COLOR ตั้งเป้ารายได้ปีนี้โตเกิน 18%-เตรียมงบลงทุน 22 ลบ.เพิ่มประสิทธิภาพการผลิต

COLOR ตั้งเป้ารายได้ปี 60 โตเกิน 18% ทะลุ 1 พันลบ หลังมีแผนขยายมาร์เก็ตแชร์ในประเทศเพิ่มเป็น 15% พร้อมเพิ่มสัดส่วนการส่งออกตปท.เพิ่มเป็น 20%. – เตรียมงบลงทุน 22 ลบ. หวังเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต


นายขวัญชัย ณัฏฐ์เศรษฐ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท สาลี่ คัลเล่อร์ จำกัด (มหาชน) หรือ COLOR ผู้นำด้านมาสเตอร์แบตซ์สำหรับอุตสาหกรรมพลาสติกในรูปแบบของเม็ดพลาสติกผสมสี และสารเติมแต่งแบบเข้มข้น เปิดเผยถึงแผนการดำเนินงานในปี 60 ว่า บริษัทตั้งเป้ารายได้เติบโต 18% จากปีก่อนหรือมากกว่า 1 พันล้านบาท เนื่องจากมีแผนขยายส่วนแบ่งตลาด (มาร์เก็ตแชร์) ในประเทศเพิ่มเป็น 15% จากปีที่ผ่านมาอยู่ที่ 12% และเพิ่มสัดส่วนธุรกิจส่งออกไปยัง ASEAN ออสเตรเลียและยุโรปเป็น 20% จากปีที่ผ่านมาอยู่ที่ 13%

ขณะเดียวกันบริษัทกำลังอยู่ในระหว่างการดำเนินการเพิ่มกำลังการผลิตสินค้าในกลุ่มฟิลเล่อร์ (Mineral Filler Masterbatches) อีก 15,000-20,000 ตัน โดยการเพิ่มสายการผลิตใหม่อีก เป็นผลให้กำลังการผลิตมาสเตอร์แบตซ์โดยรวมเป็น 60,000 ตันต่อปี พร้อมทั้งจัดเตรียมแผนออกสินค้าใหม่ในกลุ่มฟิลเล่อร์ เพื่อรองรับการพัฒนาการใช้งานในกลุ่มผู้ผลิตหีบห่อบรรจุภัณฑ์ คาดว่าจะแล้วเสร็จและสามารถเริ่มการผลิต และจำหน่ายได้ประมาณปลายไตรมาส 2/60

นอกจากนี้ บริษัทยังมีปริมาณคำสั่งซื้อค้างส่งจากปี 59 คิดเป็นประมาณการรายได้ประมาณ 100 ล้านบาท

สำหรับภาพรวมเศรษฐกิจไทยในปี 60 คาดว่าจะเติบโตประมาณ 3% ขณะที่แนวโน้มราคาน้ำมันดิบคาดว่าจะปรับตัวสูงขึ้นไปแตะที่ระดับ 60 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล ส่งผลให้ราคาสินค้ากลุ่มปิโตรเคมีและพลาสติกมีแนวโน้มจะสูงขึ้นกว่าเดิมอีก 8-15%

ทั้งนี้ บริษัทได้กำหนดงบประมาณลงทุนในปีนี้อยู่ที่ 22 ล้านบาท แบ่งเป็นใช้ลงทุนอะไหล่สำรองสำหรับเครื่องจักร 10% ปรับปรุงระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ 17% อุปกรณ์เครื่องมือแผนก R&D 18% และปรับปรุงเทคโนโลยี อุปกรณ์และเครื่องจักรเพื่อการเพิ่มประสิทธิภาพของกระบวนการผลิต 55% ซึ่งเงินทุนจำนวนนี้เป็นผลกำไรที่ได้จากการดำเนินธุรกิจในปี 59

นายขวัญชัย กล่าวอีกว่า บริษัท มุ่งเน้นการดำเนินนโยบาย ขยายและพัฒนาตลาดการใช้มาสเตอร์แบตซ์เพิ่มเติมอย่างต่อเนื่อง โดยใช้ความได้เปรียบด้านเทคโนโลยีการผลิต การคัดสรรวัตถุดิบ ประสบการณ์ ความชำนาญของบุคลากรและแนวทางการบริหารธุรกิจที่ทันสมัย การวิจัยพัฒนาสินค้าใหม่เป็นแรงขับเคลื่อนองค์กรควบคู่ไปกับประสิทธิภาพและต้นทุนที่แข่งขันได้ในการผลิตสินค้าที่ได้มาตรฐาน รองรับความต้องการในอุตสาหกรรมพลาสติก ตั้งแต่ระดับผู้ผลิตเม็ดพลาสติกไปจนกระทั่งผู้บริโภคทุกระดับ ทั้งในประเทศและต่างประเทศ ทั่วทั้งภูมิภาค

Back to top button