KBS ตั้งเป้าปี 58 รายได้-กำไรโต 5% หลังรับรู้โรงไฟฟ้า 35 MW เต็มปี

KBS ตั้งเป้าปี 58 รายได้-กำไรโต 5% หลังรับรู้โรงไฟฟ้า 35 MW เต็มปี คาด Q1/58 รายได้ใกล้เคียง Q1/57 เผยตั้งงบลงทุนปีนี้ 3.5 พันลบ.ขยายกำลังหีบอ้อย-ผลิตเอทานอล


นายธาญทิฐ เกษมทรัพย์ ผู้อำนวยการ สายงานพัฒนาธุรกิจ บริษัท น้ำตาละครบุรี จำกัด (มหาชน) หรือ KBS เปิดเผยว่า บริษัทตั้งเป้ารายได้และกำไรสุทธิในปี 58 เติบโต 5% จากปีก่อนที่มีรายได้อยู่ที่ 6.3 พันล้านบาท และมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 318.68 ล้านบาท ซึ่งปัจจัยที่ผลักดันรายได้และกำไรสุทธิในปีนี้อย่างมีนัยสำคัญจะมาจากการรับรู้รายได้จากการขายไฟของโรงไฟฟ้าพลังงานชีวมวลขนาด 35 เมกะวัตต์ได้เต็มปี คาดว่าจะสร้างรายได้กว่า 550 ล้านบาทต่อปี หรือกว่า 50 ล้านบาทต่อเดือน และสร้างกำไรได้กว่า 150 ล้านบาท/ปี หรือกว่า 15 ล้านบาทต่อเดือน

อย่างไรก็ตามในปีนี้บริษัทยังต้องรับผลราคาขายน้ำตาลที่ยังมีการปรับตัวลดลงซึ่งส่งผลต่อผลการดำเนินงานของบริษัท ซึ่งราคาน้ำตาลในปัจจุบันอยู่ที่ 12 เซนต์/ปอนด์ ลดลงจากปีก่อนที่ 17-18 เซนต์/ปอนด์ ซึ่งมีผลต่อผลประกอบการในไตรมาส 1/58 บริษัทคาดว่ารายได้ในไตรมาส 1/58 นั้นจะออกมาใกล้เคียงกับช่วงเดียวกันของปีก่อนจากราคาน้ำตาลลดลงกดดันผลประกอบการให้ยังไม่มีการเติบโตขึ้น

นอกจากนี้ ปริมาณการหีบอ้อยในปี 58 คาดว่าลดลงมาที่ 2.3 ล้านตันต่อปี จากปีก่อนมีปริมาณการหีบอ้อยอยู่ที่ 2.5 ล้านตันต่อปี เป็นผลมาจากปริมาณฝนลดลงทำให้ผลผลิตอ้อยมีปริมาณลดลง อีกทั้งยังส่งผลไปต่อปริมาณการผลิตน้ำตาลในปีนี้ที่จะมีปริมาณการผลิตลดลงมาที่ 2.35 แสนตัน/ปี จากปีก่อนที่มีปริมาณการผลิตน้ำตาล 2.7 แสนตัน/ปี

ขณะที่ในปีนี้ทั้งราคาน้ำตาล ปริมาณน้ำตาล และปริมาณการหีบอ้อยก็มีการลดลงหมด ส่งผลกระทบต่อผลประกอบการ แต่ยังมั่นใจว่าจะทำได้ตามเป้า เนื่องจากปีนี้มีการรับรู้รายได้โรงไฟฟ้าเข้ามาช่วย ซึ่งจะมีผลอย่างมีนัยสำคัญต่อบริษัท โดยสัดส่วนรายได้จาดการขายไฟฟ้าปีนี้จะเพิ่มมาอยู่ที่ 8% จากปีก่อนที่ 2% และสัดส่วนรายได้จากการขายน้ำตาลจะลดลงมาอยู่ที่ 92% จากปีก่อนที่ 98% ส่วนทิศทางราคาน้ำตาลในตอนนี้ก็ยังตอบไม่ได้ว่าจะเป็นอย่างไร ต้องดูราคาน้ำตาลในบราซิลว่าจะมีทิศทางเป็นอย่างไร

สำหรับงบลงทุนในปี 58 บริษัทตั้งไว้ที่ 3.5 พันล้านบาท แบ่งเป็นการใช้เพิ่มกำลังการหีบอ้อยช่วงปลายปีนี้เป็น 3.5 หมื่นตัน/เดือน จากเดิมอยู่ที่ 2.3 หมื่นตัน/เดือน โดยเงินลงทุนจำนวน 3.1 พันล้านบาท และเงินลงทุนอีก 1.2 พันล้านบาทจะใช้ในการลงทุนก่อสร้างโรงงานผลิตเอทานอล กำลังการผลิต 2 แสนลิตร/วัน คาดว่าจะก่อสร้างแล้วเสร็จในปี 59 ทั้งนี้เงินลงทุนทั้งหมดจะมาจากกระแสเงินสดของบริษัท เงินกู้สถาบันการเงิน และเงินที่ได้จากการขายหุ้นกู้แบบเฉพาะเจาะจง(PP)ในช่วงที่ผ่านมา 600 ล้านบาท

Back to top button