ACAP ตั้งเป้าปีนี้ขยายพอร์ตสินเชื่อเป็น 6 พันลบ. จ่อสรุปผลปล่อยสินเชื่อ CLMV เร็วๆนี้
ACAP ตั้งเป้าปี 60 ขยายพอร์ตสินเชื่อเป็น 6 พันลบ. จากปี 59 ที่ 4.50 พันลบ. คาดสรุปผลการปล่อยสินเชื่อในใน CLMV เร็วๆ นี้
นางสาวสุกัญญา สุขเจริญไกรศรี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอเชีย แคปปิตอล กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ ACAP เปิดเผยถึงภาพรวมธุรกิจในปี 60 ว่า บริษัทตั้งเป้าขยายพอร์ตสินเชื่อเพิ่มขึ้นเป็น 6 พันล้านบาท จากสิ้นปี 59 ที่มีพอร์ตสินเชื่อแตะระดับ 4.50 พันล้านบาท โดยกลยุทธ์การให้บริการสินเชื่อ จะยังคงเน้นการปล่อยสินเชื่อให้กับผู้ประกอบการขนาดกลาง และขนาดใหญ่เพิ่มขึ้นเพิ่มมากขึ้น อีกทั้งบริษัทตั้งเป้ารายได้ Call Center เติบโตมากว่าปี 59 อีก 20%
ทั้งนี้ บริษัทจะมีการให้บริการด้านสินเชื่อกับผู้ประกอบการขนาดย่อม (SME) เพิ่มมากขึ้นในปีนี้ เพราะกลุ่มผู้ประกอบการดังกล่าวมีความต้องการใช้เงินเพื่อรองรับการขยายการลงทุน ปัจจุบัน บริษัทมีสัดส่วนการให้บริการสินเชื่อกลุ่มผู้ประกอบการขนาดใหญ่และขนาดกลาง ประมาณ 80% และอีก 20% เป็นการปล่อยสินเชื่อให้กลุ่มผู้ประกอบการ SME
สำหรับเม็ดเงินที่จะนำมาใช้ในการปล่อยสินเชื่อนั้น ส่วนหนึ่งมาจากกระแสเงินสดของบริษัทฯ รวมทั้งแผนการเสนอขายหุ้นกู้ วงเงินไม่เกิน 4,000 ล้านบาท ซึ่งผู้ถือหุ้นได้อนุมัติแล้วเมื่อวันที่ 28 ธ.ค.59 โดยบริษัทฯจะดำเนินการการเสนอขายหุ้นกู้ชุดแรก จำนวน 1,000 ล้านบาทในช่วงเดือน มี.ค.60 โดยเสนอขายผ่านตัวแทนจำหน่าย คือ บล.โกลเบล็ก, บล.คันทรี กรุ๊ป, บล.เออีซี และ บล.ยูโอบีฯ เชื่อว่าหุ้นกู้ดังกล่าวจะได้รับความสนใจจากนักลงทุนเนื่องจากแนวโน้มผลการดำเนินงานของบริษัทฯที่มีการปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ส่วนความคืบหน้าการเจรจากับพาร์ทเนอร์ ในประเทศเพื่อนบ้าน เพื่อบุกตลาดการปล่อยสินเชื่อใน CLMV อาทิ พม่า และ กัมพูชา นั้น อยู่ระหว่างการดำเนินการศึกษาถึงขั้นตอนการเป็นไปได้ เนื่องจากบริษัทจะต้องคำนึงถึงปัจจัยความเสี่ยงให้มากที่สุด แต่คาดว่าน่าจะสามารถสรุปในเร็ว ๆ นี้
“ในปีนี้บริษัทฯให้ความสำคัญในการให้บริการสินเชื่อภายในประเทศมากขึ้น โดยเน้นคุณภาพพอร์ตสินเชื่อเป็นหลัก แม้ว่าจะมีการเจรจาทางธุรกิจในประเทศกลุ่ม CLMV บ้าง แต่บริษัทจะต้องพิจารณาความเสี่ยงที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคตด้วย จึงยังไม่รีบร้อนในการเจรจา หรือลงทุนมากนักแต่น่าจะมีข่าวดีเร็วๆ นี้” นางสาวสุกัญญา กล่าว
ขณะที่ผลการดำเนินงานปี 59 สิ้นสุดวันที่ 31 ธ.ค.59 บริษัทมีรายได้รวม 468.803 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 314.687 ล้านบาท หรือคิดเป็น 204.10% และมีกำไรสุทธิ 212.473 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 237.615 ล้านบาท หรือคิดเป็น 945% จากการดำเนินการธุรกิจแบบเชิงรุกด้านการให้บริการสินเชื่อแก้ผู้ประกอบการรายย่อย ระดับกลาง และรายใหญ่มากขึ้น
อีกทั้งการขยายตัวของธุรกิจ Call Center ในปี 59 เติบโตได้ดีเกินเป้าหมายมาที่ 139 ล้านบาท จาก 109 ล้านบาทในปี 58 และกำไรโตจาก 2 ล้านบาทในปี 58 มาเป็น 26 ล้านบาทในปี 59