จับตา 8 หุ้นวิ่งฉิว! ร่วมชิงเค้กงานปรับปรุงสายส่งไฟฟ้าภาคใต้มูลค่า 3.54 หมื่นลบ.
จับตา 8 หุ้นวิ่งฉิว! ร่วมชิงเค้กงานปรับปรุงสายส่งไฟฟ้าภาคใต้มูลค่า 3.54 หมื่นลบ.
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วานนี้ (24 ม.ค.) ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้อนุมัติโครงการปรับปรุงระบบสายส่งไฟฟ้าภาคใต้ตอนล่าง วงเงิน 3.54 หมื่นล้านบาท โดยประเด็นดังกล่าวคาดจะส่งผลดีกับบริษัทที่ดำเนินธุรกิจระบบสายส่งไฟฟ้าและธุรกิจที่เกี่ยวเนื่อง อาทิ บริษัท อินเตอร์ลิ้งค์ คอมมิวนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ ILINK, บริษัท เอื้อวิทยา จำกัด (มหาชน) หรือ UWC, บริษัท เอสซีไอ อีเลคตริค จำกัด (มหาชน) หรือ SCI, บริษัท เด็มโก้ จำกัด (มหาชน) หรือ DEMCO, บริษัท กันกุลเอ็นจิเนียริ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ GUNKUL, บริษัท จรุงไทยไวร์แอนด์เคเบิ้ล จำกัด (มหาชน) หรือ CTW, บริษัท คอมมิวนิเคชั่น แอนด์ ซิสเต็มส์ โซลูชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ CSS และ บริษัท แอร์โรว์ ซินดิเคท จำกัด (มหาชน) หรือ ARROW
โดยบริษัทดังกล่าวล้วนเคยเข้าประมูลงานระบบสายส่งมาก่อน จึงเป็นไปได้ที่หุ้นกลุ่มนี้จะเข้าร่วมประมูลงานดังกล่าวอีกครั้งและคาดว่าจะส่งผลให้ราคาหุ้นปรับตัวขึ้นแรงในวันนี้
อนึ่งวานนี้ พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่กระทรวงพลังงานเสนอในการให้การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ปรับปรุงระบบส่งไฟฟ้าภาคใต้ตอนล่าง วงเงินลงทุน 35,400 ล้านบาท แบ่งเป็น 2 ระยะ โดยระยะที่ 1 เริ่ม ปี 59-63 และระยะที่ 2 เริ่ม ปี 63-66
โดยระยะที่ 1 ดำเนินการจัดทำสายส่ง 500 kv เริ่มตั้งแต่ จ.ชุมพร ระนอง สุราษฎร์ธานี พังงา ภูเก็ต ส่วนระยะทึ่ 2 มีทั้งจัดทำสายส่งขนาด 500 kv และขยายสถานีส่งตั้งแต่ จ.สงขลา ลงไปจนถึงจังหวัดชายแดนภาคใต้
“จุดประสงค์เพื่อสร้างความมั่นคงเรื่องระบบพลังงานไฟฟ้าในพื้นที่จังหวัดภาคใต้ เนื่องจากที่ผ่านมา เวลามีปัญหาเกิดขึ้นจากแหล่งในภาคกลางหรือสายส่งที่ลงไปภาคใต้ วันนี้จึงเพิ่มความจุในสายส่ง เพื่อให้สามารถรองรับการใช้ไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้นในพื้นที่ภาคใต้” โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ระบุ
อย่างไรก็ดี ในกรณีเฟสที่ 2 ครม.ได้ให้ความเห็นว่า เนื่องจากสายส่งในพื้นที่มีขนาด 230 หรือไม่ก็ 115 kv จุดประสงค์ที่ขยายสายส่งเป็น 500 kv เพราะว่า ถ้าโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทนทั้งหลายในพื้นที่ภาคใต้ หรือโรงงานไฟฟ้าที่เทพา ที่กระบี่ก็ตามสร้างเสร็จเรียบร้อยจะสามารถผลิตกระแสไฟฟ้าได้ค่อนข้างมาก สามารถนำกระแสไฟฟ้าที่ผลิตส่งไปเสริมความมั่นคงในภูมิภาคอื่นได้เช่นเดียวกัน
“แต่ก็มีข้อแม้ว่า ถ้าโรงงานไฟฟ้าที่เทพา กับที่กระบี่ไม่สามารถดำเนินการตามแผนได้ แผนการขยายสายส่งเฟสที่ 2 ก็ไม่เกิดขึ้น ซึ่งครม.ก็ได้รับหลักการ” พล.ท.สรรเสริญ กล่าว
พร้อมระบุว่า นายกรัฐมนตรีจะหารือกระทรวงพลังงาน โดยจะมีการประชุมคณะกรรมการชุดใหญ่ในเร็วๆ นี้ และจะเสนอ ครม.ให้ได้เข้าใจว่ามีหลายแนวคิดในพื้นที่ เช่น บรรดากลุ่มสิทธิมุนษยชนทั้งหลายเป็นห่วงเรื่องผลกระทบ แต่คนในพื้นที่จำนวนมากที่เห็นข้อเท็จจริงว่าปริมาณการใช้ไฟฟ้ามากขึ้น มีการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ มีการขยายตัวของภาคธุรกิจหลากหลายประเภท ซึ่งต้องอาศัยกระแสไฟฟ้ามากทั้งสิ้น แนวคิดว่าจะจำกัดหรือลดปริมาณการใช้ลง เป็นเรื่องที่แทบจะเป็นไปไม่ได้เลย เพราะฉะนั้นยังไงก็คงต้องเดินหน้า เพียงแต่ต้องให้เกิดความเข้าใจรับรู้โดยทั่วกันของสังคมว่าคนในพื้นที่ คนนอกพื้นที่ต้องเห็นความสำคัญของการสร้างเสถียรภาพความมั่นคง และตอบรับต่อความต้องการหรือปริมาณบริโภคกระแสไฟฟ้าที่สูงขึ้นว่ามีจริง
“ส่วนข้อห่วงใยทั้งหลาย ก็อย่าเพิ่งไปกังวลมากนัก เพราะยังไม่ได้เลือกเทคโนโลยี และเทคโนโลยีทุกวันนี้ก็ทันสมัย สามารถแก้ไขเรื่องต่างๆ ที่เป็นข้อวิตกกังวลได้ โดยดูจากประเทศอื่นๆ ที่มีใช้ อย่างไรเสีย เรื่องนี้ก็คงจะต้องดำเนินการ แต่คงดำเนินการบนข้อมูลพื้นฐาน เหตุผลที่สังคมเข้าใจได้” โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าว
ด้านบล.กรุงศรี ระบุในบทวิเคราะห์ว่า กลุ่มหุ้นที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัววันนี้ คือกลุ่มสายส่งไฟฟ้า DEMCO และ SCI ซึ่งได้ผลบวก ครม.อนุมัติเงินลงทุนในระบบสายส่งไฟฟ้าภาคใต้มูลค่า 3.5 หมื่นล้านบาท