับโรงงานเดิมของบริษัทฯ ปัจจุบันงานโครงสร้างแล้วเสร็จกว่า 100 % แล้ว พร้อมนำเข้าเครื่องจักรกลใหม่มูลค่ารวมกว่า 40 ล้านบาท เพื่อรองรับงานแปรรูปเหล็กที่มีเพิ่มขึ้นทุกรูปแบบ ทั้งงานผลิตเหล็กโครงสร้าง ที่ลักษณะชั้นงานมีแนวโน้มเชื่อมสำเร็จจากโรงงานมากขึ้น หรืองานเหล็กชิ้นเล็กเพื่อต่อประกอบจากต่างประเทศ ทั้งจากลูกค้าเดิม และลูกค้ารายใหม่ โดยเฉพาะการผลิตสินค้าให้บริษัทต่างชาติ และการผลิตสินค้าภายใต้แบรนด์ของบริษัทฯ เอง เพื่อขายประเทศเพื่อนบ้านที่กำลังจะมีในอนาคต

 

 

 

 

Back to top button