AAV รับต้นทุนน้ำมันเพิ่ม 1.50 พันลบ. หลังรับขึ้นภาษีน้ำมันอากาศยาน
AAV รับต้นทุนน้ำมันเพิ่ม 1.50 พันลบ. หลังรับขึ้นภาษีน้ำมันอากาศยาน ตั้งเป้าจำนวนผู้โดยสาร 19.50 ล้านคน จาก 17 ล้านคนในปีก่อน
นายธรรศพลฐ์ แบเลเว็ดด์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอเชีย เอวิเอชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ AAV และ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายการบินไทยแอร์เอเชีย เปิดเผยว่าจากกรณีคณะรัฐมนตรี(ครม.) มีมติเพิ่มภาษีสรรพสามิตน้ำมันเชื้อเพลิง สำหรับเครื่องบินภายในประเทศจาก 1% เป็น 23% ของราคาน้ำมันนั้นทำให้สายการบินไทยแอร์เอเชียมีภาระต้นทุนน้ำมันเพิ่มขึ้นมาอีกราว 1.5 พันล้านบาท
ทั้งนี้ ราคาน้ำมันอากาศยานหน้าโรงกลั่น ณ วันนี้ปรับขึ้นมาที่ 20 บาท/ลิตรจากปีก่อนเฉลี่ยที่ 16 บาท/ลิตร และบวกกับภาษีใหม่เป็น 4.89 บาท/ลิตร จาก 0.20 บาท/ลิตร และได้จัดเก็บจากผู้โดยสารที่เดินทางในประเทศ 150 บาท/เที่ยว เริ่มมีผล 1 ก.พ.60
สำหรับแนวโน้มราคาน้ำมันปีนี้ปรับขึ้นกว่าปีก่อน โดยคาดว่าราคาน้ำมันอากาศยาน (JET A1) จะอยู่ที่ 65 เหรียญ/บาร์เรล บวกลบ 3 เหรียญ/บาร์เรล. โดยปีนี้จะมีสัดส่วนต้นทุนน้ำมันไม่มากกว่า 35%จากปีก่อนมีสัดส่วน 33% โดยปัจจุบัน บริษัทได้ทำประกันราคาน้ำมันล่วงหน้าสำหรับปี 60 แล้วสัดส่วน 75% ของปริมาณการใช้น้ำมัน. ที่ราคา 60 เหรียญ/บาร์เรล จากปีก่อนทำไว้สัดส่วน 67-68% ทั้งนี้ในช่วง 9 เดือนในปี 59 บริษัทมีค่าใช้จ่ายน้ำมันจำนวน 6,100 ล้านบาท และคาดว่าทั้งปี 59 จะต่ำกว่าปี 58 ที่มีค่าใช้จ่ายน้ำมันที่ 9,800 ล้านบาท
โดยการจัดเก็บดังกล่าวเกรงว่าจะกระทบกับการท่องเที่ยวของไทย โดยสายการบินโลว์คอสต์ที่นักท่องเที่ยวต้องการประหยัดค่าเดินทางแต่ต้องจ่ายเพิ่มในส่วนนี้ก็อาจจะรับผลกระทบ ก็ต้องรอประเมินผลกระทบในช่วงเดือน มี.ค.-ม.ย.60 เพราะขณะนี้มีผู้จองตั๋วล่วงหน้าไปถึงเดือน ก.พ.แล้ว ซึ่งส่วนนี้บริษัทก็ต้องจ่ายสมทบค่าภาษีน้ำมันเองด้วย
