AMATAV ตั้งเป้าปีนี้รายได้โต 28% ศึกษาเข้าพัฒนานิคมอุตฯ เมียนมาร์-ลาว
AMATAV ตั้งเป้าปีนี้รายได้โต 28%-ยอดโอนที่ดิน 20 เฮกตาร์ เผยอยู่ระหว่างศึกษาการพัฒนานิคมอุตสาหกรรมในเมียนมาร์-ลาว
นางสมหะทัย พานิชชีวะ กรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทอมตะวีเอ็น จำกัด (มหาชน) หรือ AMATAV เปิดเผยว่า บริษัทตั้งเป้ารายได้ปีนี้จะเติบโต 28% จากปีก่อนที่มีรายได้ 906.43 ล้านบาท โดยเน้นการขายที่ดินในนิคมอุตสาหกรรม Amata City Bien Hoa ซึ่งตั้งเป้ายอดโอนที่ดินรวมในปีนี้ไว้ที่ 20 เฮกตาร์ ปัจจุบันมียอดขายรอโอน (Backlog) แล้ว 12 เฮกตาร์
“ปัจจุบันอยู่ระหว่างการดำเนินการก่อสร้างถนนเพื่อเข้าถึงพื้นที่เฟสใหม่ซึ่งจะแล้วเสร็จภายในปีนี้ จะทำให้ผู้ซื้อที่ดินสามารถดำเนินการก่อสร้างโรงงานได้สะดวกมากยิ่งขึ้น เพราะที่ผ่านมาบริษัทได้ทำทางเข้าในพื้นที่เฟสใหม่เป็นการชั่วคราว นอกจากนี้บริษัทฯยังมีแผนที่จะโอนที่ดินด้านพาณิชยกรรมในด้านหน้านิคมเพิ่มเติมด้วย”นางสมหะทัย กล่าว
ทั้งนี้ บริษัทตั้งงบลงทุนในปีนี้ไว้ที่ 3,000 ล้านบาท แบ่งเป็นการลงทุนพัฒนาพื้นที่ในนิคมอุตสาหกรรมแห่งปัจจุบัน โครงการ Amata City Bien Hoa ราว 20% และนิคมอุตสาหกรรมแห่งใหม่ คือ Amata City Long Thanh และ Amata Township Long Thanh ในเมือง Long Thanh จังหวัด Dong Nai ตอนใต้ของเวียดนาม 70% และส่วนที่เหลืออีกราว 10% จะใช้พัฒนาโครงการแห่งใหม่ในพื้นที่ทางภาคเหนือ คือ Amata City Halong
สำหรับความคืบหน้าในการพัฒนานิคมอุตสาหกรรมที่เมือง Long Thanh ขณะนี้บริษัทได้รับใบอนุญาตจากรัฐบาลเวียดนามเพื่อที่จะเข้าพัฒนาครบทั้ง 3 โครงการเรียบร้อยแล้ว ได้แก่ โครงการนิคมอุตสาหกรรม High Tech พื้นที่ 410 เฮกตาร์ (2,562 ไร่) โครงการเซอร์วิส ซิตี้ (Service City) พื้นที่ 753 เฮกตาร์ (4,706 ไร่) ภายใต้ Amata City Long Thanh Joint Stock Company ขณะนี้อยู่ระหว่างขั้นตอนการเวนคืนที่ดิน คาดว่าจะดำเนินการแล้วเสร็จในช่วงกลางปีนี้ และจะเริ่มเข้าไปพัฒนาที่ดินและระบบสาธารณูปโภคในช่วงครึ่งปีหลัง เพื่อรองรับลูกค้าและรับรู้รายได้ในปี 61
ส่วนโครงการพัฒนาในส่วนของที่อยู่อาศัยและพื้นที่พาณิชยกรรมภายใต้ Amata Township Long Thanh Joint Stock Company มีพื้นที่ 107 เฮกตาร์ (669 ไร่)
ทั้งนี้ยังคงเชื่อมั่นว่าประเทศเวียดนามจะเป็นประเทศที่กลุ่มนักลงทุนให้ความสนใจ เนื่องจากมีแรงงานในวัยทำงานอยู่จำนวนมาก มีการเติบโตของเศรษฐกิจที่ดี โดยมี GDP สูงเกิน 6% และยังมีสิทธิประโยชน์จากข้อตดลงในเวทีการข้าโลกที่สำคัญ อย่างเช่น ความร่วมมือทางเศรษฐกิจเอเชีย-แปซิฟิก (เอเปก) การเป็นส่วนหนึ่งของประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) ความตกลงพันธมิตรทางการค้าระดับภูมิภาค (RCEP)
ขณะเดียวกันยังได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษีทั่วไป (GSP) จากสหภาพยุโรป ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อนักลงทุนที่ต้องการใช้ประเทศเวียดนามเป็นฐานในการผลิตเพื่อส่งออกไปยังภูมิภาคต่างๆ ดังนั้น จึงทำให้นิคมอุตสาหกรรมของอมตะเป็นเป้าหมายของการลงทุนในประเทศเวียดนามทั้งในปัจจุบันและอนาคต
นอกจากการขยายพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมอย่างต่อเนื่องในประเทศเวียดนามแล้ว บริษัทยังอยู่ระหว่างการศึกษาเพื่อที่จะเข้าไปพัฒนานิคมอุตสาหกรรมในประเทศเมียนมาร์และลาวเพิ่มเติมด้วย ซึ่งทั้ง 2 ประเทศมีการเติบโตของเศรษฐกิจที่ดี และมีการขยายการลงทุนของภาคเอกชนอย่างต่อเนื่องทั้งจากภายในประเทศและต่างประเทศ บริษัทจึงมองว่าเป็นโอกาสที่จะสามารถเข้าไปพัฒนา คาดว่าจะเห็นความชัดเจนในเร็วๆ นี้