SCN ตั้งเป้าปีนี้รายได้โต 40% เตรียมงบลงทุน 1.4 พันลบ.ขยายปั๊ม NGV

นายฤทธี กิจพิพิธ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท สแกน อินเตอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ SCN เปิดเผยว่า แผนการดำเนินงานธุรกิจในปีนี้บริษัทตั้งเป้าหมายรายได้เติบโตราว 40% ตามการเติบโตของ 2 ธุรกิจหลัก คือ ธุรกิจค้าปลีกก๊าซธรรมชาติ และธุรกิจก๊าซธรรมชาติสำหรับอุตสาหกรรมในไทย หลังมีความต้องการใช้ในภาคโลจิสติกส์ และโรงงานอุตสาหกรรมเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ เนื่องจากราคาน้ำมันในตลาดโลกอยู่ในช่วงขาขึ้น โดยประเมินว่ามีโอกาสที่ราคาน้ำมันจะเพิ่มเป็น 60 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล หลังกลุ่มโอเปกและนอกโอเปกปรับลดการผลิตน้ำมัน

ปัจจัยดังกล่าวส่งผลดีต่อการดำเนินธุรกิจของ SNC ในปีนี้ เนื่องจากผู้ประกอบการภาคขนส่งปรับเปลี่ยนพฤติกรรมไปใช้เชื้อเพลิงราคาถูกที่มีความคุ้มค่ามากที่สุด ซึ่งพบว่าส่วนต่างราคา NGV กับน้ำมันดีเซล เพิ่มจาก 6.37 บาทในเดือน ม.ค.59 เป็น 13.64 บาทในเดือน ธ.ค.59 และหากเปรียบเทียบส่วนต่างระหว่างราคาน้ำมันเบนซิน 95 และราคา NGV จะเพิ่มขึ้นจาก 16.86 บาท หรือ 56% เป็น 22.01 บาท หรือ 65% ในเดือน ธ.ค.59 จึงเชื่อว่าจะทำให้มีปริมาณความต้องการใช้ก๊าซ NGV ในปีนี้จะเพิ่มขึ้น

“จากภาวะราคาน้ำมันในตลาดโลกที่ปรับตัวสูงขึ้น จึงเป็นโอกาสที่ดีของ SCN ที่จะผลักดันรายได้จากการดำเนินธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับก๊าซธรรมชาติให้เพิ่มสูงขึ้น โดยมีธุรกิจค้าปลีกและธุรกิจ iCNG เป็นหัวหอกช่วยให้ผลการดำเนินงานปีนี้เติบโตตามแผนที่วางไว้ หรือราว 40%”นายฤทธี กล่าว

นายฤทธี กล่าวว่า ในปีนี้บริษัทตั้งงบลงทุนไว้ราว 1,350 ล้านบาทเพื่อขยายสถานีบริการ (ปั๊ม) ก๊าซ NGV โดยอยู่ระหว่างการศึกษาเข้าซื้อกิจการปั๊มก๊าซ NGV สำหรับยานยนต์ 3 แห่ง โดยเฉพาะปั๊มที่สามารถรับรู้รายได้เข้ามาทันที คาดว่าจะมีความชัดเจนปีนี้ และจะก่อสร้างปั๊มก๊าซ NGV จำนวน 3 แห่งให้แล้วเสร็จ โดยสถานีน้ำพองจะสามารถก่อสร้างได้ทันที และอีก 2 แห่ง อยู่ระหว่างรอสัญญาซื้อขายก๊าซจาก บมจ.ปตท.

พร้อมกันนั้น บริษัทยังได้ขอสัญญาซื้อขายก๊าซธรรมชาติจาก ปตท.อีกจำนวน 3 แห่ง บนพื้นที่ที่มีศักยภาพในการดำเนินธุรกิจค้าปลีก NGV

บริษัทยังอยู่ระหว่างศึกษาเข้าร่วมทุนกับพันธมิตรให้บริการหัวจ่าย NGV ในสถานีบริการน้ำมันเพิ่มอีก 2 แห่ง เพื่อรองรับปริมาณความต้องการใช้ก๊าซ NGV ที่เพิ่มขึ้น ซึ่งยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้ในขณะนี้ และอยู่ระหว่างรอเซ็นสัญญากับพันธมิตรในการนำก๊าซที่ได้จากการขุดเจาะบ่อน้ำมันใน จ.เพชรบูรณ์ ไปจำหน่ายในปั๊มของพันธมิตร คาดว่าจะใช้เงินลงทุนราว 100 ล้านบาท และเชื่อว่าจะสร้างรายได้ให้ SCN ราว 100 ล้านบาท/ปี

นายฤทธี กล่าวอีกว่า บริษัทคาดว่าจะมีปั๊ม NGV ที่เปิดดำเนินงานและรับรู้รายได้ได้ทั้งหมดเพิ่มเป็น 16 สถานีในปีนี้ จากปัจจุบันดำเนินการอยู่จำนวน 7 สถานี และหากนับรวมกับการร่วมทุนกับพันธมิตรเพื่อให้บริการหัวจ่าย NGV  และการเข้าเซ็นสัญญาเข้าซื้อปั๊ม NGV อีก 3 แห่งมีความชัดเจนตามแผนงานแล้วจะส่งผลทำให้บริษัทฯจะมีสถานี NGV เพิ่มเป็น 19 สถานี

สำหรับธุรกิจก๊าซธรรมชาติสำหรับโรงงานอุตสาหกรรม (iCNG) บริษัทฯ ตั้งเป้ารายได้เติบโต 500 ล้านบาท จากปีก่อนทำได้ 200 ล้านบาท จากได้รับผลดีจากการปรับตัวขึ้นของราคาน้ำมัน โดยราคาน้ำมันเตาได้ปรับตัวขึ้นตามทิศทางราคาน้ำมันเบนซินและดีเซล จึงเป็นโอกาสในการเพิ่มปริมาณการขาย หลังจากทยอยจัดส่งก๊าซธรรมชาติให้แก่ โรงงงานอุตสาหกรรมเพื่อใช้เป็นเชื้อเพลิงในภาคการผลิตแทนน้ำมันเตา

ส่วนธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง (EPC) ปัจจุบันมีงานในมืออยู่ที่ 200 ล้านบาท โดยบริษัทฯยังคงเดินหน้าเข้าประมูลงานอย่างต่อเนื่อง ซึ่งการรับงานดังกล่าวจะอยู่ระดับ 500 ล้านบาทต่อปี และธุรกิจโซลาร์ฟาร์ม ขนาด 5 เมกะวัตต์ บนพื้นที่ 16 ไร่ จ.นครปฐม มีการขายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์เป็นที่เรียบร้อยแล้ว (COD) สามารถรับรู้รายได้ราว 60 ล้านบาทต่อปี

นายฤทธี เปิดเผยอีกว่า บริษัทอยู่ระหว่างศึกษาการนำบริษัทย่อย คือ บริษัท สยามวาสโก จำกัด ประกอบกิจการประเภทการขายส่งเคมีภัณฑ์ทางอุตสาหกรรม ซึ่ง SCN ถือหุ้นในสัดส่วน 100% เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ คาดว่าน่าจะเห็นความเป็นไปได้ภายใน 1-2 ปีจากนี้