“เราเข้าใจว่ารัฐต้องการเงินนำไปลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน แต่การท่องเที่ยวก็เป็นรายได้หลักให้ประเทศ คนที่ใช้โลว์คอสต์ต้องการประหยัดทุกบาท อยากฝากภาครัฐถ้าต้องการกระตุ้นให้นักท่องเที่ยว เราก็มีเสียว เพราะค่าตั๋วขึ้นทุก 20 บาท 50 บาทก็มีผลการท่องเที่ยว คราวนี้ขึ้นมา 150 บาทถือว่าค่อนข้างเยอะหรือ 15% ของตั๋ว ก็คงส่งผลกระทบ”
ทั้งนี้บริษัทคำนวณค่าภาษีน้ำมันที่เก็บ 150 บาท/เที่ยว จากปริมาณน้ำมันที่ใช้เที่ยวบินในประเทศในปีนี้ แล้วรวมค่าภาษีสรรพสามิตน้ำมัน 4.89 บาท/ลิตร หารด้วยจำนวนผู้โดยสารในประเทศที่ปีนี้ตั้งเป้าไว้ที่ 12 ล้านคน หากราคาน้ำมันโลกปรับตัวลงบริษัทจะปรับลดค่าภาษีน้ำมัน ขณะที่บริษัทจะออกโปรโมชั่นให้ถี่ขึ้นเพื่อจูงใจผู้โดยสาร รวมทั้งตัดกิจกรรมการตลาด ขณะที่ราคาตั๋วปรับลดลงตลอดจากการแข่งขัน ซึ่งปีก่อนราคาตั๋วเฉลี่ย 1,200 บาท/เที่ยว ในปีนี้คาดว่าการแข่งขันยังเหมือนเดิม เพราะทุกรายก็รับผลกระทบเหมือนกัน
อย่างไรก็ตามในปี 60 บริษัทตั้งเป้าจำนวนผู้โดยสาร 19.5 ล้านคน จาก 17 ล้านคนในปีก่อน โดยแบ่งเป็นผู้โดยสารในประเทศ 12 ล้านคนหรือสัดส่วน 60% อีก 7.5 ล้านคนเป็นผู้โดยสารต่างชาติ
พร้อมกันนั้น บริษัทยังตั้งเป้าสัดส่วนผู้โดยสารจากจีนในปีนี้ไม่เกิน 20% จากปีก่อนมีสัดส่วน 25-26% เพราะไม่ต้องการพึ่งพิงผู้โดยสารจีนมากเกินไป ขณะที่ต้องการเพิ่มสัดส่วนผู้โดยสารกลุ่มประเทศ CLMV ทั้งกัมพูชา ลาว เมียนมา และเวียดนาม เป็น 15% จาก 10% ในปีก่อน
สำหรับอัตราส่วนบรรทุกผู้โดยสาร (load factor) ในปีนี้ตั้งเป้าไว้ที่ 84% ใกล้เคียงปีก่อน โดยคาดว่า load factor ในไตรมาสแรกน่าอยู่ที่ 85-86% ซึ่งในเดือน ม.ค.60 อยู่ในระดับ 88% และเดือน ก.พ.60 อยู่ที่ 87% ซึ่งถือว่าเป็นระดับที่ดีใกล้เคียงปีก่อน โดยผู้โดยสารจากจีนฟื้นตัวเข้ามามากในช่วงเทศกาลตรุษจีน จากสถานการณ์ในไตรมาส 4/59 นักท่องเที่ยวจีนปรับลดลง 20% แต่ยังต้องรอผลว่าฟื้นจริงหรือไม่ในเดือน มี.ค.-เม.ย.นี้
ในปีนี้สายการบินไทยแอร์เอเชียจะรับเครื่องบินใหม่ แอร์บัส A320 จำนวน 6 ลำ ใช้บิน 5 ลำ สำรอง 1 ลำ ใช้รองรับจุดบินใหม่ 8-10 เมือง โดยจะเพิ่มจุดบินใหม่ในอินเดีย 2-3 เมืองจากปัจจุบันที่มี 4 เมือง และในกลุ่มประเทศ CLMV นอกจากนี้เพิ่มความถี่เส้นทางในประเทศ และเส้นทางประเทศ CLMV ส่วนในจีนจะไม่เพิ่มจุดบินใหม่แล้ว