“ทวิช” เร่ง “หมอวิชัย” จัดประชุมบอร์ด IFEC หวังปลด SP เร็วที่สุด!

“ทวิช เตชะนาวากุล” เร่ง “หมอวิชัย” เรียกประชุมคณะกรรมการ IFEC ทำแผนชำระหนี้ตั๋วบี/อี มูลค่ากว่าพันลบ. หวังปลดเครื่องหมาย SP โดยเร็ว!

นายทวิช เตชะนาวากุล เจ้าของนิคมอุตสาหกรรมไฮเทค ในฐานะผู้ถือหุ้นใหญ่ของบริษัท อินเตอร์ ฟาร์อีสท์ เอ็นเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) หรือ IFEC เปิดเผยผ่านรายการ “ข่าวหุ้นเจาะตลาด ออนเรดิโอ” ทาง FM 98.5 MHz สถานีข่าวจริง สปริงเรดิโอ ช่วงเวลา 9.30-11.00 น. ถึงกรณีที่กรรมการชุดใหม่ที่ตนเสนอชื่อได้รับการคัดเลือกจำนวน 5 ราย ว่า ในการลงคะแนนคัดเลือกกรรมการชุดใหม่วานนี้ ( 14 ก.พ.) มีวิธีดำเนินการที่ค่อนข้างสับสน

โดยผู้ลงคะแนนเสียงสามารถลงคะแนนทั้งหมดให้บุคคลเดียวหรือ 2 บุคคลก็ได้ ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องที่แปลกมากและไม่ตรงกับหนังสือเชิญประชุมที่ปกติจะมีข้อกำหนการลงคะแนนเสียงการเลือกตั้งกรรมที่ชัดเจน คือ ผู้ถือหุ้นจะมีคะแนนเสียง 1 หุ้นต่อ 1 เสียง ผู้ถือหุ้นจะต้องให้คะแนนทั้งหมดตามบุคคลที่เลือกตั้ง แต่จะแบ่งเสียงให้กับผู้ใดมากน้อยไม่ได้

“การลงคะแนนเสียงในครั้งนี้ต่างจากครั้งที่แล้ว โดยมีหลักการดังนี้ หากนาย ก มี 100 คะแนน สามารถลงคะแนนเสียงให้ได้ 7 คน ดังนั้น นาย ก จะมีคะแนนเสียงทั้งหมด 700 คะแนน ซึ่งสามารถลงคะแนนให้คนใดคนหนึ่งทั้งหมดเลยก็ได้ โดยปกติแล้วหาก นาย ก มี 100 คะแนน ก็สามารถลงได้เพียง 100 คะแนน แต่กลับกลายเป็นว่าการนับคะแนนเสียงครั้งนี้ นาย ก มี 700 คะแนน ซึ่งผิดปกติจึงกลายเป็นการข้อตั้งสังเกตขึ้นมา”นายทวิชกล่าว

โดยวานนี้เมื่อดูจากเสียงโหวตที่นับได้มีประมาณ 740 ล้านเสียง แต่หากเอาคะแนนเสียงของแต่ละฝ่ายมารวมกัน เมื่อเฉลี่ยออกมาทางฝ่ายนายแพทย์วิชัย ถาวรวัฒนยงค์ มีคะแนนเสียงไม่เกิน 220 ล้านเสียง ทางฝ่ายนายทวิช เตชะนาวากุล มีคะแนนเสียงประมาณ 520 ล้านเสียง ต่างกันประมาณ 300 ล้านเสียง ทั้งนี้จำนวนเสียงทั้งหมดข้างต้นได้ตัดบัตรเสียออกไปแล้ว ซึ่งวานนี้มีบัตรเสียงค่อนข้างมากจากความสับสนในการลงคะแนนเสียงนั่นเอง

อย่างไรก็ตาม ขั้นตอนหลังจากนี้ขึ้นอยู่กับทางบริษัทว่าจะทำรายงานการประชุมส่งกระทรวงพาณิชย์เพื่อแจ้งผลของการเลือกตั้งคณะกรรมการเมื่อใด ทั้งนี้หากบริษัทไม่ทำรายงานส่งกระทรวงพาณิชย์ คณะกรรมการที่ได้รับการเลือกตั้งวานนี้ก็ยังถือว่าไม่ได้รับตำแหน่งและไม่มีผลตามกฎหมาย ส่วนการทำรายงานแจ้งให้กับตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยนั้นมีกำหนดระยะเวลาภายใน 2 อาทิตย์

สำหรับขั้นตอนต่อไปนายแพทย์วิชัย ถาวรวัฒนยงค์ ในฐานะประธานบริษัทต้องเร่งเรียกประชุมคณะกรรมการบริษัทโดยเร็วที่สุด เพื่อทำแผนการชำระหนี้มูลค่ากว่าพันล้านบาท จากหนี้ตั๋วบี/อี มูลค่า 3 พันล้านบาท และนำแผนดังกล่าวส่งให้ตลาดหลักทรัพย์ฯ พิจารณาปลดเครื่องหมาย SP

“หากมีการจดทะเบียนและเรียกประชุมคณะกรรมการบริษัทได้โดยเร็ว สัปดาห์หน้าก็สามารถทำหนังสือแผนการชำระหนี้ส่งให้กับตลาดหลักทรัพย์ และภายในสัปดาห์หน้าก็อาจจะปลดเครื่องหมาย SP ได้ เพราะการจดทะเบียนส่งกระทรวงพาณิชย์ และการทำหนังสือให้กับตลาดหลักทรัพย์นั้นสามารถทำควบคู่กันได้” นายทวิชกล่าว